ในช่วงหลายปีมานี้เราจะเห็นธุรกิจ บ้านสำเร็จรูป เป็นที่นิยมในหมู่ของคนที่ต้องการสร้างบ้านขนาดพอเหมาะ บ้านที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้าง ไม่บานปลาย หรือนำไปประยุกต์เป็นร้านค้าหรือพื้นที่ธุรกิจต่าง ๆ
เช่นเดียวกันกับบ้านสำเร็จรูปแบรนด์ MOOD Living แบรนด์ที่ก่อตั้งโดยคนไทย ที่มีจุดเริ่มต้นจากการได้พบเจอ pain point ของการสร้างบ้านแบบเดิมๆ ที่มักมาพร้อมกับปัญหาไม่คาดคิดมากมาย ไม่ว่าจะในฐานะสถาปนิกผู้ออกแบบหรือเจ้าของบ้าน จึงเป็นที่มาของแบรนด์บ้านสำเร็จรูป ที่เลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพและให้ความมั่นคงแข็งแรงในระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยถาวร โดยการทำงานร่วมกันของทีมสถาปนิก-นักออกแบบ ชาวไทยและญี่ปุ่น กับทีมผลิตและก่อสร้างโครงสร้างแบบแห้ง (Dry Process) ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า20ปี
บ้าน “กล่อง” สำเร็จรูป
สำหรับบ้านสำเร็จรูปซีรีย์แรกของแบรนด์ MOOD Living จะมีชื่อเรียกว่า “HAKO” หรือ “กล่อง” ในภาษาญี่ปุ่น ตามรูปลักษณ์เฉพาะตัวของบ้านซีรี่ย์นี้ ตัวบ้านจะถูกกำหนดความกว้างไว้ที่ 3.15 เมตร โดยสามารถเลือกความยาวและจำนวนชั้นที่แตกต่างกันได้ อย่างเช่น HAKO 5.5 และ HAKO 8.3+ ซึ่งเป็นแบบบ้านตัวอย่าง 2 หลัง โดยความยาวของบ้านจะไม่เกิน 12 เมตร เพื่อคงสัดส่วนด้านความงามและการขนส่งไว้
บ้านมินิมัลที่ปรับได้ดั่งใจคุณ
จากจุดเริ่มต้นของการเป็นบ้านสำเร็จรูปที่มีหนึ่งในหัวใจคือ การจัดการพื้นที่ขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบของญี่ปุ่น นำมาซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งภายในในสไตล์ Minimal Design ที่สวยงาม เน้นความเรียบง่าย โดยเจ้าของบ้านสามารถเลือกปรับเลย์เอ๊าต์ภายในบ้านให้ตอบโจทย์กับการใช้งานของตัวเองได้ ในรูปแบบของ Modular Design ผ่านระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถลองปรับเปลี่ยนตำแหน่งห้องต่าง ๆ เลือกตำแหน่งช่องเปิด ผนังบ้านให้ตรงใจที่สุดได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่คลิ้ก พร้อมสนุกไปกับการปรับแต่งความฝันของตัวเอง
บ้านสำเร็จรูปที่เลือกใช้วัสดุพรีเมียมทั้งหลัง
ด้วยความตั้งใจให้บ้านสำเร็จรูปของแบรนด์เป็นบ้านก่อสร้างไวที่สามารถอยู่อาศัยได้จริงในระยะยาว “เน้นความคงทนถาวร” ที่สำคัญคือ “ไม่ต้องดูเเลรักษาเยอะ” วัสดุที่เลือกใช้ในงานตกแต่งที่คัดสรรวัสดุพรีเมียมที่ให้การรับประกันการใช้งานสูงสุด 10-25 ปี (ตามเงื่อนไขผู้ผลิต) อย่างหลังคาที่เลือกใช้จึงเลือกเป็น #COLORBONDsteel คุณภาพสูงจาก บลูสโคป ที่ให้การรับประกันต่อการไม่ผุกร่อนสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งยังตอบโจทย์การเป็นบ้านสำเร็จรูปที่ต้องการน้ำหนักเบาด้วยความตั้งใจให้บ้านสำเร็จรูปของแบรนด์เป็นบ้านก่อสร้างไวที่สามารถอยู่อาศัยได้จริงในระยะยาว “เน้นความคงทนถาวร” และที่สำคัญคือ “ไม่ต้องดูเเลรักษาเยอะ” วัสดุที่เลือกใช้ในงานตกแต่งจึงคัดสรรวัสดุพรีเมียมที่ให้การรับประกันการใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป (ตามเงื่อนไขผู้ผลิต) อย่างหลังคาที่เลือกใช้จึงเลือกเป็น #COLORBONDsteel คุณภาพสูงจาก บลูสโคป ที่ให้การรับประกันต่อการไม่ผุกร่อนสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งยังตอบโจทย์การเป็นบ้านสำเร็จรูปที่ต้องการน้ำหนักเบาทว่าแข็งแรง ทำการเสริมโฟมหนา 3 นิ้ว ช่วยกันความร้อนที่จะเข้าสู่ภายในอาคาร ป้องกันปัญหาเสียงดังเวลาฝนตก ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย รวมถึงตัวโครงสร้างเลือกใช้เหล็กรูปพรรณและเหล็ก มอก. สำหรับงานก่อสร้างที่รับประกันถึง 10 ปี
อยู่สบายไม่ร้อนด้วยระบบผนังสองชั้น
ส่วนของผนัง เป็นดีไซน์พิเศษแบบ Double wall คือระบบผนังโครงสร้างเหล็กที่มี ISO Wall เป็นไส้กลาง แล้วประกบด้วยวัสดุทั้งสองฝั่ง ด้านนอกกรุด้วยซีเมนท์บอร์ด พร้อม Air Gap ทำให้สามารถกันน้ำ กันความร้อน ได้ถึงสองชั้น ทำให้ภายในบ้านรู้สึกเย็นสบาย ส่วนด้านในกรุด้วยยิปซัมที่ให้ผิวสัมผัสที่สวยงาม มีผิวเรียบ เก็บงานง่ายทำให้ดูเรียบร้อย ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยเรื่องกันเสียงสะท้อนได้ดี
ความสวยงามที่มาพร้อมความทนทาน
ในส่วนของงานตกแต่งเลือกใช้เฉพาะไม้สังเคราะห์คุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติคงทน ไม่ต้องดูแลรักษาเยอะ มีลวดลายและสัมผัสเสมือนไม้จริง ทั้งในส่วนของงานภายในอย่างพื้น ผนัง บันได และเฟอร์นิเจอร์บิ้ลด์อิน ไปจนถึงภายนอกอย่าง ประตูหน้าต่างระเบียงและชายคา เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของไม้จริงที่อาจมีปัญหาสีซีดหรือไม้บวมไปตามกาลเวลา ต่อเนื่องไปยังการออกแบบหลังคาที่เลือกใช้ #COLORBONDsteel เพราะนอกจากน้ำหนักเบาและคงทนแล้ว เมทัลชีทยังตอบโจทย์หลังคาทรงจั่วที่ดูเรียบ สบายตา สามารถยื่นชายคาเพียงเล็กน้อย ร่วมกับการออกแบบดีเทลป้องกันน้ำไหลย้อนบริเวณปลายหลังคา เพื่อยังคงภาพรวมของความมินิมัลสไตล์บ้านญี่ปุ่นสมัยใหม่ และยังป้องกันปัญหาคราบน้ำฝนบริเวณผนังบ้านได้เป็นอย่างดี
สำหรับบ้าน Hako ก็เป็นอีกโปรเจกต์หนึ่งที่เลือกใช้ COLORBOND® steel สี Posh Grey ในส่วนของหลังคา ซึ่งเป็นเมทัลชีทเคลือบสีเกรดพรีเมียมคุณภาพสูงสุดจากบลูสโคป ที่ได้รับความไว้วางใจจากสถาปนิกเลือกใช้เป็นหลังคาและผนังของโครงการชั้นนำต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ เพราะนอกจากเฉดสีและผิวสัมผัสแบบด้าน (Matt) ที่สวยงามไม่สะท้อนแสง ยังมีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนมากกว่ารุ่นทั่วไป จึงรับประกันการไม่ผุกร่อนจนเป็นรูพรุนยาวนานสูงสุด 35 ปี และสามารถทนต่อแสง UV จึงต้านทานการซีดจางหรือหลุดเป็นผงของสีได้ดี รับประกันนานสูงสุด 12 ปี*
.
ออกแบบสถาปัตยกรรม: MOOD Living
ภาพ: ธนายุต วิลาทัน
อ่านต่อ บ้านสุขใจ” บ้านไม้กลางเขาใหญ่เน้นสุขกายสบายใจ
