ปฏิทินไม้มงคล (Lucky Plants) ปี 2568
ปฏิทินไม้มงคล ปี 2568 โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน ปีนี้นำเสนอเรื่องราวของ “ไม้มงคล” ซึ่งส่วนใหญ่มีชื่อที่เป็นมงคล และเชื่อว่าหากใครปลูกไว้บริเวณบ้าน จะช่วยปกป้องคุ้มภัยให้ผู้อาศัยอยู่ดีมีสุข และหลายชนิดยังสร้างความร่มรื่นน่าอยู่ ให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน พร้อมให้ผลิตผลนำมาบริโภคกันอีกด้วย
ใน ปฏิทินไม้มงคล ปี 2568 ยังมีบอกเรื่องความเชื่อในเรื่องไม้มงคลที่มีมาตั้งแต่โบราณ และมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีไม้ดอกเสี่ยงทายหลายชนิดที่เชื่อว่า หากสามารถปลูกให้เจริญเติบโตและผลิดอกได้แล้ว จะนำโชคลาภ และมีเงินทองมั่งคั่ง บางชนิดยังมีความเชื่อเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยมให้แก่ผู้ปลูกอีกด้วย มาทำความรู้จัก “ไม้มงคล” กัน
มกราคม
กวักมรกต
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Zamiocalcus zamiifolia (G.Lodd.) Engl.
- ชื่อสามัญ Zanzibar Gem, ZZ Plant
- วงศ์ Araceae
จุดเด่น
ไม้อวบน้ำ มีลำต้นเป็นหัวใต้ดิน สีน้ำตาลอ่อน ใบประกอบแบบขนนก ออกเวียนรอบต้น ใบย่อยรูปไข่ ปลายใบมนหรือแปลม แผ่นใบหนาอวบน้ำ สีเขียว เขียวคล้ำหรืออมม่วง หรือมีใบด่างสีขาว-เหลือง ก้านใบสีน้ำตาลแดง ช่อดอกแบบช่อเชิงลดมีกาบ มักไม่ติดเมล็ด
ความเชื่อ
หากใครปลูกกวักมรกตจะนำพลังงานด้านบวกมาสู่บ้านเรือน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวบ้าน จะนำโชคลาภ ความมั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้ามาให้ผู้ปลูก นอกจากนี้ยังช่วยฟอกอากาศ ดูดซับรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อย่างดี
กุมภาพันธ์
ว่านเสน่ห์จันทน์แดง
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalonema rubescens (Roxb.) Kunth
- วงศ์ Araceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ทุกส่วนมีกลิ่นหอม มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าสั้นๆ ลำต้นเหนือดินเจริญเป็นกอ ใบรูปหัวใบ ออกเวียนสลับ ปลายใบเรียวแหลม แผ่นใบหนาอวบน้ำ สีเขียวคล้ำ ใต้ใบและก้านใบสีม่วงแดง ช่อดอกแบบช่อเชิงลดมีกาบ ออกที่ซอกกาบใบ ปลีดอกสีขาว
ความเชื่อ
เชื่อกันว่าเป็นว่านที่ให้คุณด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม ในอดีตมักนิยมปลูกทั้งว่านเสน่ห์จันทน์แดงและว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ที่มีก้านใบขาว และแกะเป็นรูปนางกวัก นำมาหุงในน้ำมันจันทน์และปลุกเสก นำมาบูชาหน้าร้านค้า จะช่วยให้ค้าขายดี หากพกติดตัวจะเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม
มีนาคม
กวนอิม
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena braunii Engl.
- ชื่อสามัญ Belgian Evergreen, Lucky Bamboo
- วงศ์ Asparagaceae
จุดเด่น
ไม้พุ่มอายุหลายปี ต้นสูง 1-1.3 เมตร ใบออกเวียนสลับรอบต้น เห็นข้อปล้องชัดเจน ใบรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลม สีเขียว ก้านใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ช่อดอกออกตามซอกใบ แต่มักไม่พบ
ความเชื่อ
กวนอิมเป็นไม้มงคลที่ชาวจีนนำมาปักแจกัน เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ช่วยนำโชคลาภ ทำมาค้าขายดี และยังช่วยเสริมเรื่องสุขภาพ ซึ่งมีหลายพันธุ์ให้เลือกปลูก เช่น กวนอิมเขียว หรือที่มีใบด่าง อย่างกวนอิมเงิน กวนอิมทอง และกวนอิมประกายแสด ที่สามารถในบ้าน ห้องทำงาน ปักแจกันในน้ำหรือปลูกลงดินในกระถางได้
เมษายน
ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Ophiopogon jaburan (Siebold) G.Lodd.
- ชื่อสามัญ Jaburan Lily Turf, Varigated Lilyturf, Variegated Mondo Grass, White Lily turf
- วงศ์ Asparagaceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 50 เซนติเมตร ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าสั้นๆ มีรากสะสมอาหารเป็นกระจุก ใบรูปแถบแคบ ออกเวียนสลับ ปลายใบแหลม คล้ายกับชุนเช่าหรือที่เรียกกันว่า ว่านทุ่งเศรษฐีหรือเศรษฐีไซ่ง่อน แตกต่างกันที่ปลายใบแหลมและม้วนเข้าหาต้นเป็นวง ช่อดอกชูตั้งขึ้น ส่วนปลายโค้งลงเล็กน้อย ดอกสีขาว ผลค่อนข้างกลม สีฟ้าอมม่วง มีเนื้อหุ้มเมล็ด
ความเชื่อ
เป็นไม้เสี่ยงทายที่เชื่อกันว่า หากใครปลูกแล้วใบม้วนเป็นหลอดจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและเงินทองไหลมาเทมา ส่วนต้นที่ชื่อชุนเช่า หรือว่านทุ่งเศรษฐี เป็นไม้มงคลในด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม ช่วยให้ทำมาค้าขายดี ในพิธีแต่งงานของชาวจีนมักมีพืชชนิดนี้อยู่ในขันหมาก เพื่อต้องการให้คู่บ่าวสาวรักกันยืนยาว
พฤษภาคม
ว่านกุมารทอง
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Scadoxus multiflorus (Martyn) Raf. (Tratt.) Martyn
- ชื่อสามัญ African Blood Lily, Blood Flower, Football Lily, Powder Puff Lily
- วงศ์ Amaryllidaceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นใต้ดินคล้ายหัวหอม ทุกส่วนอวบน้ำ ต้นสูง 40-50 เซนติเมตร ใบรูปใบหอกกว้าง ออกเวียนสลับ แผ่นใบหนา ปลายใบมนเป็นติ่งแหลม เส้นกลางใบหนา เป็นร่อง ก้านใบกลม ช่อดอกออกก่อนผลิใบในช่วงฤดูร้อน ดอกย่อยจำนวนมาก สีแดงอมส้ม กลีบแคบยาว เห็นเกสรเพศผู้ชัดเจน ทยอยบานนาน 2-3 วันจึงโรย ผลทรงกลม เมื่อสุกสีส้ม
ความเชื่อ
เป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม นิยมปลูกใส่กระถางตั้งไว้หน้าบ้านหรือศาลพระภูมิ เชื่อว่า หากนำดอกไปเคี่ยวกันน้ำมันทาตัว จะช่วยให้คงกระพันชาตรี บ้างก็เชื่อว่า มีกุมารทองสิงสถิตอยู่ และคอยปกป้องคุ้มภัยให้ หากปลูกร่วมกับว่านมหาลาภ และว่านนางคุ้ม หากออกดอกก็มีโชคลาภ ทำมาค้าขายดี บางคนนำดอกแห้งมาบดเป็นผง ผสมกับวัตถุมงคลที่ใช้ทำเครื่องราง
มิถุนายน
ว่านเทพประชุมพร, บัวชั้น
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcumma petiolata Roxb.
- ชื่อสามัญ Hidden Ginger, Pastel Hidden Ginger, Hidden Lily, Queen Lily
- วงศ์ Zingiberaceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าทอดเลื้อย รูปไข่ค่อนข้างกลม รากสะสมอาหารเป็นตุ้มลำต้นเหนือดินสูง 30–50 เซนติเมตร ใบรูปรีแกมรูปไข่ ออกเรียงสลับ ปลายใบแหลม โคนใบมน ช่อดอกออกหลังผลิใบ ชูตั้งขึ้น ใบประดับสีชมพู ดอกสีขาวอมเหลือง กลีบปากมีแต้มสีเหลืองเข้ม พักตัวในฤดูหนาว
ความเชื่อ
เชื่อว่าเป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม หากใครปลูกไว้หน้าร้านค้าและออกดอกจะช่วยให้ค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมาก เมื่อออกดอกหากผูกผ้าแดงไว้ที่กระถางพร้อสวดพุทธคุณทุกวัน พร้อมขอพร จะสมหวังทุกประการ
กรกฎาคม
ว่านลูกไก่ทอง, ขนไก่น้อย, เฟินลูกไก่ทอง, ละอองไฟฟ้า, ว่านไก่น้อย, หัสแดง
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Cibotium barometz (L.) J.Sm.
- ชื่อสามัญ Golden Chicken Fern
- วงศ์ Cyatheaceae
จุดเด่น
เฟินดิน อายุหลายปี ต้นสูง 1– 2 เมตร ลำต้นเป็นเหง้าสั้นๆ มีขนยาวสีเหลืองทองปกคลุม ยอดใบอ่อนมีม้วนงอ มีขนปกคลุมเช่นใบ ใบประกอบแบบขนนก 3 ชั้น ทางใบรูปสามเหลี่ยม ใบย่อยหยักเว้าลึก ก้านใบใหญ่ เส้นกลางใบย่อยมีขนสีน้ำตาลปกคลุม กลุ่มอับสปอร์อยู่ใกล้เส้นกลางใบ
ความเชื่อ
คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นว่านที่ให้โชคลาภ หากนำมาปลูกเลี้ยงแล้วได้ยินเสียงไก่ร้อง จะนำโชคลาภมาสู่ครอบครัว หากใครบูชาและหมั่นสวดคาถาเป็นประจำจะให้คุณยิ่งขึ้น
สิงหาคม
ว่านบัวบก, บัวกือ, บัวเครือ, เปล้าเลือดเครือ, สบู่เลือด
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Stephania pierrei Diels
- วงศ์ Menispermaceae
จุดเด่น
ไม้เลื้อยอายุหลายปี มีรากสะสมอาหารใต้ดินเป็นโขดทรงกลมขนาดใหญ่ ลำต้นทอดเลื้อย ใบรูปก้นปิดกลม ปลายใบมนหรือมีติ่งแหลม ก้านใบยาวออกจากกึ่งกลางใบ ใบหนาแข็ง สีเขียวเข้ม เห็นเส้นใบเป็นร่างแหชัดเจน ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม ออกจากซอกใบ ดอกแยกเพศอยู่ต่างต้น มีดอกย่อยเล็กๆ จำนวนมาก ผลทรงกลม มีเนื้อนุ่มหุ้มเมล็ด เมื่อสุกสีแดง มีเพียงเมล็ดเดียว
ความเชื่อ
เชื่อกันว่า เป็นว่านทางคงกระพันชาตรี หากปลูกให้เลื้อยตามริมรั้วจนโขดรากมีขนาดใหญ่ จะช่วยปกป้องคุ้มภัยได้ บ้างก็เชื่อว่านำพาโชคลาภและสิ่งดีๆ มาให้
กันยายน
ว่านนกยูง, คล้าด่าง, จะคู, สาคูด่าง
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Maranta arundinacea L. ‘Variegata’
- ชื่อสามัญ Variegated Arrow root
- วงศ์ Marantaceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าทอดเลื้อย ลำต้นเหนือดินสูง 45-50 เซนติเมตร ใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ออกเรียงสลับ ปลายใบแหลมติ่ง โคนใบป้าน แผ่นใบบาง สีเขียว มีแถบด่างสีขาวทั่วใบ ก้านใบกลมเล็ก โคนก้านแผ่เป็นกาบ ดอกไม่พบ พักตัวช่วงฤดูหนาว
ความเชื่อ
เป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม หากพกติดตัวไปที่ใดก็จะแคล้วคลาดจากภยันตราย แต่ควรเสกด้วยคาถา “อุเทตะยันจะขุมา” 3 จบ จะให้ผลดี นอกจากนี้หัวใต้ดินของสาคูใบเขียวปกติยังนำมาต้มกินเป็นขนมมาแต่โบราณ
ตุลาคม
แก้วกาญจนา, เขียวหมื่นปี, อโกลนีมา
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Aglaonema spp. & hybrid
- ชื่อสามัญ Chinese Evergreen
- วงศ์ Araceae
จุดเด่น
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นตั้งตรงหรือทอดเลื้อย เห็นข้อปล้องชัดเจน รากอวบน้ำออกตามข้อปล้อง ใบออกเวียนสลับรอบลำต้น ใบมีหลายแบบ ทั้งรูปแถบ รูปใบหอก รูปรี รูปไข่ รูปไข่กลับ ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบสอบ ป้าน หรือมน ใบหนามีสีเขียว มีลวดลายด่างแตกต่างกัน ช่อดอกแบบช่อเชิงลดมีกาบ ออกจากซอกใบ มีกาบรองรับปลีดอก ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกเพศผู้อยู่ด้านบนปลีดอก ด้านล่างเป็นดอกเพศเมีย ผลทรงรี มีเนื้อนุ่ม เมื่อสุกสีส้ม
ความเชื่อ
คนไทยในอตีตกาลเรียกว่า ว่านเขียวหมื่นปี หรืออโกลนีมา นิยมปลูกเป็นว่าน เป็นไม้มงคลมีหลายชนิด เช่น ว่านขันหมาก โพธิสัตว์ โพธิ์บัลลังก์ นกกระทา ลิ้นกระทิง กวักทองคำ เป็นต้น เพราะเชื่อว่าจะนำสิ่งดีๆ โชคลาภ และเสน่ห์เมตตามหานิยมมาสู่ผู้อาศัย จึงนิยมปลูกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในยุคนี้มีผู้พัฒนาสายพันธุ์ในมีความสวยงามโดดเด่นขึ้น เลี้ยงง่าย และตั้งชื่อที่เป็นมงคล จึงนิยมใช้ปลูกเป็นไม้กระถางและประดับสวนกันอย่างแพร่หลาย เช่น อัญมณี ลายน้ำทอง ทรัพย์เจ้าสัว สมบัติสยาม เป็นต้น และยังมีงานวิจัยพบว่า แก้วกาญจนา ช่วยดูดซับสารพิษกลุ่มฟอร์มัลดีไฮล์ในอากาศได้อย่างดีอีกด้วย
พฤศจิกายน
โป๊ยเซียน, ว่านเศรษฐี
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Euphorbia spp. & hybrid
- ชื่อสามัญ Christ Plant, Christ’s Thorn, Crown of Thorns
- วงศ์ Euphorbiaceae
จุดเด่น
ไม้พุ่มอายุหลายปี สูง 1-3 เมตร ทุกส่วนอวบน้ำ มีหนามยาวรอบลำต้นและกิ่ง ใบรูปขอบขนานแกมรูปรี หรือรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ออกเวียนรอบต้น ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ปลายกิ่ง มี 4-16 ดอก เกสรเพศเมียอยู่กึ่งกลางดอก เรียงเป็นวงล้อมรอบเกสรเพศผู้ ไม่มีกลีบดอก แต่มีกลีบที่ดูคล้ายกลีบดอก 2 กลีบ มีหลายสีทั้ง ขาว ขาวอมเหลือง แดง ชมพู ผลเป็นฝักแห้ง เมื่อแก่แตกออกเป็น 3 พู ภายในมีเมล็ด คล้ายรูปไต สีน้ำตาล นำไปขยายพันธุ์ได้
ความเชื่อ
ชื่อ “โป๊ยเซียน” มาจากภาษาจีน แปลกว่า เทพทั้ง 8 ซึ่งมีความเชื่อมาแต่โบราณว่า ถ้าใครปลูกเลี้ยงจนให้ดอกมาก 16-32 ดอก จะนำโชคลาภมาให้ และยังเชื่อว่า หนามแหลมรอบต้นจะช่วยป้องกันภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้ชาวมาดากัสการ์ยังเชื่อว่า โป๊ยเซียนใช้ทำมงกุฎที่พระเยซูสวมใส่ขณะโดนตรึงกางเขน ซึ่งพระโลหิตที่ไหลออกมาทำให้ลำต้นและหนามโป๊ยเซียนมีสีแดงเรื่อ จึงเป็นที่มาของชื่อ Christ Plant และ Christ’s Thorn
ธันวาคม
ว่านเพชรนารายณ์, ขุนโจรกลับใจ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena aubryana Brongn.
- ชื่อสามัญ Dwarf Dracaena, Lance Dracaena
- วงศ์ Asparagaceae
จุดเด่น
ไม้พุ่ม อายุหลายปี สูง 50 – 70 เซนติเมตร มีเหง้าสั้นๆ ทอดเลื้อยใต้ดิน ใบรูปใบหอก ออกเรียงสลับระนาบเดียว ยาว 30 – 35 เซนติเมตร ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบมน แผ่นใบหนา มีร่องตามแนวยาว ก้านใบแผ่เป็นกาบ ช่อดอกออกจากซอกใบ ดอกจำนวนมาก สีขาว กลีบดอกเป็นหลอดเล็ก ๆ บานตอนกลางคืนถึงเช้า มีกลิ่นหอม ไม่ติดผล
ความเชื่อ
ให้คุณด้านคงกระพันชาตรี และด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม ตามตำราว่านบันทึกไว้ว่า หากต้องการขุดหัวว่าน ต้องหาฤกษ์งามยามดีก่อนขุดหัว พร้อมเครื่องบูชา นำมาแกะเป็นรูปพระนารายณ์ และเสกด้วยคาถา พกติดตัวไปยามออกรบ จะได้รับชัยชนะกลับมา ทั้งยังเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมและนะจังงังอีกด้วย
เรื่อง : อุรไร จิรมงคลรัช
ภาพ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน