ตรวจสอบระบบไฟฟ้า วิธีดูแลบ้านให้ปลอดภัย อะไรบ้างที่ควรเช็ก

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจละเลย แต่เป็นเรื่องที่มีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยภายในบ้าน ระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจนำไปสู่อันตรายต่าง ๆ ได้ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ หรือไฟดับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิดและส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน 

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในอาคารอย่างสม่ำเสมอ จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันอุบัติเหตุเหล่านี้และยังสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในครอบครัว ทำให้บ้านเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและน่าอยู่อาศัยมากขึ้น ดังนั้น การให้ความสำคัญกับเรื่องการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของคนที่คุณรักอย่างแท้จริง

Alt :  ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างไร?

การตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างมากในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ไฟฟ้า ซึ่งการตรวจระบบไฟฟ้าประจำปีอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที เช่น สายไฟที่ชำรุดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพ ซึ่งหากไม่รีบแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจนำไปสู่ปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดไฟไหม้ได้ 

นอกจากนี้ การตรวจสอบระบบไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของไฟฟ้าในบ้าน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างราบรื่นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในเรื่องความปลอดภัยภายในบ้านอีกด้วย

ตรวจสอบระบบไฟฟ้าสิ่งที่ต้องตรวจเช็กมีอะไรบ้าง?

Alt : การตรวจสอบระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในบ้านหรืออาคาร แต่หลายคนอาจมีความสงสัยว่าควรตรวจเช็กอะไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าอยู่ในสภาพดีและปลอดภัย ในหัวข้อนี้ เราจะมาแนะนำสิ่งสำคัญที่ควรอยู่ในรายการตรวจสอบระบบไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณจะมีระบบไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยมีรายการตรวจสอบดังนี้

1. ตรวจสอบเมนสวิตช์

เมนสวิตช์เป็นศูนย์กลางควบคุมการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้าน โดยการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจุดนี้ควรเริ่มจากการสังเกตสภาพภายนอกของตู้เมนสวิตช์ว่ามีความเสียหาย รอยไหม้ หรือร่องรอยความชื้นอะไรหรือไม่ จากนั้นให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าดูว่าสวิตช์ตัดตอนหลัก (Main Circuit Breaker) และเซอร์กิตเบรกเกอร์ย่อยทำงานได้ ไม่มีความหลวมหรือความร้อนผิดปกติ และควรทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว (RCD หรือ ELCB) เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถตัดไฟได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้ารั่ว

2. การทดสอบมิเตอร์ไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในส่วนนี้ควรดูว่า ตัวเลขบนมิเตอร์มีการแสดงผลชัดเจนและหมุนเปลี่ยนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการใช้ไฟฟ้าหรือไม่ โดยแนะนำให้เปรียบเทียบค่าการใช้ไฟฟ้าที่แสดงบนมิเตอร์กับใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าเพื่อเช็กความถูกต้อง หากพบว่ามีความผิดปกติ เช่น มิเตอร์หมุนเร็วหรือช้าผิดปกติ ควรแจ้งการไฟฟ้าเพื่อให้เข้ามาแก้ไข ซึ่งการตรวจสอบมิเตอร์นั้น จะช่วยให้ตรวจจับปัญหาการรั่วไหลของไฟฟ้าหรือการใช้ไฟฟ้าที่ผิดปกติได้

3. ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าควรเช็กสภาพเต้ารับทุกจุด ดูว่ามีรอยแตกร้าว เสียหาย หรือร่องรอยไหม้หรือไม่ นอกจากนี้ ควรดูความแน่นหนาของเต้ารับกับผนังว่าไม่มีการหลวมคลอน ซึ่งอาจนำไปสู่การสัมผัสกับสายไฟภายในได้ โดยการตรวจเช็กที่ละเอียดควรใช้เครื่องทดสอบไฟฟ้ากับเต้ารับแต่ละจุด ว่ามีกระแสไฟฟ้าจ่ายอย่างถูกต้องและมีการต่อสายดินที่เหมาะสม ถ้าพบว่าเต้ารับไฟฟ้ามีปัญหา ควรทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่โดยช่างไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ

4. ตรวจสอบสายไฟฟ้า

คุณสามารถตรวจสอบระบบไฟฟ้าในส่วนของสายไฟได้ ด้วยการเช็กสภาพภายนอกของสายไฟในบ้าน โดยสังเกตว่าสายไฟมีรอยฉีกขาด เปื่อย หรือเสื่อมสภาพในจุดใดหรือไม่ สำหรับสายไฟที่ซ่อนอยู่ในผนังหรือฝ้าเพดาน ควรสังเกตร่องรอยความร้อนผิดปกติหรือกลิ่นไหม้ที่อาจบ่งชี้ถึงปัญหา รวมถึงจุดต่อสายไฟแต่ละจุดว่ามีความแน่นหนาและไม่หลวม ในกรณีที่มีสายไฟเก่าหรือใช้งานมานาน ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

5. ตรวจสอบหลอดไฟ

การสังเกตการทำงานของหลอดไฟทุกดวงเป็นการตรวจสอบระบบไฟฟ้าขั้นพื้นฐานที่ทำได้ง่าย ๆ โดยดูว่ามีหลอดไฟดวงใดที่กะพริบผิดปกติ ให้แสงสว่างน้อยลง หรือไม่ติด นอกจากนี้ ควรตรวจสอบขั้วหลอดไฟและโคมไฟเพิ่มเติมในเรื่องรอยไหม้ ความร้อน หรือการเสื่อมสภาพ เมื่อพบหลอดไฟเสียควรเปลี่ยนทันที โดยเลือกใช้หลอดไฟที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ซึ่งการตรวจสอบหลอดไฟอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ที่เกิดจากหลอดไฟมีปัญหาอีกด้วย

ขั้นตอนการทำงานตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยช่างไฟฟ้ามืออาชีพมีบริการอะไรบ้าง?

ขั้นตอนการให้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยช่างไฟฟ้ามืออาชีพ โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้

  • การประเมินเบื้องต้น : ช่างจะเดินทางมายังสถานที่เพื่อทำการสำรวจและประเมินสภาพระบบไฟฟ้า 
  • การเช็กปัญหาและสรุปรายละเอียด : ช่างเช็กปัญหาและสรุปผลการตรวจสอบ พร้อมอธิบายสภาพปัจจุบันให้ทราบ
  • การเสนอแนวทางแก้ไข : แจ้งวิธีแก้ไขปัญหาที่พบและประมาณการค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือปรับเปลี่ยน 
  • การดำเนินการ : นัดหมายวันและเวลาในการเข้าดำเนินการ และจัดการเรื่องการชำระเงิน

สรุปการตรวจสอบระบบไฟฟ้าแนวทางการรักษาความปลอดภัยภายในบ้านที่ไม่ควรมองข้าม!

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งในการตรวจสอบควรครอบคลุมทุกส่วนสำคัญ โดยการดูแลรักษาระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันอันตรายต่าง ๆ จากไฟฟ้า รวมทั้งยังช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้ 

สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจเช็กอย่างละเอียด ขอแนะนำบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจาก ‘คิวช่าง (Q-CHANG)’ ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบและชัดเจน โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบทุกขั้นตอนในทุกจุดสำคัญ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยสูงสุดของระบบไฟฟ้าในบ้านของคุณ