Lasalle House ออกแบบบ้านแคบให้น่าอยู่ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของนักซ่อมเครื่องดนตรี

ออกแบบบ้านแคบให้น่าอยู่ บนที่ดินแค่ 37 ตารางวา หรือ 17X8 เมตร ในย่านลาซาล หลังนี้ ได้รับการออกแบบโดยสตูดิโอ VILAA ที่มาพร้อมโจทย์ด้านฟังก์ชันและการสร้างบรรยากาศที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่นและสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้แม้ในพื้นที่จำกัด

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: STUDIO VILAA

ตัวบ้านมีรูปทรงโมเดิร์นเรียบง่ายทรงกล่องสีขาว 2 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร กับวางตำแหน่งพื้นที่อยู่อาศัยตามฟังก์ชัน โดยชั้นล่างออกแบบให้เป็นพื้นที่พับลิคเชื่อมต่อกันระหว่างห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและครัวในลักษณะโอเพ่นแปลน สามารถรองรับกลุ่มเพื่อน ๆ นักดนตรีที่มักแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ

ออกแบบบ้านแคบ บนที่ดินแค่ 37 ตารางวา หรือ 17X8 เมตร ในย่านลาซาล
บ้านในซอยลาซาลรูปทรงโมเดิร์นเรียบง่าย ทรงกล่องสีขาว 2 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร กับวางตำแหน่งพื้นที่อยู่อาศัยตามฟังก์ชัน
ออกแบบบ้านแคบ บนที่ดินแค่ 37 ตารางวา หรือ 17X8 เมตร ในย่านลาซาล ออกแบบโดยสตูดิโอ VILAA
แนวรั้วที่สร้างจากอิฐลอนวัสดุธรรมดาแบบบ้านสมัยก่อน เพื่อสร้างความรู้สึกแตกต่างจากฟอร์มของบ้านสีขาวที่เรียบคลีน
สร้างจากอิฐลอนวัสดุธรรมดาแบบบ้านสมัยก่อน เพื่อสร้างความรู้สึกแตกต่างจากฟอร์มของบ้านสีขาวที่เรียบคลีน
สร้างจากอิฐลอนวัสดุธรรมดาแบบบ้านสมัยก่อน เพื่อสร้างความรู้สึกแตกต่างจากฟอร์มของบ้านสีขาวที่เรียบคลีน

เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ แต่ยังต้องการความเป็นส่วนตัว จึงออกแบบให้มีพื้นที่คอร์ตขนาดเล็กตรงกลางบ้าน โดยอยู่ตรงตำแหน่งหลังแนวรั้วที่สร้างจากอิฐลอนวัสดุธรรมดาแบบบ้านสมัยก่อน เพื่อสร้างความรู้สึกแตกต่างจากฟอร์มของบ้านสีขาวที่เรียบคลีน

Lasalle House ออกแบบบ้านแคบให้น่าอยู่
รูปทรงโค้งมนคือเครื่องมือที่นำมาใช้ในการลดเหลี่ยมมุมและเพิ่มความสบายตาให้กับบ้าน
ออกแบบบันไดให้มีชานพักเพื่อแบ่งโซนนั่งเล่นออกจากโซนรับประทานอาหาร
พื้นที่นั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารกับครัวที่จัดแบบโอเพ่นแปลน
มีการคำนึงถึงทิศทางแสงและการระบายอากาศ ช่วยให้บ้านยังคงความสว่างตลอดทั้งวัน

การออกแบบให้มีพื้นที่คอร์ตเป็นอีกวิธีหนึ่งทีช่วยเพิ่มความโปร่งให้บ้านแล้ว แถมยังช่วยให้พื้นที่ภายในได้รับแสงจากมุมที่เป็นส่วนตัว โดยที่หน้าต่างและช่องเปิดของบ้านออกแบบให้หันเข้าหาคอร์ตพอดี มีไม้ยืนต้นคอยสร้างร่มเงาและลดความร้อนจากแสงแดดในทิศตะวันตกที่กระทบกับบ้านในช่วงบ่าย แถมยังช่วยเสริมความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอน ตัวบ้านดูแปลกตาตัดขอบชั้นบนด้วยแนวโค้งขนาดใหญ่ ทำให้บ้านมีความนุ่มนวล ไม่เป็นรูปทรงกล่องแข็งกระด้างเกินไป แถมยังเสริมมิติของแสงเงาที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาของวัน

ไอเดียคอร์ตสวนในบ้านแคบ
มีไม้ยืนต้นคอยสร้างร่มเงาและลดความร้อนจากแสงแดดในทิศตะวันตกที่กระทบกับบ้านในช่วงบ่าย
ออกแบบให้ฝ้าสูงถึง 5 เมตร เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่ง
ติดตั้งสกายไลท์ตามแนวยาวของบ้านช่วยให้ได้รับแสงจากด้านบน

เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในจะพบว่าได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพื้นที่นั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารกับครัวที่จัดแบบโอเพ่นแปลน โดยไม่มีผนังกั้นระหว่างพื้นที่ดังกล่าว การใช้พื้นที่แบบนี้ช่วยให้บ้านดูโล่งและใช้งานได้หลากหลาย ในส่วนของครัวมีเพียงแพนทรี่เล็ก ๆ และโต๊ะรับประทานอาหารที่เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนพื้นที่ด้านข้างบ้านได้ขยับผนังไปชนขอบ Setback เพื่อให้ได้พื้นที่ที่เยอะขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นผนังทึบ แต่ก็ยังคงเปิดช่องหน้าต่างเล็ก ๆ เพื่อให้แสงเข้ามาในบ้านได้ รวมถึงติดตั้งสกายไลท์ตามแนวยาวของบ้านช่วยให้ได้รับแสงจากด้านบน

สกายไลท์ ตัวช่วยสำคัญในการดึงแสงสว่างเข้ามาในบ้านหลังนี้

เพราะที่ดินมีข้อจำกัด สถาปนิกจึงเลือกขยายการใช้งานพื้นที่แนวตั้ง เพิ่มฝ้าสูงในส่วนห้องรับประทานอาหารถึง 3 เมตร และออกแบบบันไดให้มีชานพักเพื่อแบ่งโซนนั่งเล่นออกจากโซนรับประทานอาหาร บางพื้นที่ออกแบบให้ฝ้าสูงถึง 5 เมตร เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่ง และเสริมสกายไลท์อีกหนึ่งจุดที่เล็กแต่ยาวไปตามแนวห้องนั่งเล่น ทำหน้าที่ดึงแสงธรรมชาติให้เข้ามาจากด้านบน โดยใช้ Indirect Lighting และแนวฝ้าโค้งช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น แก้ปัญหาการติดไฟในฝ้าที่สูงมาก ๆ ซึ่งอาจจะยากต่อการบำรุงรักษา

มุมเปียโนมีสกายไลท์รูปวงกลมอยู่ด้านบน

พื้นที่นั่งเล่นยังเชื่อมต่อกับทางเข้ารองที่จัดวางไว้สำหรับแขก บริเวณนี้จัดวางเปียโนไว้หนึ่งหลังซึ่งเป็นของสะสมของเจ้าของบ้าน เป็นอีกจุดหนึ่งที่โดดเด่น โดยมีสกายไลท์รูปวงกลมอยู่ด้านบน ตรงจุดนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น เป็นพื้นที่นั่งจิบเครื่องดื่มในช่วงกลางคืนที่สามารถมองขึ้นไปเห็นท้องฟ้าจากภายในบ้าน รวมถึงแขกที่มักเป็นนักดนตรียังสามารถบรรเลงเพลงได้ในมุมนี้

พื้นที่ใต้บันไดออกแบบให้เป็น Pocket Sofa น่ารัก ๆ สามารถเลื่อนประตูกระจกเปิดออกไปเชื่อมต่อกับคอร์ตด้านหลัง

โถงบันไดวางไว้ตรงกลางบ้านทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างชั้นล่างกับชั้นบน โดยออกแบบให้มีสกายไลท์ทรงกลมอยู่เหนือบันไดช่วยให้แสงส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง และติดไฟนำทางที่มือจับบันไดแทนการติดไฟบนฝ้าสูงเพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษา พื้นที่ใต้บันไดออกแบบให้เป็น Pocket Sofa น่ารัก ๆ ที่สามารถเลื่อนประตูกระจกเปิดออกไปเชื่อมต่อกับคอร์ตด้านหลังได้ เพื่อเพิ่มมุมมองที่ดูโปร่งโล่งและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ด้านในกับนอกบ้าน

ชั้น 2 มีจำนวน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว ได้รับการจัดวางไว้อย่างเป็นส่วนตัว

ส่วนห้องนอนที่ชั้น 2 มีจำนวน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว ได้รับการจัดวางไว้อย่างเป็นส่วนตัว แม้บ้านนี้จะมีการใช้สกายไลท์ในหลายจุด แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเพราะได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อควบคุมแสงแดดไม่ให้ทำให้บ้านร้อนจนเกินไป โดยมีการคำนึงถึงทิศทางแสงและการระบายอากาศ ช่วยให้บ้านยังคงความสว่างตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟในเวลากลางวัน

ที่นี่จึงเป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างฟังก์ชันกับความงามของสเปซที่ได้รับความใส่ใจทุกรายละเอียด รูปทรงโค้งมนคือเครื่องมือที่นำมาใช้ในการลดเหลี่ยมมุมและเพิ่มความสบายตาให้กับบ้าน แถมวัสดุที่เลือกใช้ยังเป็นวัสดุที่หาง่ายและเรียบง่าย มีการนำไปใช้ที่เปลี่ยนหน้าที่ไปจากเดิมช่วยให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับการตัดสินใจว่าอะไรควรอยู่และอะไรที่ต้องถอดออก เพื่อให้บ้านมีทั้งความสมบูรณ์ด้านการใช้งานและบรรยากาศที่ตอบสนองทั้งอารมณ์และฟังก์ชันอย่างลงตัว สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างเจ้าของบ้าน ดีไซเนอร์ และผู้รับเหมา ที่ร่วมกันสร้างสรรค์บ้านหลังเล็ก ๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ทุกด้านของการใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดแม้ในพื้นที่ขนาดจำกัด

ออกแบบ: VILAA โทร. 08-1684-5932
ก่อสร้าง: N.A.Plus.Property (https://www.facebook.com/profile.php?id=61562050046425)
โทร. 06-1945-5628
ภาพ: PanoramicStudio / Thiti Panacharas
เรียบเรียง: Phattaraphon


Bread House เปลี่ยนพื้นที่ ทาวน์โฮม หน้าแคบ สู่บรรยากาศน่าอยู่แบบรีสอร์ท