จากบ้านยุโรปเก่าที่หันหลังให้ธรรมชาติ แต่เมื่อมีวิวหลักล้านที่เป็นเหมือนป่าหลังบ้าน จึงปรับผังบ้านและตกแต่งใหม่ให้เป็น บ้านสีขาวริมสวน ที่มีกรอบรูปกระจกให้ฟีลของการดึงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน
Design Directory : สถาปนิก Studio Chemistry
อาจเพราะลมจากภูเขาที่พัดพา คุณเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ให้มาเจอกับ บ้านสีขาวริมสวน หลังนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาใหญ่มากนัก ทั้งที่เป็นบ้านเก่าถูกปล่อยทิ้งร้าง แต่ก็อยู่ริมผืนป่าธรรมชาติ และพอดีกับที่เจ้าของเดิมขายให้ในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณเต้ยตกแต่งบ้านหลังแรกในกรุงเทพฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีไอเดียและความสนุกที่พร้อมจะมารีโนเวตบ้านหลังนี้ต่อ…ช่างเป็นจังหวะที่ลงตัวราวกับบทละครที่เขียนรอนางเอกคนนี้เอาไว้เลย
ธรรมชาติคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
“เต้ยเคยได้ยินบ่อยๆ ว่าอะไรที่เป็นของเราก็จะเป็นของเรา ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจซื้อแต่ก็กลับได้ซื้อบ้านหลังนี้มาแบบไม่ยุ่งยากเลย เต้ยชอบตรงที่เป็นบ้านหลังในสุดของหมู่บ้าน มีด้านหลังโล่งมากๆ เป็นพื้นที่ติดกับธรรมชาติ แต่บ้านเดิมนั้นหันหลังให้ธรรมชาติและหันหน้าออกไปยังเพื่อนบ้าน ก็เลยคิดว่าจะต้องปรับพื้นที่ใหม่ให้หันหน้าบ้านออกไปรับวิวธรรมชาติแทน ตรงนี้แหละที่เต้ยชอบมากๆ”
เพื่อปรับโฉมรูปแบบบ้านเดิมที่ออกสไตล์คันทรียุโรปและค่อนข้างปิดทึบ คุณเต้ยจึงไปปรึกษากับคุณเอก-สุเทพ พาทสุธีสุทธิ และคุณภัทราพร เอี่ยมวงษ์ศรีกุล สองสถาปนิกจาก Studio Chemistri ให้มาช่วยเปลี่ยนผังบ้านใหม่และออกแบบสเปซให้ตรงกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวมากขึ้น
คุณเอกเล่าถึงการทำงานครั้งนี้ว่า “ผมว่าคุณเต้ยมีมุมมองเรื่องมิติการใช้บ้านชัดเจนคือต้องการความเรียบง่ายและอยู่กับวิวธรรมชาติซึ่งเป็นสิ่งพิเศษสำหรับบ้านตรงนี้ แต่ตัวบ้านเดิมมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีบันไดขวางอยู่ตรงกลาง นอกจากต้องหมุนทิศทางใหม่แล้วยังต้องขยายพื้นที่ให้มีฟังก์ชันได้ครบถ้วนมากขึ้น และปรับให้บ้านดูเหมาะกับการมาพักผ่อน รองรับการใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะทำอาหารหรือดูแลสวน ดังนั้นสวนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับบ้านด้วย ไม่ใช่แค่พื้นที่นอกบ้าน แต่ครอบคลุมทั้งอากาศ ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบบ้านอย่างกลมกลืน โดยมีการเพิ่มเรือนเล็กๆ ขึ้นมาอีกหลังให้เชื่อมต่อกับบ้าน ช่วยโอบล้อมสวนให้กลับเข้ามา จริงๆ เราเป็นเหมือน Design Consultant มากกว่า เพราะคุณเต้ยเป็นคนกำหนดองค์ประกอบหลักเอง แล้วเราเอามาจัดเรียงแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนการเติมภาพลงบนผืนผ้าใบเปล่าไปด้วยกัน”
เติมกรอบรูปธรรมชาติให้ บ้านสีขาวริมสวน
คุณเต้ยบอกว่าการทำบ้านหลังนี้เป็นงานที่สนุกมากสำหรับเธอ “เพราะการที่เราได้ไปเที่ยวทำให้ได้แรงบันดาลใจมาเยอะ ทั้งบ้านที่อิตาลี บ้านที่ญี่ปุ่น หรือบ้านแบบสแกนดิเนเวีย อย่างเต้ยเห็นบ้านที่ญี่ปุ่นมีหน้าต่างเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกรอบรูปก็เลยเอาไอเดียนี้มาใช้ทำผนังกระจกที่บ้านให้เป็นกรอบรูป เพื่อมองออกไปเห็นธรรมชาติที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล”
เริ่มต้นด้วยการทุบรื้อผนังบ้านเก่าออกทั้งหมดจนเหลือแค่โครงสร้าง แล้วจัดวางผังบ้านใหม่ให้มีทางเข้าหลักในฝั่งเดิมเพิ่มมุมมองที่โอ่โถงขึ้นด้วยซุ้มโค้งดูละมุนตา พร้อมกับมีทางเข้าอีกด้านจากที่จอดรถไปสู่ห้องครัวเพื่อให้สะดวกในการวางข้าวของได้เลย โดยเน้นมุมมองที่เปิดโล่งไว้หลังบ้านซึ่งเชื่อมต่อไปสู่พื้นที่สีเขียวกว้างตา
“จริงๆ เต้ยอยากเปิดมากกว่านี้อีก แต่พี่เอกห้ามปรามไว้ อย่างสกายไลต์ที่หลังคาเองเต้ยก็ยอมเสียค่าหลังคาเดิมมาเปลี่ยนให้เป็นกระจกเพราะอยากให้บ้านโปร่งขึ้น เต้ยรู้สึกว่าบ้านเราอยู่เขาใหญ่มีวิวหลักล้านที่เป็นเหมือนป่าหลังบ้าน เลยต้องการเทกวิวตรงนั้นให้มากที่สุด กรอบรูปกระจกก็คือให้ฟีลของการดึงธรรมชาติที่เป็นป่าไหลเข้ามาในบ้าน แล้วตรงพื้นทางเข้าเต้ยก็สนุกกับการหาหินตัวอย่างที่เขาไม่ใช้แล้วมาลองวางเรียงใหม่แบบแพตช์เวิร์ก ซึ่งเป็นงานที่สนุกมากๆ อีกงาน ส่วนเฟอร์นิเจอร์เต้ยจะค่อยๆ เลือกแบบที่เข้ากับบ้าน มีงานคราฟต์ของดีไซเนอร์ไทยผสมกับของเดนนิสบ้าง สแกนดิเนเวียบ้าง มือสองบ้างผสมกันไป”
ในความขาวละมุนมีสีเขียวที่สดชื่น
จากผังภายในที่เปลี่ยนไปนี้เองก็เป็นตัวกำหนดหน้าตาของบ้านภายนอกที่ยังคงบอกเล่าถึงความเรียบง่าย ไม่เฉพาะเจาะจงสไตล์และไม่ใช่บ้านที่สร้างตามสูตรสำเร็จ แต่ผสมผสานไปด้วยบุคลิกความสดใสของคุณเต้ยด้วย
“เราปรับโทนสีหลักของบ้านให้ออกขาวครีมและตั้งใจเติมเส้นโค้งแบบออร์แกนิกมาช่วยทำลายความแข็งในตัวสถาปัตยกรรม ทั้งซุ้มโค้ง หน้าต่างโค้ง และช่องกระจกโค้งกระจายไปตามมุมต่างๆ ของบ้านแบบไม่จงใจ ให้ความรู้สึกเป็นมิตร ผ่อนคลาย ซึ่งต้องออกแบบความโค้งให้พอดีด้วย ความยากคือเราต้องชั่งน้ำหนักความไม่จงใจของงานช่างให้เป็น Beauty Error หรือเสน่ห์จากความไม่สมบูรณ์แบบ เพราะคุณเต้ยมีมุมมองศิลปะที่ดีทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน บ้านจึงไม่มีทางสมบูรณ์ได้เลยถ้าขาดคุณเต้ย”
นอกจากบ้านโทนสีขาวละมุนแล้ว สีเขียวเองก็มีส่วนสำคัญที่มาช่วยเชื่อมต่อความเป็นธรรมชาติได้ดี แม้คุณเอกจะบอกว่าไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก แต่ก็เป็นสีที่คุณเต้ยชอบพอดี “จริงๆ เต้ยเพิ่งรู้ตัวว่าชอบสีเขียว มันมีความโฮมมี่ที่เข้ากับบ้านเขาใหญ่มาก ก็เลยเลือกสเป็กกรอบอะลูมิเนียมประตูหน้าต่างบ้านเป็นสีเขียวทองติดวินเทจนิดๆ รวมถึงชุดครัวสีเขียว และตัวกรีนเฮ้าส์ที่สร้างเพิ่มขึ้นมาก็เขียวให้เชื่อมต่อไปกับตัวบ้านเลย”
สวนที่มาเติมเต็มความสุข
เพื่อให้ผนังกรอบรูปของบ้านมีมุมมองของธรรมชาติสวยๆ แบบที่คิดไว้ คุณเต้ยจึงติดต่อให้ คุณวิทย์–ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง และคุณแป๊ะ– จาตุรงค์ ขุนกอง นักจัดสวนจาก Little Tree Landscape มาช่วยออกแบบพื้นที่สีเขียวรอบบ้านทั้งหมด โดยคุณวิทย์มีไอเดียว่า “เราใช้ต้นมะขามเทศด่างมาเป็นไม้ประธานให้คุณเต้ยในมุมที่สามารถมองออกมาจากกรอบกระจกในบ้านได้เลย ด้วยธรรมชาติของคุณเต้ยจะชอบดอกไม้เล็กๆ ฟีลเหมือนขึ้นเองกลมกลืนไปกับพื้นที่ป่า อย่างหงอนไก่ บราวน์อายด์ เม็กซิกันซันฟลาวเวอร์ ดาวกระจาย เดซี่ บานไม่รู้โรย แล้วปรับคอนทัวร์ให้รับกับบ้านที่เป็นเนินเขานิดหน่อยเพื่อไม่บล็อกทางน้ำไหล และแบ่งจังหวะของสวนให้มีทางเดินโรยกรวดเพื่อออกมาเดินเล่นชมสวนได้สบาย”
คุณเต้ยได้เล่าเสริมอีกว่า “เพราะเต้ยอยากได้สวนที่ไม่ต้องประดิษฐ์มาก เลยเน้นใช้ไม้ดอกล้มลุกหรือดอกไม้ป่าที่อาจไม่ได้มีราคาสูง และพี่วิทย์ยังทำมุมกระบะปลูกผักสวนครัวให้ด้วย บางมุมก็ปลูกกุหลาบซึ่งโตดีมาก ต้องขอบคุณพี่วิทย์กับพี่เอกที่ช่วยทำให้บ้านในฝันของเต้ยสมบูรณ์แบบมากๆ ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ได้มาใช้บ้านนี้ด้วย บางเวลาที่เต้ยไม่อยู่แล้วเขามากันเอง เราก็รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่สร้างบ้านนี้ เพราะได้ใช้งานจริงๆ และเป็นบ้านที่ทำให้ทุกคนมีความสุขไปด้วยกันค่ะ”
เจ้าของ : คุณจรินทร์พร จุนเกียรติ
สถาปนิก : Studio Chemistry โดยคุณสุเทพ พาทสุธีสุทธิ และคุณภัทราพร เอี่ยมวงษ์ศรีกุล
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู, ณัฐวรรธน์ ไทยเสน
ผู้ช่วยช่างภาพ : จันทิมา ชื่นคุ้ม
สไตลิส : Suntreeya
ที่ตั้ง : จังหวัดนครราชสีมา