อยู่ดี อยู่แล้วดี รู้สึกดีที่ได้มาอยู่ คือคำที่เราจะนึกถึงเมื่อได้มาสัมผัสกับ Yudee Assets บ้านพักตากอากาศกลิ่นอายย้อนยุค โดยไม่ใช่การเข้าอยู่เป็นห้อง ๆ แต่คือบ้านทั้งหลังที่ตั้งใจออกแบบให้ผู้เข้าพักรู้สึก สุขกาย สุขใจ อยู่สบาย และมีความสุขที่ได้มาใช้เวลาร่วมกันกับคนที่รัก ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนสนิท ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพราะบ้านทุกหลังเป็น Pet-Friendly
เสน่ห์ของบ้านทั้งสามหลัง คือ สถาปัตยกรรมยุค 1980 ที่เคยเป็นบ้านพักตากอากาศในหัวหิน ของครอบครัว คุณบิ๋ม-อินธอร อังศวานนท์ และเมื่อได้มีโอกาสเข้ามาทำบ้านใหม่ คุณบิ๋มจึงได้เก็บความทรงจำวัยเด็กและความชอบของเธอเข้ามาแต่งบ้านแต่ละหลังให้มีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ยังคงความเก่าที่เห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจ และสวยจนเมื่อเดินเข้าไปแต่ละห้องแล้วจะประทับใจยิ่งไปกว่าเดิม
ตามมาอ่านแนวคิดการรีโนเวตบ้านเก่าให้ทรงคุณค่าและเรื่องราวที่มาของบ้าน 3 หลังอันมีชื่อเป็น ปลา 3 สายพันธุ์ในแบบฉบับของ Yudee Assets จากคุณบิ๋มได้ในบทความนี้
จากหมู่บ้านแรกในหัวหิน สู่บ้านสามหลังของ Yudee Assets
จุดเริ่มต้นของ Yudee Assets มาจากความอยากนำบ้านพักตากอากาศหลังเดิมของครอบครัว ทั้ง 3 หลังมารีโนเวตใหม่ โดยมีบ้าน Molly และ Dolly ที่อยู่ในหมู่บ้านสุขสำราญ ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรกในหัวหิน สร้างขึ้นเมื่อปี 1980 โดยมีบ้านเพียง 40 หลัง ตั้งเรียงเคียงกันเป็นทางยาวไล่จากถนนใหญ่ไปจนถึงคลับเฮาส์ส่วนกลางในสไตล์สถาปัตยกรรมยุค 80 เช่นเดียวกับตัวบ้าน ที่ตั้งอยู่ติดริมชายหาดทรายขาวเนียน
แม้จะเป็นหมู่บ้านเก่าที่อยู่มาหลายสิบปี แต่ที่นี่เรียกได้ว่าเป็น Prime Area ของหัวหิน เพราะล้วนรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ใกล้ร้านอาหาร จุดชมวิว เชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม ถนนสายหลักเพื่อเดินทางจากเมืองหลวงลงยังภาคใต้ และขนาบด้วยหลากหลายโรงแรมชั้นแนวหน้า อีกทั้งยังคงความเงียบสงบและความส่วนตัวไว้ได้อย่างเต็มที่
“บ้านสามหลังที่เรามีอยู่ คือบ้านพักตากอากาศของครอบครัว 2 หลังอยู่ในโครงการหมู่บ้านสุขสำราญ หมู่บ้านแรกในหัวหิน สร้างขึ้นเมื่อปี 1980 ก็ประมาณ 42 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ย ตัวบ้านมันก็จะดูมีความโบราณ โครงสร้างทุกอย่างมันจะดูโบราณ โบราณ ต้นม้งต้นไม้ แต่ว่าที่นี่ก็จะมีพี่แม่บ้าน คนสวนมาดูแลอย่างดี ให้มันน่าอยู่ อยู่ตลอดเวลา อันนี้ก็คือเสน่ห์ของมัน” – คุณบิ๋ม
จากความที่บ้านหลังนี้มีคุณค่าทางใจต่อทุกคนในครอบครัว คุณบิ๋มจึงอยากรีโนเวตบ้านใหม่ในสไตล์ร่วมสมัย ซึ่งต้องคงความดั้งเดิมของสิ่งของต่าง ๆ ให้อยู่ในลักษณะเดิมมากที่สุด ไม่รื้อถอนอะไรออกหากไม่จำเป็น ให้คงกลิ่นอายยุคเก่ายามที่คุณบิ๋มยังเป็นวัยเด็ก คงความรู้สึกมีความสุข ในความทรงจำที่ได้มาพักตากอากาศ มาเล่นกับพี่น้องร่วมกันในวันหยุด และมีโจทย์ของการทําบ้านสามหลังนี้ คือ บ้านแต่ละหลังต้องไม่เหมือนกันเลยสักหลังเดียว
ซึ่งเมื่อเราได้ไปสัมผัสกับบ้านของ Yudee Assets มาแล้ว จะรู้สึกได้เลยว่าแม้แต่ละหลังจะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่มีร่วมกันนั้นคือการออกแบบพื้นที่ให้เห็นแล้วจินตนาการได้ว่า คงจะดีไม่น้อยหากได้อยู่มาร่วมกับคนที่บ้าน หรือเห็นแล้วคิดถึงกลุ่มเพื่อนจับใจอยากให้ได้มานั่งมุมนี้ด้วยกัน
แนวคิดการอยู่อาศัยแบบอยู่ดี Stay Happy, Happy Stay
แนวคิดหลักที่เป็น Tagline ติดกับชื่อแบรนด์ Yudee คือการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขหรือ ‘Stay Happy, Happy Stay’ โดยคุณบิ๋มได้เล่นคำจากเวลาไปเข้าไปพักที่ไหนแล้วจะมีประโยค have a happy
stay หรือขอให้มีความสุขกับการพักอาศัย บอกกับผู้เข้าพักเสมอ นี่จึงเป็นสิ่งที่คุณบิ๋มและทีมออกแบบยึดนำมาเป็นหลักในการออกแบบพื้นที่บ้านแต่ละหลัง
“หนึ่ง มันต้องสวย สอง ไม่ใช่สวยมาก่อน ไม่ใช่สวยแล้วแบบอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่สบาย ต้องอยู่ดี ทุกอย่างเราคิดคำนึงถึง Flow การใช้งาน ฟังก์ชันในการอยู่อาศัยมันสำคัญเสมอ อย่างบ้านสองหลังนี้ เราต้องการให้คนมาอยู่ร่วมกัน อยู่ดีจริง ๆ คือมีความสุข มันก็คือการอยู่ร่วมกัน” – คุณบิ๋ม
ความรู้สึกที่เราอยากให้ตัวเองได้มาใช้พื้นที่บ้านตากอากาศของ Yudee Assets ร่วมกับคนสำคัญนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่เมื่อยิ่งได้พูดคุยถึงแนวคิด จึงได้เข้าใจว่าที่นี่คิดถึงภาพกิจกรรมของแก๊งผู้เข้าพักที่จะเกิดขึ้นในแต่ละจุด มาตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากมาพักผ่อน มาตากอากาศริมทะเลได้อย่างแท้จริง
“เราไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม แต่เป็นบ้านทั้งหลัง คนที่มาพักมันก็มาเป็นแก๊ง เป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง ที่หาวันเวลารวมตัวกันมาเจอกัน อยู่ที่กรุงเทพฯ อยู่บ้านเขาเอง เขาอาจจะไม่ได้เจอกันก็ได้ หรือต่างคนต่างอยู่ในห้องตัวเอง อยู่คนละพื้นที่ ห่างไกลกัน การมาพักผ่อนแบบนี้เราจึงต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาได้มาทำกิจกรรมร่วมกันได้ เช่น ครัวที่ทำอาหารได้จริง หรือสั่งอาหารมากินด้วยกันที่โถงนั่งเล่น ทีวีเราก็มีให้เครื่องเดียว เพราะเราอยากให้ทุกคนมารวมตัวกัน ทำอะไรร่วมกันในไม่กี่คืนที่จะมาเข้าพัก” – คุณบิ๋ม
นอกจากการออกแบบพื้นที่ให้ ‘คน’ มาเข้าพักอาศัย ที่นี่ยังออกแบบพื้นที่มารองรับน้อง ๆ สัตว์เลี้ยง จากอินไซต์ แม่หมาตัวจริง ของคุณบิ๋มที่ชอบนำน้องหมาคอร์กี้นามว่า ก้านยาว ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอทุกโอกาส ทำให้เราได้เห็นว่า “ความสุขคือการได้อยู่ร่วมกัน” นั้นจริงแท้สำหรับทุกคน ทุกตัว ทุกครอบครัวได้
Molly-Dolly Beach House และ Mahi Mahi Beach Front Villa
จากโจทย์ที่มีและแนวคิดการทำบ้าน นำมาถึงที่มาของชื่อบ้านน่ารัก ๆ สอดคล้องกันทั้ง 3 หลังราวกับเป็นพี่น้องกันของ Yudee Assets โดยเริ่มต้นมาจากบ้าน Mahi Mahi ที่เป็นบ้านพักตากอากาศเดี่ยวพร้อมสระว่ายน้ำหลังแรกริมชายหาดปึกเตียนของครอบครัวคุณบิ๋มที่ใช้อยู่อาศัยจริงมาตั้งแต่ 30 ปีก่อน
โดยสมาชิกในครอบครัวที่ภายหลังได้เป็นศิลปินแห่งชาติด้าน Interior ได้ร่วมออกแบบกับสถาปนิกในยุคนั้น ออกมาเป็นบ้านที่มีรูปทรงแปลกตา ฉาบปูนด้านนอกให้เป็นเกล็ดปลา แสนสะดุดตาหลังเดียวในบริเวณ จนคนในพื้นที่และในครอบครัวเรียกขานกันว่าเป็น ‘บ้านเกล็ดปลา’ และความที่บ้านเกล็ดปลานั้นอยู่ติดริมทะเลจึงทำให้บรรเจิดเป็นไอเดียต่าง ๆ ขึ้นพร้อมกัน ร้อยเรียงความอยู่ดีเข้ากับความอุดมสมบูรณ์
“เราอยากได้ชื่ออะไรที่มันเรียบง่าย ธุรกิจของเราเกี่ยวกับที่อยู่ Yudee Assets เลยเป็นชื่อที่ลงตัว บ้านต่าง ๆ จึงคิดจากความอยู่ดี ก็คือความอุดมสมบูรณ์ได้ด้วย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในภาษาไทยก็คือ อยู่ดี กินดี ทำให้เราคิดว่า อะไรที่อยู่ใกล้น้ำ มันก็ต้องมีปลา งั้นเราเอาชื่อปลามาตั้ง มันก็สอดคล้องกันได้ แนวคิดเหล่านี้มันคิดมาพร้อม ๆ กันทั้งหมด” –คุณบิ๋ม
หลังจากที่ได้คอนเซ็ปต์ การรีเสิร์ชชื่อปลาทุกแหล่งน้ำก็เกิดขึ้น ได้มาเป็น Mahi Mahi Beach Front Villa ที่กำลังจะเปิดในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่จะถึง และบ้าน Molly-Dolly Beach House พี่น้องสองหลังที่ตั้งชื่อมาให้รู้สึกว่ามีอะไรเชื่อมโยงกัน ฟังแล้วรู้สึก ‘มีอะไร’เพราะทั้งสองตั้งอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันบริเวณหาดหัวหินในหมู่บ้านสุขสำราญ ที่เราจะพาทุกคนไปชม
Molly Beach House
บ้านดีไซน์ 80’s ที่คุณบิ๋มพัฒนาขึ้นร่วมกันกับทีมออกแบบ โดยใช้วัสดุและองค์ประกอบต่าง ๆ ให้มีกลิ่นอายของบ้านในความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกแก้ว เฟอร์นิเจอร์สี Chrome พื้นเทอร์ราซโซ หรือการหยิบสีสันและรูปทรงสุดป๊อปมาแต่งแต้มในมุมต่าง ๆ ผสานกันให้บ้านนี้มีความสนุกสนานอย่างลงตัว มีความน่ารัก และเข้ากับเทรนด์ปัจจุบันที่ผู้คนโหยหาสิ่งเดิม ๆ ในอดีต
หน้าบ้านประดับด้วยต้นไม้และฟูตาด้วยสีชมพูของดอกเฟื่องฟ้า ราชินีไม้ประดับที่อยู่คู่บ้านของไทยมาตั้งแต่ยุคก่อน เสริมความรู้สึกสวยงามแบบคลาสสิก
เมื่อเดินเข้ามาถึงภายใน เราจะได้พบกับโต๊ะกลมที่เหมาะจะเป็นที่นั่งพัก กินข้าว รวมพลของคนในบ้าน ซึ่งในเวลานี้สว่างกำลังดีด้วยแสงธรรมชาติจากหลังคากระจก ซึ่งคุณบิ๋มได้เปลี่ยนพื้นที่ระเบียงชั้นบนให้เป็นกลายเป็นช่องรับแสงสาดมากระทบกับขาเก้าอี้ท่อเหล็กชุมโครเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ Iconic ขาโค้งราวกับนั่งบนอากาศของ Cesca Chair ผสานกับ Ghost Chair ซึ่งเป็นเก้าอี้โปร่งใสที่โด่งดัง จัดวางเข้ากันกับสีฟ้าอ่อนของพื้นเทอร์ราซโซที่โถงด้านล่าง ซึ่งเชื่อมต่อกับไอส์แลนด์ครัวขนาดใหญ่ เอาใจผู้เข้าพักที่ชอบทำอาหาร พร้อมกับตั้ง Duplex bar stools เก้าอี้บาร์รูปทรงแปลกตาสไตล์เมมฟิสที่ออกแบบเมื่อปี 1981
ความพิเศษของบ้านมอลลี่ที่ใครมาก็ต้องประทับใจ คือ อ่างอาบน้ำรูปหัวใจ (Heart Shaped Bathtub) ที่คุณบิ๋มและทีมออกแบบตั้งใจสร้างเป็น Hidden Onsen ในรูปแบบที่คุณบิ๋มชอบ และทีมออกแบบได้เลือกใช้เป็นวัสดุเทอร์ราซโซ เพราะสามารถกำหนดขนาดและรูปทรงได้ตรงตามที่ต้องการ
“ตอนคุยกับผู้ออกแบบเรามี Reference ในหัวพอควร อยากได้บ้านที่รู้สึกว่าเหมือนยุค 80 สีสันเยอะ ๆ น่ารัก ๆ พอดีกับไอเดียของผู้ออกแบบที่เสนอห้องลับไว้แช่อ่าง ลองคิดกันอยู่หลายแบบพอควร แรกเริ่มเราอยากให้มีความเป็นทะเล แต่ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งรูปทรงและพื้นที่
สุดท้ายเลยออกมา อ่างหัวใจ แบบที่เราชอบ มาพร้อมกับกระจกที่สะท้อนเหลือบไปมาเป็นลักษณะคล้าย Kaleidoscope (กล้องสลับลาย) ถ่ายรูปออกมาจะเป็นมุมที่พอดิบพอดี ทำออกมาแล้วผลลัพธ์สวย คุ้มค่ามาก หวังว่าทุกคนที่มาก็จะชอบห้องนี้” คุณบิ๋มเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังอย่างภูมิใจนำเสนอ
ห้องนอนชั้นบนแต่ละห้องจะตกแต่งอย่างสนุก สดใส พร้อมใส่ใจในรายละเอียดให้ผู้เข้าพักอยู่ดี หลับสบาย และอมยิ้มได้จากดีเทลกราฟิกคาแรกเตอร์เล็ก ๆ ตามผนังและข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งคุณบิ๋มออกแบบเป็นป้ายคำแนะนำไว้ตามจุดต่าง ๆ
ด้านบนชั้นสองจะพบกับห้องนั่งเล่น วางรับสายตาด้วยเก้าอี้โครงตาข่าย JÄRPEN สีส้มสดตัดกับพื้นลายตารางสีมิ้นท์ ภายในจะได้พบกับโซฟาสีพาสเทลล้อมด้วยกำแพงบล็อกแก้ว ตั้งคู่กับโต๊ะกลางสแตนเลสฟรีฟอร์มอันเป็นเอกลักษณ์งานออกแบบร่วมสมัยของ Karl Springer องค์ประกอบทั้งหมดส่งให้เราผู้ก้าวเท้าเข้าไปถึงต้องอุทานชื่นชมความงามนี้ออกมาแบบออกเสียง เพราะแต่ละองค์ประกอบที่ถูกคัดสรรมาล้วนเก็บความสุนทรีย์ของยุค 80 ไว้ในบ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าห้องนี้มีทีวีเครื่องเดียวในบ้านเพื่อให้ทุกคนได้มาใช้เวลาร่วมกันที่นี่
- Dolly Beach House
บ้านดอลลี่นั้นเริ่มออกแบบโดยมี ‘ต้นมะพร้าวหวาย’ ซึ่งตั้งเด่นอยู่ภายในห้องนั่งเล่นเป็นโจทย์หลัก เพราะเป็นของแต่งบ้านในความทรงจำของคุณบิ๋มที่เคยนั่งรถไปกับครอบครัว แล้วเห็นวางขายเรียงรายริมถนน จึงได้ขอคุณพ่อคุณแม่ซื้อตั้งไว้ในห้องตัวเอง แต่ในปัจจุบันต้นมะพร้าวหวายกลับกลายเป็นของแรร์หายาก เพราะช่างฝีมือเริ่มมีน้อยลงตามกาลเวลา
เมื่อวันที่คุณบิ๋มได้เจอมะพร้าวต้นนี้ที่ตึกแดงจึงได้มาตั้งที่นี่สมหวังดั่งใจ และด้วยโจทย์ของบ้านที่เริ่มจากหวาย Mood&Tone ต่าง ๆ ของบ้านหลังนี้จึงเอนไหลไปตามกัน
โดยบ้านหลังนี้จะมีความสุขุมขึ้น โทนสีที่บ้านดอลลี่เลือกใช้จึงคุมโทนด้วยสีขาว ครีม ส้ม น้ำตาล เขียว สร้างบรรยากาศพาให้นึกถึงรีสอร์ทและสปาดี ๆ ซักแห่งที่ได้พาตัวเราไปสัมผัสรายล้อมกับธรรมชาติทั้งนอกและในบ้าน ทั้งไม้ หิน ลม ผ้า และแสงแดด
นอกจากบรรยากาศและสไตล์ที่ต่างกัน คุณบิ๋มยังได้ทำการดันเลย์เอาท์เดิมของพื้นที่ชั้นล่างออกไปมากขึ้นและเปิดสเปซด้านบนให้รับแสง กระทบกับโซฟาหวายและเบาะผ้าสีอ่อนธรรมชาติที่ตั้งบนพื้นเทอร์ราซโซโทนส้มอ่อน ๆ ก็ยิ่งทำให้ชั้นล่างมีความสว่างโปร่งโล่ง และอบอุ่นมากขึ้น
“โจทย์เริ่มจาก บ้านนี้ต้องมีต้นมะพร้าวหวาย เราก็เลยพัฒนาไอเดียมาเป็นโทนเดียวกันทั้งหมด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ซึ่งทีมออกแบบทําออกมาได้ดี เรารู้สึกมันลงตัว บ้านทั้งสองหลังมีความไม่เหมือนกัน เราอยากจะพัฒนาบ้านให้รองรับคนได้หลายรูปแบบ ถ้ามาพักหลังหนึ่งแล้วชอบลักษณะบ้านของ Yudee Assets รอบหน้าอาจจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองอีกหลังดูได้นะ” –คุณบิ๋ม
ซึ่งเร็ว ๆ นี้ บ้าน Mahi Mahi ที่ตกแต่งในอีกสไตล์ก็กำลังจะเปิดให้ได้จับจองเข้าพัก เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสบรรยากาศอีกรูปแบบ และนอกจากบ้านปลาที่อยู่ติดทะเลคุณบิ๋มยังเอ่ยถึงความตั้งใจในอนาคตที่อยากจะขยายโปรเจกต์ใหม่ ๆ ไปถึงพื้นที่ตากอากาศในรูปแบบอื่น ๆ เช่น บ้านพักตากอากาศบนภูเขาที่อาจจะมีชื่อเป็นนก หรือต้นไม้สักสายพันธุ์
เย็น สะอาด ฟีลลิ่งดี และเข้ากับทุกยุคสมัย
ความประทับใจในพื้นที่ชั้น 1 ของบ้านทั้งสองหลัง ทำให้เราได้ถามถึงที่มาที่คุณบิ๋มและทีมออกแบบถึงเหตุผลที่เลือกใช้พื้นเทอร์ราซโซ และได้เป็นคำตอบที่มาจากความชอบในสัมผัส และประสบการณ์ที่เคยใช้ในที่พักอาศัย
“ส่วนตัวชอบเทอร์ราซโซอยู่แล้วเพราะว่าบ้านที่กรุงเทพก็เป็นเทอร์ราซโซที่พื้นห้องนั่งเล่น เรารู้สึกว่าเวลาใช้พื้นเทอร์ราซโซแล้ว ฟีลลิ่งมันดี เวลาเราอยู่เรารู้สึกเท้าเรามันเย็น หรือมันเดินแล้วมันรู้สึกว่ามันสะอาดตลอดเวลา มันมีฟีลลิ่งบางอย่างที่มันไม่เหมือนเดินบนพื้นแบบอื่น ๆ เหมือนเดินบนหินนะ เราเองชอบฟีลลิ่งนี้ มันรู้สึกดี และเข้ากับทุกยุคสมัยด้วย แล้วก็คงอยู่ได้ยาว ทนทาน เพราะเราก็เห็นกันมาตลอดในบ้านยุคก่อน หรือตามวัดจีนที่จะทำลวดลายเป็นรูปต่าง ๆ เวลาไปเจอเราก็จะถ่ายเก็บไว้ตลอด เราเป็นคนชอบอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ก่อน เรารู้สึกว่ามันน่ารัก”
นอกจากพื้น ทีมออกแบบยังได้เล่าถึงการเลือกใช้เทอร์ราซโซมาเป็นวัสดุหลักในการทำอ่างรูปหัวใจไว้ว่า
“ความตั้งใจคืออยากสร้าง Bathtub ขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน เราไปเจอของของต่างประเทศที่เขามีขายแต่รู้สึกว่าที่เขามีขาย ไซส์มันเล็กมากและถ้าสั่งมาจากอเมริกา หากแตกหรือต้องซ่อมอาจจะยาก เลยเริ่มหาว่าสามารถใช้วัสดุอะไรได้บ้างที่มันสามารถกําหนดเองได้” – คุณโทนี่ ทีมอินทีเรียร์
“ออกมาเป็นโซลูชันว่าเราทำหินขัดเทอร์ราซโซไปเลยดีกว่า เรากําหนด Shape เองได้ ตอนที่ทีมผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญด้านวัสดุกำหนดสเปกมาเป็น ผลิตภัณฑ์เทอร์ราซโซ (Terrazzo) จาก เสือ ก็โอเคเลย เพราะคิดว่าตราเสือเป็น Household Name อยู่แล้ว ดีมานาน ไปอีเวนต์อะไรก็เจอตลอด ได้ยินชื่อตลอด” – คุณโทนี่ ทีมอินทีเรียร์
ซึ่งคุณบิ๋มยังเล่าถึงข้อดีของเทอร์ราซโซว่าเหมาะกับการทําอสังหาฯ ให้เช่า เพราะมีความทนทาน สามารถดูแลรักษาง่าย แม้จะเลอะเทอะจากน้อง ๆ สัตว์เลี้ยง (ซึ่งโดยปกติทางทีมงานจะดูแลความสะอาดบ้านอย่างดีเป็นพิเศษเสมอหากมีแขกที่พาน้อง ๆ มาด้วย) แถมยังกำหนดสีและเกล็ดหินให้ออกมาเป็นสไตล์ที่ต้องการได้แบบคัสตอมในบ้านแต่ละหลัง
สุดท้ายนี้อยากขอเชิญชวนให้ทุกคนที่กำลังมองหาที่พักตากอากาศ ลองหาเวลาว่างมาผ่อนคลายจิตใจร่วมกันที่บ้านของ Yudee Assets ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีหรือไม่มีสัตว์เลี้ยง ก็มาอยู่ร่วมกันได้ ที่นี่มีทั้งพื้นที่ในบ้านที่แสนอบอุ่นและพื้นที่นอกบ้านไว้รองรับกิจกรรมสำหรับทุกคนและสัตว์เลี้ยง ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข รับรองได้เลยว่า หัวหิน จะไม่ทำให้ผิดหวัง
แอบสปอยล์ในบทความนี้ว่าเร็ว ๆ นี้อาจมีบ้านพักใหม่อีกหนึ่งหลังริมหาดปึกเตียน สำหรับตอนนี้ ขอให้ทุกคนมาเอ็นจอยและแฮปปี้ตามดั่งที่คุณบิ๋มว่าไว้ว่า “Stay Happy, Happy Stay” กับ Molly-Dolly Beach House และ Mahi Mahi Beach Front Villa ได้ทุกเมื่อที่มีโอกาส
สอบถามรายละเอียด บ้านพักตากอากาศ ได้ที่
(101, 23 Phet Kasem Rd, Hua Hin, Hua Hin District, Prachuap Khiri Khan 77110)
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/sMZBZLwXYHSV9HLy5
เว็บไซต์ : https://www.yudeeassets.com/
อีเมล์ : [email protected]
โทร : 088-898-9296
Line ID : @yudeeassets
สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์เทอร์ราซโซ (Terrazzo) จาก เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ประเภท 1 งานเทอร์ราซโซ และผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการตกแต่ง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://tigerbrandth.com/ หรือแฟนเพจ Tiger Brand ตราเสือ และเบอร์ SCG Contact Center : 025862222