นอกจากมุมหลักๆ ของบ้านอย่าง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ที่ต้องมีก็ขอแบ่งพื้นที่เล็กๆ มุมพักผ่อน สำหรับสิ่งชุบชูใจและเป็นกิจกรรมโปรด ไว้ในมุมเล็กๆ ของบ้าน ให้ได้ใช้เวลา ได้มองเห็น ได้หยิบ ได้จับ สักเล็กน้อย ก็ช่วยฮีลใจเติมพลังชีวิตได้ บ้านและสวน พามาดู 3 มุมดีต่อใจ ที่หลายๆ คนอาจมีอยู่ที่บ้าน หรือบางบ้านก็มีทั้ง 3 มุมนี้เลยก็ไม่ผิดกติกา
Coffee Corner
กิจกรรมสุดรักของเหล่า Coffee Lover ถึงจะใช้เวลากับมุมนี้เพียงวันละไม่กี่นาที แต่ก็พร้อมที่จะ ตกแต่งจัดเต็ม วางโชว์เหล่าอุปกรณ์หลัก อุปกรณ์เสริม รวมไปถึงเมล็ดกาแฟ ให้เห็นกันอย่างพร้อมหน้า มาลองดูข้อมูลที่น่าสนใจ ในการจัดมุมกาแฟสุดรักด้วยกัน
ความสูงของเคาน์เตอร์ ที่เหมาะสม โดยมาตรฐานแล้วอยู่ที่ประมาณ 85 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความสูง ที่คนที่มีความสูงต่างกันยังใช้งานได้สะดวก หลีกเลี่ยงเคาน์เตอร์ที่เตี้ยไป เพราะจะต้องก้มตัวลงเพื่อการใช้งาน ระดับความสูงจึงควรปรับให้เหมาะสม และเพื่อความสะดวกในการยืน ควรมีระยะกันเตะ (ที่ว่างบริเวณฐานเคาน์เตอร์) สูง 10 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร เพื่อให้ยืนได้สะดวก ไม่ต้องโน้มตัวเวลาใช้งาน
พื้นที่บนเคาน์เตอร์
ควรเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม สำหรับอุปกรณ์ชงกาแฟที่มี ความลึกของเคาน์เตอร์ไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร เพื่อการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวก วัสดุท็อปเคาน์เตอร์ต้องแข็งแรง ทนความร้อน ความชื้น และ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย เช่น ลามิเนต สเตนเลส ซีเมนต์ขัดมัน กระเบื้องเซรามิก ไม้เนื้อแข็ง เป็นต้น
ระยะโดยรอบ
การใช้งานที่สะดวก ควรจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ให้เอื้อมหยิบได้ง่าย โดยชั้นวางของบนผนัง ควรมีระยะสูงจากเคาน์เตอร์ประมาณ 60 เซนติมตร ลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้กีดขวาง หรือบดบังการใช้งานบนเคาน์เตอร์
แสงสว่าง
เลือกวางเคาน์เตอร์ในมุมที่รับแสงสว่างจากหน้าต่างด้านข้าง หรือถ้ามุมกาแฟค่อนข้างมืด การติดไฟ LED แนวยาวใต้ชั้นวางของเหนือเคาน์เตอร์ ก็จะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
Art Toy Collector
อีกหนึ่งสิ่งฮีลใจ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มุมพักผ่อน ในปัจจุบันนี้ต้องยกให้อาร์ตทอย หนึ่งในของสะสมแสนรักของใครหลาย ๆ คน ทั้งความโดดเด่นในด้านความน่ารัก สวยงาม รายละเอียดที่ศิลปินแต่ละท่านออกแบบ เล่าเรื่องราวผ่านคาแร็กเตอร์ต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ทำให้ใครต่อใครอดใจไม่ไหว ที่จะเสาะหามาครอบครอง และแน่นอนว่าเมื่อเริ่มเข้าสู่วงการอาร์ตทอยจำนวนของน้องๆ ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นของสะสมที่ครอบครองพื้นที่ในบ้านไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
มุมดีมองเห็น
ตำแหน่งการวางอาร์ตทอยนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกวางในจุดที่มองเห็นได้ง่าย พร้อมจะโชว์ตัวต่อทุกสายตาที่มองผ่านมา เช่นมุมตรงข้ามประตู เวลาเดินเข้าห้อง โถงทางเดินแคบ วางโชว์อาร์ตทอยให้เด่นเต็มผนัง ผนังรอบๆทีวี ผนังบริเวณโต๊ะกินข้าว กินข้าวไปมองไปได้เพลินๆ หรือแม้แต่บนโต๊ะทำงานก็ช่วยฮีลใจได้ดีเช่นกัน
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย
เราไม่ต้องการคู่แข่งที่จะมาบดบังความน่ารักสดใสของอาร์ตทอย จึงแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์เรียบๆ มินิมัล ไม่มีลวดลายที่โดดเด่น จัดจ้านจนเกินไป เพื่อให้น้องอาร์ตทอย เป็นดาวเด่นประจำห้อง
Tips
อย่าลืมพื้นที่สำหรับเก็บกล่องที่ใส่อาร์ตทอย ด้วยจำนวน และขนาด ที่มากพอๆกับอาร์ตทอย ทำให้กินพื้นที่ในการเก็บเป็นอย่างมาก อาจใช้วิธีกรีดพับกล่องเพื่อลดขนาด ซ้อนกล่องเล็ก-ใหญ่ และตัดใจทิ้งบางส่วน แนะนำให้เก็บกล่องทั้งหลายในตู้ทึบเพื่อความเรียบร้อยไม่รกตา
ข้อมูลจาก Moreover
Mini Library
การอ่านหนังสือกลายเป็นกิจกรรมสุดคลาสสิก ที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย เหล่าหนอนหนังสือมักจะมี มุมพักผ่อน สุดโปรดที่นั่งสบาย และแวดล้อมด้วยหนังสืออยู่เต็มตู้ ถึงแม้มิตรรักนักอ่านหลายท่าน อาจมีกองดองเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในเมื่อเป็นของรัก แค่การได้เห็นหนังสืออยู่เต็มตู้ ก็ทำให้รู้สึกดีได้เช่นกัน มาจัดพื้นที่มุมนี้ให้ลงตัว น่านั่งอ่านหนังสือสักเล่ม จะได้ลดปริมาณหนังสือรออ่าน ให้น้อยลงกันสักที
มุมดีๆสำหรับการอ่านหนังสือ
ควรอยู่ในตำแหน่งที่เงียบสงบ อาจจะเป็นมุมในห้องนอน มุมเล็กๆริมหน้าต่าง หรือเป็นตำแหน่งที่ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา เพื่อลดการรบกวนที่ทำให้เสียสมาธิกับการอ่านหนังสือ
แสงสว่าง
จัดมุมอ่านหนังสือ ที่รับแสงสว่างจากธรรมชาติ โดยให้แสงเข้าทางด้านข้าง ลดการสะท้อนโดยตรงจากหนังสือเข้าตา หรือใช้โดมไฟที่ปรับองศาได้วางเยื้องไปด้านหลัง ให้แสงส่องผ่านจากหลังไปหน้า ก็ช่วยให้อ่านหนังสือได้สะดวกขึ้น
ออกแบบชั้นให้พอดี
ความลึก
สำหรับหนังสือทั่วไป เช่น นิยาย หนังสือปกแข็ง ควรมีความลึกประมาณ 25-35 เซนติเมตร
สำหรับหนังสือเล่มใหญ่ หรืออัลบั้มรูป ต้องเพิ่มความลึกเป็น 40 เซนติเมตรขึ้นไป
ระยะห่างระหว่างชั้น
สำหรับหนังสือปรกติ ควรมีระยะห่างระหว่างชั้นที่ 30-35 เซนติเมตร
สำหรับหนังสือขนาดใหญ่ ควรเพิ่มระยะห่างระหว่างชั้นเป็น 40-45 เซนติเมตร
ชั้นยาวไปรับไม่ไหวนะ
ชั้นวางหนังสือ ควรมีระยะความยาวอยู่ที่ 30-90 เซนติเมตร หรือถ้ายาวมากกว่านั้น อาจต้องเพิ่มเสาค้ำ ที่ช่วยรับน้ำหนัก ก่อนที่ชั้นวางจะแอ่นโค้ง และถล่มเพราะรับน้ำหนักไม่ไหว
เก็บรักษาหนังสือไม่ให้เสียหาย
- เก็บหนังสือแนวตั้ง – เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับ ซึ่งอาจทำให้สันหนังสือเสียหายได้
- เก็บในที่ความชื้นต่ำ – ไม่เก็บในห้องน้ำ หรือ ห้องครัว เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา และ กระดาษเสียหาย หรือแม้แต่วางตู้หนังสือ ติดกับผนังที่มีความชื้นสูงเช่นผนังห้องน้ำ ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราได้เช่นกัน
- เก็บหนังสือให้พ้นแสงแดด – หลีกเลี่ยงการวางหนังสือ ในตำแหน่งที่ถูกแสงแดดโดยตรง เพราะจะทำให้สีซีดจาง และ เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
- เก็บหนังสือในตู้ที่มีบานปิด – เพื่อป้องกันฝุ่น ที่ทำให้หนังสือเสียหาย และ ช่วยป้องกันแมลงได้อีกด้วย
- ปลวกและมอดหนังสือศัตรูตัวร้าย – ต้องหมั่นตรวจสอบหนังสืออย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้จัดการกับปัญหาต่างๆได้ทันเวลา ไม่ให้ลุกลาม การวางซองดูดความชื้น ถ่านก้อน ไว้ในมุมต่างๆ เพื่อลดความชื้น ก็ช่วยได้เช่นกัน
เรื่อง : jOhe
ภาพประกอบ : เอกรินทร์ พันธุนิล
แสงสว่าง ในบ้านเรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนจะสายเกินแก้