บ้านเหล็กเล่นระดับ บังสายตาด้วยฟาซาด ทรงอาคารเรียบขรึม และการเว้นระยะจากถนนด้วยซุ้มประตูทางเข้าสีดำ เพิ่มความสงบในการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบ
DESIGNER DIRECTORY สถาปนิก : Junsekino A+D
ท่ามกลางความวุ่นวายของย่านพัฒนาการ คือ บ้านที่พรางตัวด้วยฟาซาดเหล็กทอล้อมบ้านทั้งหลัง และการเว้นระยะจากถนนด้วยซุ้มประตูทางเข้าสีดำ สะท้อนความต้องการของคู่รักที่ตั้งต้นโจทย์ในการทำบ้านบนที่ดินผืนใหม่ คือความเป็นส่วนตัว และดูแลง่าย โดยพกรายละเอียดการใช้ชีวิตไปให้ คุณจูน เซคิโน แห่ง Junsekino Architect and Design ซึ่งเป็นสถาปนิกที่ชื่นชอบและติดตามผลงานมานาน ให้ช่วยรังสรรค์ออกมาเป็นบ้านที่ตอบ โจทย์การใช้ชีวิตของทั้งคู่
ออกแบบบ้านด้วยเทคนิค “ทอยลูกเต๋า”
“ผมชอบใช้ชีวิตในห้องที่ไม่ได้รู้สึกเปิดโล่ง ชอบให้เป็นห้องๆ เป็นสัดส่วน ให้รู้สึกเหมือนเป็น Comfort Zone ไม่อยากนั่งอยู่ตรงกลางแล้วคนอยู่ตรงนั้นด้วยกันหมด รู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไร แต่ก็ไม่ต้องการให้เป็นห้องทึบที่ดูอึดอัด”
จากโจทย์ของเจ้าของบ้านทั้งสองที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยยังคงความเป็นส่วนตัวในแบบที่ชื่นชอบ และอยากได้บ้านที่มีสัดส่วนชัดเจน ไม่ต้องการพื้นที่ตรงกลางขนาดใหญ่ที่รวมฟังก์ชันหลายอย่างเข้าด้วยกัน สถาปนิกจึงเสนอแนวคิดในการเปลี่ยนระดับห้องแทนการกั้นด้วยผนัง โดยแยกห้องต่างๆ ออกมาเสมือนลูกเต๋า 5-6 ลูก ทอยเข้าไปในผืนที่ดิน แล้วจัดเรียงลูกเต๋าเหล่านี้ให้มีระดับสูงต่ำต่างกัน ทำให้ห้องต่างๆ ในบ้านค่อยๆ ถ่ายระดับขึ้น-ลงหากันในแต่ละห้อง
“บ้านจะค่อยๆ ถ่ายระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ความรู้สึกมันจะไม่ใช่บ้านสองชั้นแบบสองชั้นจริงๆ อาจจะเป็นบ้านสองชั้นครึ่ง หรือสามชั้น ค่อยๆ ถ่ายระดับไปเรื่อยๆ”
การเล่นระดับนี้ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกติดกับพื้นดินหรืออยู่ในระดับเดียวกันตลอดเวลา ลดความรู้สึกแบนเรียบและเพิ่มมิติให้การใช้ชีวิตในบ้าน และยังทำให้เกิดเป็นพื้นที่มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังดูเชื่อมต่อถึงกัน
นอกจากนี้ การกระจายของลูกเต๋าทำให้เกิดซอกเล็กๆ ที่สถาปนิกใช้ในการนำแสง อากาศ และธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้าน จากความตั้งใจที่ “ให้หนึ่งกล่องมีปฏิสัมพันธ์กับอากาศได้สองด้าน ไม่อยากให้เป็นซอกหรือปิดมากเกินไป พูดง่ายๆ เวลาเข้าไปในแต่ละโซนจะมีส่วนที่สัมผัสกับภายนอก สองด้านแน่นอน” สถาปนิกจึงทำพื้นที่ส่วนนี้เป็น Pocket Garden ขนาดเล็กที่เล่นระดับไปพร้อมกับภายในบ้าน ทำให้สามารถมองเห็นวิวสีเขียวได้จากหลากมุม ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านที่ชื่นชอบ แสงธรรมชาติและการได้มองเห็นต้นไม้ การออกแบบที่เล่นระดับบนผืนที่ดินขนาดจำกัดนี้ ยังเปลี่ยนคำนิยามใหม่ของบ้าน โดยแสดงให้เห็นว่าบ้านไม่จำเป็นต้องมีเพียงหนึ่งหรือสองชั้น และยังสามารถ สร้างมิติใหม่ๆ ให้ตัวอาคาร ทั้งภายนอกที่ดูไม่แบนเรียบ และภายในมีพื้นที่ที่น่าสนใจมากขึ้น
บ้านเหล็กเล่นระดับ ที่ภายนอกเฉียบคม แต่มีความอบอุ่นอยู่ภายใน
การเลือกใช้เหล็กเป็นโครงสร้างหลักของบ้าน เป็นอีกหนึ่งโจทย์หลักของเจ้าของบ้านที่ปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรและนักบิน ซึ่งแต่เดิมทั้งคู่ทำงานเป็นวิศวกร จึงมีความชื่นชอบโครงสร้างเหล็กเป็นพิเศษ ด้วยเอกลักษณ์เรื่องความเรียบตรงและความแม่นยำในการก่อสร้าง “โครงสร้างเหล็กมีความเป๊ะ เสาเหล็กมันจะตรง ไม่เหมือนเสาคอนกรีตที่ต้องหล่อขึ้นมาซึ่งมีโอกาสเบี้ยวได้ จึงต้องฉาบหรือพอกโครงสร้างจริงให้ใหญ่ขึ้นเพื่อบังความเบี้ยวของเสาหรือคาน จึงเลือกเป็นโครงสร้างเหล็กที่มีความแม่นยำสูง”
ความตั้งใจแรกของเจ้าของในการทำบ้านโครงสร้างเหล็กทรงเรียบๆ คมๆ และต้องการรักษา ความรู้สึกของการเป็น Comfort Zone ที่อบอุ่นและน่าอยู่ จึงทำให้สถาปนิกลงรายละเอียดบ้านในรูปแบบของบ้านอีกรูปแบบด้วยการออกแบบโครงสร้างให้เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ เพื่อคงความเฉียบคมในเส้นสายงาน สถาปัตย์ แต่ก็กลมกล่อมในความรู้สึก
“เวลาเราทำดีเทลต่างๆ ในงานโครงสร้าง เราคิดถึงงานตกแต่งภายในไปด้วย อย่างงานบันได เราออกแบบให้เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งของบ้าน เรามองทุกอย่างไม่ใช่โครงสร้าง แต่มองเป็น เฟอร์นิเจอร์ เลยผสมผสานเข้าไปเป็นส่วนเดียวกัน”
การเลือกสรรวัสดุสำหรับ บ้านเหล็กเล่นระดับ หลังนี้ถูกพิจารณาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้บ้านดูละมุนและนุ่มนวลขึ้น การใช้ฟาซาดตะแกรงเหล็กฉีกสีขาวแทนผนังเรียบแบบทั่วไป ไม่เพียงทำให้บ้านดูเบาขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อกับภายนอกได้ พื้นชั้นล่างทำพื้นผิวหินขัดซึ่งเป็นวัสดุที่เจ้าของบ้านเลือกด้วยความตั้งใจ ด้วยความรู้สึกว่าหินขัดมีความเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ ทำให้พื้นดูเป็นผืนเดียวกันขนาดใหญ่ต่อเนื่องมากกว่าการใช้กระเบื้องที่มีรอยต่อเป็นตาราง ซึ่งสถาปนิกก็ออกแบบให้ออกมาดูกลมกลืนกับวัสดุอื่นๆ และสเปซของบ้านได้อย่างลงตัว
กลิ่นอายความเป็นบ้านที่แทรกอยู่ใน บ้านเหล็กเล่นระดับ
ความโดดเด่นของวัสดุเหล็กที่ก่อสร้างได้ไว ทำให้งานส่วนโครงสร้างหลักของบ้านดำเนินการ เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่ถึงปี เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงรายละเอียดงานตกแต่ง ก็มาพบกับสถานการณ์โควิด -19 ที่ทำให้แผนการทำบ้านยืดยาวออกไปเกือบสี่ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ ก็นำมาสู่การทำงานรูปแบบใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านได้ไม่น้อย คือการออกแบบภายนอกและภายใน ไปพร้อมกับงานออกแบบสวนที่สร้างสรรค์เองโดยเจ้าของบ้าน
โดยหลังจากโครงสร้างหลักเสร็จสิ้น เจ้าของบ้านก็เริ่มคัดสรรไม้ประธานมาปลูก ส่วนมากเป็นพรรณไม้ไทยที่ชื่นชอบและดูแลง่าย เช่น เหลืองปรีดิยาธร แคนา ชงโค การเลือกต้นไม้และวางแผนการปลูกไปพร้อมๆ กับขั้นตอนการก่อสร้าง ด้วยความยืดหยุ่นของโครงสร้างเหล็ก ทำให้สามารถปรับโครงสร้างบ้านเข้ากับต้นไม้ได้อย่างลงตัว และจากการทำงานร่วมกันของสถาปนิกและเจ้าของบ้าน จึงส่งผลให้บ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของความเป็นบ้านสูงมาก
เมื่อมองจากภายนอก เราจึงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าภายในบ้านจะมีบรรยากาศที่ร่มรื่นและอบอุ่นเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ สถาปนิกได้ตีโจทย์บ้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสามารถจัดสรรพื้นที่สีเขียวและพื้นที่อยู่อาศัยบนพื้นที่จำกัดได้อย่างลงตัว บ้านหลังนี้จึงไม่เพียง แต่ตอบสนองความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ที่น่าประทับใจและเป็นพื้นที่ พักผ่อนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คอลัมน์ บ้านสวย ก.ย. 67
เรื่อง : ณัชชา คู่พันธวี
ภาพ : กรานต์ชนก บุญบำรุ
สไตล์ : ชนม์นิภา จันทรัตน์
อ่านสารพัดไอเดียบ้านโครงสร้างเหล็กอื่นๆ ได้ ในหนังสือ “Steel House รวมบ้านโมเดิร์นโครงสร้างเหล็ก”