บ้านตากอากาศ บนก้อนลูกปูนเก่า ในบรรยากาศริมทะเล
บ้านตากอากาศ หลังนี้ชื่อว่า ‘บ้านร้อยลูกปูน’ เป็นชื่อที่ตั้งเพื่อบอกถึงการดึงเอาศักยภาพของวัสดุออกมาใช้ เพราะทำให้ลูกปูนเก่าธรรมดานั้นงดงามอย่างถูกที่ถูกเวลา
Design Directory : สถาปนิก O2 Studio


แม้เส้นทางจะยาวไกลถึงทับสะแก แต่เมื่อได้มาถึง ความเหนื่อยล้าก็หายเป็นปลิดทิ้ง บ้านตากอากาศ หลังนี้ซ่อนตัวอยู่ท้ายซอย มองภาพฉากหลังเป็นท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยที่มีวิวไกลสุดลูกหูลูกตา
จากที่ดินเปล่าที่ คุณแซม ซื้อไว้ติดริมทะเล เมื่อถึงคราวที่อยากจะสร้างบ้านพักตากอากาศสักหลัง ทำให้นึกถึงวัสดุที่มีอยู่รอบตัว ประกอบกับมีโรงงานเหล็กเป็นของตัวเองและยังมี “ลูกปูน” คอนกรีตทรงลูกบาศก์ปลดระวางจากการทำเรือเดินสมุทรและแท่นขุดเจาะมันเป็นวัสดุสำคัญที่ คุณจิ้น-ตุลยวัต พิพรรธนัชกุล สถาปนิก ให้ความสนใจ
“เวลาออกแบบผมจะนำความต้องการของเจ้าของบ้านกับประสบการณ์ของเราเอามาปรุงเข้าด้วยกัน” พร้อมออกแบบบ้านหลังนี้ด้วยวัสดุที่ได้กล่าวมาภายใต้แนวคิด “การเป็นพื้นที่พักผ่อนที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ”


บ้านตากอากาศ ให้ธรรมชาติได้โอบอุ้มกายและใจ
สถาปนิกได้ออกแบบการเข้าถึงบ้านอย่างเป็นลำดับ โดยค่อยๆเปิดมุมมองการรับรู้ จากทางเข้าสู่โรงรถ จากโรงรถสู่พื้นที่พักอาศัย แต่ละจุดใช้องค์ประกอบของสถาปัตยกรรมทำหน้าที่เปลี่ยนผ่านให้ไปพบกับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน จุดแรกเริ่มจากทางเข้าสู่โรงจอดรถออกแบบโดยใช้ลูกปูนวางเรียงในแนวตั้งเป็นกำแพงกำหนดกรอบโรงจอดรถ เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากการรับรู้และกำหนดการมองเห็นวิวทะเล เพื่อเผยในซีนถัดไป จุดที่สองออกแบบโดยการยกระดับอาคารเป็นการแยกพื้นที่พักอาศัยออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เราต้องเดินขึ้นจากบันได มุมมองทางสายตาก็ค่อย ๆ เผยวิวทะเลแบบ 360 องศา พร้อมกับเสียงคลื่น และกลิ่นไอทะเลที่เข้ามาสัมผัสกับร่างกายได้อย่างเต็มที่
พื้นที่ใช้สอยส่วนพักอาศัยภายในขนาด 45 ตารางเมตรไม่รวมระเบียงที่มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ภายใน เพราะต้องการให้เจ้าของบ้านได้ออกมาใช้พื้นที่นี้ทำกิจกรรม ได้สัมผัสกับธรรมชาติภายนอก “การปล่อยให้ร่างกายที่อ่อนล้าจากการทำงาน ได้สัมผัสกับธรรมชาติ สายลม เสียงคลื่นจากทะเล เสียงนกร้อง ได้นั่งพูดคุยกับเพื่อนท่ามกลางหมู่ดาวนับร้อยเป็นการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง”



การให้วัสดุได้แสดงศักยภาพ
ลูกปูนนับร้อย ขนาด 1 x 1 x 1 เมตร ปลดระวางจากการเป็นฐานในการประกอบเรือ มีร่องรอยของการใช้งานที่ทำให้แต่ละลูกไม่เหมือนกัน กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้สถาปนิกสนใจนำมาออกแบบ ด้วยความแข็งแรงของพื้นทรายที่ได้รับการบดอัดและปรับหน้าดินพร้อมสำหรับการก่อสร้าง สถาปนิกนำมาวางเรียงเป็นฐานแผ่ของอาคารที่พักอาศัยและส่วนพื้นระเบียง ทั้งยังตั้งเรียงเป็นผนังของโรงจอดรถ ออกแบบให้มีการเว้นช่องอย่างมีจังหวะเพื่อเกิดช่องว่างให้อากาศได้ถ่ายเทและเพื่อความเป็นส่วนตัว
“เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า บ้านหลังนี้ก็จะถูกกลืนหายไปในความมืด อยากให้บ้านอยู่อย่างถ่อมตัวกับธรรมชาติ”
สถาปนิกเลือกใช้เมทัลชีตสีดำกรุผนังและมุงหลังคา ลักษณะที่เป็นลอนทำให้ผนังอาคารมีความน่าสนใจเมื่อเกิดเงา และใช้ประตูหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่บนผนังอาคารด้านที่รับวิวทะเลเพื่อเปิดรับมุมมองแนวกว้างและเป็นการระบายอากาศ ทั้งยังเป็นการลดการใช้เมทัลชีตในด้านที่ต้องรับไอเกลือจากทะเลที่มีความเป็นกรดสูงอีกด้วย






การให้ความสำคัญกับรูปทรง พื้นที่ และการใช้งาน
สถาปนิกให้ความสำคัญกับการออกแบบรูปด้าน รูปทรง เพื่อให้ความสวยงาม ความรู้สึก และความสะดวกสบายของเจ้าของบ้านผสมผสานไปด้วยกัน ทั้งยังคิดคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆอย่างทิศทางลม-แดด และการเปิดรับวิวทะเลที่เป็นหัวใจหลักของบ้านพักตากอากาศหลังนี้ แม้ลูกปูนจะให้ความรู้สึกทึบตัน แต่สถาปนิกใช้การออกแบบโดยการวางผังตัวอาคารเยื้องออกจากฐาน ทำให้อาคารบางส่วนยื่นออกมา ส่งผลให้รูปด้านไม่ทึบตันเป็นก้อนเดียวกัน และให้ความรู้เบาลอยออกมาจากฐาน
บ้านตากอากาศหลังนี้เป็นตัวอย่างของสถาปัตกรรมที่สร้างพื้นที่เชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติภายใต้เงื่อนไขของการใช้วัสดุที่เจ้าของมีอยู่ได้อย่างลงตัว สิ่งสำคัญที่สะท้อนให้เห็นคือการที่เจ้าของบ้านอยากกลับมาพักผ่อนบ่อยขึ้น มีรอยยิ้มในทุกกิจกรรม มีความสุขในการแต่งโน่นเติมนี่ เพราะเขาได้เข้ามาใช้ชีวิตจริงๆ “เพราะรางวัลของการทำงานของผมในฐานะผู้ออกแบบคือรอยยิ้มของเจ้าของบ้าน” ดังที่สถาปนิกได้กล่าวไว้ทิ้งท้าย


เจ้าของ : คุณแซม
ออกแบบสถาปัตยกรรม : O2 Studio Co.,Ltd. โดยคุณตุลยวัต พิพรรธนัชกุล
เรื่อง: ปาราเมศ เมนะเนตร
ภาพ: กรานต์ชนก บุญบำรุง
สไตล์: Suntreeya
ที่ตั้ง : จังหวัดประจวบคีรีขันธ์