บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้ สไตล์โมเดิร์น โชว์ผิววัสดุเรียบเท่

บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้ เรียบเท่ที่เคยเป็นบ้านถูกทิ้งร้างหลายปี จนเมื่อเปิดออกมาอีกครั้งก็ได้รับการแปลงโฉมใหม่ให้เหมาะกับรุ่นลูก คืนชีวิตชีวาบ้านจากการออกแบบและการกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งของครอบครัว

Design Directory ออกแบบสถาปัตยกรรม : Collage Design Studio

เบื้องหน้าของประตูรั้วอาจเห็นเป็นบ้านทรงกล่องเรียบขรึม แต่เมื่อผ่านเข้ามาภายในก็จะพบกับโครงสร้างเปลือยอารมณ์ดิบของ บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่ประกอบขึ้นจากส่วนหนึ่งของบ้านอายุกว่า 50 ปี สอดประสานเข้ากับฟังก์ชันบ้านกึ่งใต้ถุนที่รีโนเวตขึ้นใหม่อย่างลงตัวในวงล้อมผืนผนังใหม่ สร้างพื้นที่แห่งความสุขที่มีชื่อว่า “S Wall House”

บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้ — มุมบ้านที่เปิดออกไปยังสระว่ายน้ำ เป็นทั้งมุมรับประทานอาหาร โต๊ะทำงาน และพื้นที่นั่งเล่นผ่อนคลาย ได้ในตัว

เดิมบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านที่คุณพ่อคุณแม่อาศัย โดยมีลูกๆ อยู่ร่วมรั้วเดียวกันในบ้านอีกหลังที่สร้างห่างไปไม่ไกล เมื่อคุณพ่อจากไป คุณแม่ก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดนานนับปี เพื่อหนีความเงียบเหงาในบ้านที่เคยอยู่ร่วมกัน ปิดบ้านทิ้งร้างเรื่อยมาจนกระทั่ง คุณโอ๊กและคุณปัท เจ้าของบ้านรุ่นลูก เริ่มวางแผนขยับขยายการอยู่อาศัยด้วยการรีโนเวตบ้านหลังเก่าและเชื่อมทั้งสองหลังเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น และเพื่อให้คุณแม่กลับมาอยู่ร่วมกันเช่นเดิม โดยปรึกษาความเป็นไปได้รวมถึงงบประมาณกับทีมสถาปนิกที่รู้จักกันดี ก่อนจะสำรวจโครงสร้าง ออกแบบ รวมถึงดูแลการรีโนเวตบ้านตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมี อาจารย์พุทธิชาติ วานิชทัตต์ Design Director แห่ง Collage Design Studio มาเป็นหัวหน้าทีม ในการคืนชีวิตชีวาสู่พื้นที่แห่งความทรงจำของครอบครัว

การรื้อถอนที่ทำให้พบโครงสร้างเก่าล้ำค่า

ประตูบ้านเปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับทีมสำรวจบ้านทรงจั่วครึ่งปูนครึ่งไม้ที่สร้างโดยคุณพ่อ ซึ่งเป็นนายช่างโยธา แม้ตัวบ้านจะเก่าจนฝุ่นจับโทรม แต่โครงสร้างก็ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ในระหว่างการสำรวจก็พบกับวัสดุบ้านที่ปัจจุบันหาไม่ได้ง่ายๆ

“ตอนที่เราเข้ามา เปิดฝ้าดูก็เห็นว่าพื้นชั้นบนเป็นไม้กระดานแผ่นใหญ่มาก บางแผ่นมีขนาด 6-8 นิ้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มี ก็เลยคุยกับเจ้าของบ้านว่าขอเก็บไม้ไว้ทั้งหมด”

พื้นไม้เก่าได้รับการชุบชีวิตด้วยการอุดรอยต่อ ขัดสีให้เอี่ยมจนกลับมาเป็นพื้นไม้ลายสวย บางส่วนที่เลาะออกมาจากการปรับผัง ก็แปลงไปเป็นลูกนอนบันไดที่เพาะขึ้นใหม่จากอดีตไม้พื้น โชว์เอกลักษณ์ของยุคสมัยเข้ากับฟังก์ชันที่เปลี่ยนไปได้อย่างแนบเนียน

เสาคานโชว์ผิวคอนกรีตที่ล้อมคอร์ตสระว่ายน้ำ ก็มาจากการค้นพบโครงสร้างเก่าระหว่างรื้อถอน เช่นกัน โดยแผนแรกเริ่มคือการรื้อออกทั้งหมดเพื่อลบภาพจำเดิมๆ ของบ้าน ทว่าเมื่อรื้อผิววัสดุออกก็พบ โครงสร้างเสาคานฝีมือคุณพ่อที่ยังคงความแข็งแรง และผิวสัมผัสคอนกรีตซึ่งให้อารมณ์ต่างไปอีกแบบ ก็สามารถสร้างบรรยากาศใหม่ในบ้านได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรื้อและสร้างใหม่ทั้งหมด

โชว์ความดิบของโครงสร้างคอนกรีตเปลือย บอกเล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่เคยเป็นคนสร้างบ้านหลังนี้

ซ้อนฟังก์ชันใหม่เข้าไปในโครงสร้างเก่าของ บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้

เมื่อพบว่าบ้านเก่ายังมีหลายส่วนที่สภาพดี สถาปนิกจึงเกิดไอเดียการรีโนเวตด้วยเทคนิค การซ้อนทับของใหม่เข้าไปในโครงสร้างเก่า เริ่มด้วยการปรับผังภายใน จากบ้านเดิมที่แยกห้องอย่างชัดเจน ซึ่งค่อนข้างปิดทึบสำหรับการใช้งานของสมาชิกรุ่นลูก จึงลงความเห็นร่วมกันกับสถาปนิกว่าจะรื้อพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน รวมถึงบันไดออกไปทั้งหมด และออกแบบภายในบ้านเป็นผังแบบโอเพ่นแปลน โดยรวมฟังก์ชันการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวไว้ชั้นบน ส่วนชั้นล่างก็รวมฟังก์ชันระหว่างวันอย่างมุมนั่งเล่น แพนทรี่ และโต๊ะอาหารเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อมต่อพื้นที่ภายใน-ภายนอกด้วยบานกระจกใส เปิดมุมมองออกไปยัง คอร์ตกลาง เปลี่ยนบรรยากาศบ้านคับแคบให้เป็นบ้านกึ่งใต้ถุนโล่งสบาย

ภายในบ้านออกแบบใหม่ โดยรื้อบันไดและผนังภายในออกทั้งหมด เพื่อให้ได้พื้นที่ในบ้านเพิ่มขึ้น และเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ปรับผังได้อย่างยืดหยุ่น

การย้ายบันไดเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สร้างอารมณ์ใหม่ให้บ้าน เนื่องจากบันไดเดิมนั้นจำกัดพื้นที่ใช้งาน อีกทั้งยังเดินขึ้น-ลงลำบากด้วยสัดส่วนบันไดแคบชันอย่างบ้านสมัยก่อน ซึ่งทั้งเจ้าของบ้านและสถาปนิก ต่างเห็นพ้องกันในการย้ายบันไดเพื่อให้มีพื้นที่ภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น จึงรื้อออกและสร้างใหม่ขนาบไปกับ คอร์ตสระว่ายน้ำให้เป็นบันไดกึ่งภายนอก สร้างความรู้สึกขณะเดินขึ้น-ลงบันไดที่แตกต่างไปจากเดิม

“บันไดเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างชั้นบนกับชั้นล่าง และเมื่อเราเอาไปไว้ข้างนอก บันไดจะทำหน้าที่ เชื่อมต่อทั้งภายนอกและภายในบ้านด้วย”

คอร์ตสระว่ายน้ำเป็นหนึ่งในโจทย์การรีโนเวตบ้านไม่กี่ข้อที่เอ่ยขอกับสถาปนิก มีที่มาจาก ความชื่นชอบในบรรยากาศการสังสรรค์ริมสระน้ำของคุณโอ๊กซึ่งเป็นเจ้าของบาร์ สถาปนิกจึงเติมเข้ามา ในบริเวณที่เคยเป็นห้องทำงานเก่าของคุณพ่อ กลายเป็นหัวใจของบ้านในรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้เป็นเพียง พื้นที่ปาร์ตี้ยามค่ำคืนที่เจ้าของบ้านโปรดปราน แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างสุขให้สมาชิกในบ้านทุกวัย ทั้งมุมสวยพักสายตายามนั่งทำงานในเวลากลางวัน สระน้ำเล่นสนุกยามเย็นของหลานชาย และทำให้คุณแม่สามารถมานั่งเล่นร่วมกันกับครอบครัว กลับมามีความสุขในพื้นที่แห่งความทรงจำได้

อีกมุมหนึ่งของทางเข้าที่ต่อเติมจากตัวบ้านให้เดินไปยังคอร์ตสระว่ายน้ำ โดยที่ไม่ต้องผ่านเข้าภายใน อาคาร

ชั้นรองเท้าหน้าบ้านที่ออกแบบให้เปิดใช้งานได้ง่ายและยังระบายอากาศได้ดี

S Wall ผนังของ บ้านรีโนเวตครึ่งปูนครึ่งไม้ โอบล้อมสุขแห่งการอยู่อาศัย

เปลือกอาคารสีเข้มที่สร้างภาพจำใหม่ให้บ้าน เป็นผนังผืนยาวอ้อมล้อมคอร์ต และวกไปตาม แนวชายคาอาคารคล้ายตัวอักษร S เป็นที่มาของชื่อบ้าน “S Wall House” ที่ทำขึ้นใหม่เพื่อบดบังสายตา จากภายนอก สร้างความเป็นส่วนตัวให้สระน้ำ โดยยังคงความเป็นคอร์ตกลางแจ้งเปิดเห็นท้องฟ้า และยังเป็นผนังอีกชั้นหนึ่งที่กันแสงแดดไม่ให้ส่องกระทบตัวบ้านโดยตรง

ผนังดังกล่าวลดปัญหาความร้อนระหว่างวันให้ บ้านชั้น 2 ได้ในตัว ซึ่งสถาปนิกออกแบบให้กระทบกับบ้านน้อยที่สุด โดยเลือกใช้โครงสร้างเหล็กก่อบน แนวเสาที่แยกโครงสร้างจากตัวบ้านอย่างชัดเจน จึงไม่เพิ่มภาระน้ำหนักแก่อาคารเดิม บ้านเก่าจึงยังคง ความเป็นบ้านที่แข็งแรง โดยมีโครงสร้างใหม่มาเติมเต็มสุขของการอยู่บ้านให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น บทสรุปของการสร้างบรรยากาศใหม่ให้บ้านหลังนี้ จึงไม่ได้เป็นการกลบร่องรอยอดีตทิ้ง แล้วสร้าง ขึ้นใหม่ แต่เป็นการสร้างพื้นที่แห่งความสุขซ้อนทับอยู่บนส่วนหนึ่งของความทรงจำ ซึ่งช่วยแต่งเติม เรื่องราวบทใหม่ของครอบครัวไปพร้อมๆ กับการมีอยู่ของบ้านหลังเดิมได้