บ้านกลิ่นอายคลาสสิก ที่เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย
บ้านกลิ่นอายคลาสสิก ที่ภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด มีความโปร่ง สว่าง และน่าสบาย ผสมผสานเฟอร์นิเจอร์กลิ่นอายคลาสสิกที่มีความอบอุ่นละมุนละไมในตัว เป็นบ้านที่เจ้าของบ้านบอกว่าอยู่แล้วไม่อยากออกไปไหนเลย
Design Directory : ออกแบบ : Lexoda
บ้านและสวน มีโอกาสมาเยี่ยมชม บ้านกลิ่นอายคลาสสิก ของ ครอบครัวเชวงวงศ์สิน เจ้าของธุรกิจ โดมพารากอน อันเลื่องชื่อแห่งจังหวัดนครราชสีมา แหล่งจำหน่ายสรรพสินค้าในครัวเรือนครบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะเปิดร้านค้าขายต่าง ๆ ที่นี่คือคลังสินค้าใหญ่ในภาคอีสานที่หลายคนมุ่งเป้ามาเป็นที่แรก
บ้านกลิ่นอายคลาสสิก หลังนี้ตกแต่งอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด เป็นผลงานออกแบบของ คุณเล็ก –นภาภรณ์ โพธิรัชต์ มัณฑนากรแห่ง Lexoda ที่มีลายเซ็นอันโดดเด่นในการมิกซ์แอนด์แมตช์งานสไตล์คลาสสิกวินเทจเข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
คุณอันอัน-อัญธิกา เชวงวงศ์สิน หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวพาชม บ้านกลิ่นอายคลาสสิก หลังนี้ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวและที่มาที่ไปของการทำบ้านครั้งนี้ว่า
“ตอนที่เริ่มสร้างบ้านหลังนี้อันเริ่มหาข้อมูลจากนิตยสาร ยูทูป แล้วก็ได้เจอผลงานของคุณเล็กผ่านทางยูทูปรายการ บ้านและสวนทีวี แล้วเราก็ไปเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็เห็นผลงานของคุณเล็กอีกเยอะเลย ซึ่งลงตัวกับบ้านที่เรากำลังสร้างอยู่ เลยติดต่อไปทางเพจ Lexoda ค่ะ”
ปรับบ้านให้เหมาะกับการใช้งาน
“ตอนแรกบ้านเริ่มสร้างไปแล้ว ส่วนหนึ่งอันหาแบบเองจากในอินเทอร์เน็ต ซึ่งคุณเล็กก็มาช่วยปรับให้ทั้งหมด เพราะแบบที่อันหามาไม่เหมาะกับการใช้งาน บางจุดฟังก์ชันไม่ได้ หรือตำแหน่งไม่เหมาะสม คุณเล็กช่วยปรับและแก้ปัญหาให้หมดเลย ก่อนหน้าที่คุณเล็กจะมาช่วยดูมีปัญหาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากแบบเราเอามาจากอินเทอร์เน็ตแล้วให้สถาปนิกแกะแบบให้ ซึ่งเขาทำตามที่เราอยากได้เลย แต่ปัญหาคือมีเสาอยู่กลางบ้าน ซึ่งคุณเล็กมาปรับดีไซน์การตกแต่งภายในให้กลายเป็นมุมแพนทรี่ที่ลงตัวมาก อีกอย่างคือห้องครัวเดิมทำไว้เราเล็กเกินไปก็ปรับพื้นที่กั้นส่วนกันใหม่ทั้งหมด”
จากแปลนห้องครัวบ้านเดิมที่ออกแบบอยู่เฉพาะด้านนอกเป็นลักษณะครัวเปิด ซึ่งคุณแม่ของคุณอันอยากได้ห้องครัวใหญ่ที่มีพื้นที่เตรียมอาหาร จึงมีการทุบรื้อบางส่วน ขยายพื้นที่แพนทรี่และส่วนรับประทานอาหารให้เชื่อมต่อกัน แล้วค่อยมีประตูต่อไปยังห้องครัว พร้อมเปลี่ยนจากหน้าต่างฝั่งครัวเป็นประตูที่สามารถเข้าจากส่วนจอดรถได้ทันที ทำให้สะดวกเวลาซื้อของสดเข้าบ้าน
ส่วนพื้นที่ชั้น 2 มีการปรับเลี่ยนหลายจุด ทั้งดีไซน์ส่วนช่องเปิดของห้องนอนแขกโดยขยายหน้าต่างให้เป็นประตูสำหรับออกไประเบียงกว้างด้านนอกได้ ห้องชั้นบนสุดที่มีบันไดวนขึ้นไป เดิมทีไม่ได้ใช้งานก็ดีไซน์ใหม่เป็นเหมือนห้องสมุดและแกลเลอรี่เก็บภาพถ่ายของครอบครัว รวมทั้งดัดแปลงให้มีฟังก์ชันเป็นห้องทำงานได้ด้วย คุณอันยังเสริมเพิ่มเติมว่า “บ้านเก่าของเราเป็นตึกแถว ต่างคนก็ต่างอยู่กันคนละที่ ทำให้เราไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันเท่าไร แล้วพอมีบ้านหลังนี้ตั้งแต่บ้านเสร็จทุกคนจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน นั่งคุยกัน กินข้าว จุดที่อันชอบมากคือพื้นที่บ้านของเราสามารถมองเห็นกันหมด ยกเว้นห้องส่วนตัวพอถึงเวลานอนพักผ่อนแล้วค่อยแยกย้าย เรียกว่าเปลี่ยนพฤติกรรมคนในครอบครัวไปเลย ได้คุยกันเยอะมากขึ้น ใช้เวลาร่วมกันเยอะ อย่างเดิมทีพอวันหยุดต่างคนก็ต่างออกไปข้างนอก เพราะว่าไม่มีพื้นที่ที่บ้าน ตอนนี้เราก็มีกิจกรรมทำที่บ้าน อย่างคุณพ่อก็ชอบห้องนั่งเล่นกับสระว่ายน้ำ ดูสวน ดูทีวี น้องชายมีมุมประจำของตัวเองในบ้าน ส่วนคุณแม่จะชอบครัวมากที่สุด”
สำหรับการตกแต่งภายในบ้านทั้งหมดคุณอันเล่าว่าโดยส่วนตัวชอบสไตล์ของคุณเล็กอยู่แล้ว จึงมอบหน้าที่การตกแต่งให้คุณเล็กเป็นหลัก ซึ่งทุกคนในบ้านก็ชอบแบบเดียวกัน ทำให้ออกมาในแนวทางเดียวกันและสอดคล้องกันทั้งหมด ยกเว้นห้องนอนแต่ละคนที่จะมีคาแร็กเตอร์ต่างกันไป
สำหรับของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้มีมาจากหลากหลาย ส่วนใหญ่สั่งมาจากกรุงเทพฯส่งมา เช่น เฟอร์นิเจอร์จาก Chanintr บางชิ้นเป็นงานสั่งทำ บางชิ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์มือสองนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กัน โดยเน้นกลิ่นอายแบบคลาสสิก วินเทจเป็นหลัก เติมเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายและงานไม้กลึง ขับเน้นด้วยวอลล์เปอร์เปอร์ลวดลายสวยคลาสสิกแบบพอดิบพอดี
ในมุมของผู้ออกแบบ คุณเล็กเล่าเพิ่มเติมว่าบ้านหลังนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของจากบ้านเดิมเลย ซึ่งก็เป็นโจทย์ที่จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เพราะต้องเลือกของเข้าบ้านใหม่ทั้งหมด และทางครอบครัวก็ไว้ใจให้คุณเล็กเลือกทั้งหมด ซึ่งคุณเล็กเล่าเพิ่มเติมว่า “อย่างสีหลักๆในบ้านจะเลือกใช้สีขาวอยากให้บ้านดูสะอาด โปร่งโล่ง ยกเว้นพื้นที่ส่วนตัวแต่ละคน อย่างคุณแม่ก็จะมีสีในใจของเขาจะชอบสีชมพู ก็เลือกเป็นชมพูตุ่นๆนิดนึง ซึ่งดูสวยและหวานพอดี ห้องนอนของน้องชายคุณอันก็จะเลือกสีขรึมๆ ส่วนห้องนอนแขกมีห้องของเพื่อนน้องชายพยายามหาสีที่เป็นห้องนอนของผู้ชายได้ด้วยและเข้ากันกับบ้านหลังนี้ด้วย เลยมาจบที่สีเขียวมะกอกที่ดูเข้ากับธีมบ้าน ส่วนอีกห้องเป็นห้องเพื่อนคุณอันซึ่งต้องการสีจัดจึงเลือกสีเหลืองซึ่งห้องนี้จะมีสีจัดสุดในบ้าน”
นอกจากนี้คุณเล็กยังเพิ่มช่องเปิดต่างๆ ในบ้านหลายๆ จุดเพื่อให้ได้แสงสว่างจากภายนอก ทั้งยังมองออกไปเห็นสวนสวยได้ด้วย
การสร้างบ้านคือการเรียนรู้
คนส่วนใหญ่เวลาสร้างบ้านมักจะมีข้อคิดเห็นไม่ตรงกันของคนต่างวัย แต่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ เพราะทางคุณพ่อคุณแม่ยกการตัดสินใจทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของลูก
“คุณพ่อกับคุณแม่เขาอยากให้ลูกเป็นผู้ดูแลบ้านนี้ เหมือนกับว่าเขาต้องการให้การทำบ้านคือการฝึกตัดสินใจทุกอย่างจนสำเร็จ จริงๆ ต้องยกให้เครดิตคุณพ่อคุณแม่ พอทำออกมาแล้วเขาไม่มาติเลยว่าไม่ชอบแบบนี้ ไม่ชอบอันนี้ เขาโอเคทุกอย่าง พอบ้านเสร็จแล้วทุกคนชอบมาก อย่างคุณพ่อเองปกติไม่เคยออกความเห็นแต่กลับเป็นคนที่ใช้บ้านคุ้มที่สุด
“เราตกลงกันในครอบครัวก่อนว่าถ้าให้อันตัดสินใจ อันก็จะดีลกับคุณเล็กได้เต็มที่ เพราะไม่อย่างนั้นถ้าแต่ละคนอยากได้ไม่เหมือนกันมันอาจจะไม่ได้สวยถูกใจแบบที่ทุกคนเคยวาดฝันไว้ มีแค่ห้องนอนที่เป็นความชอบของแต่ละคน”
สวนที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับบ้าน
ด้วยดีไซน์ของตัวบ้านที่มีกลิ่นอายแบบคลาสสิก เจ้าของบ้านจึงไว้วางใจให้ คุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง จาก Little Tree Landscape เป็นผู้ออกแบบจัดสวน เป็นสไตล์สวนแบบยุโรปที่เสริมบรรยากาศของบ้านได้เป็นอย่างดี เลือกใช้ไม้ฟอร์มอย่างอากาเว่ปลูกลงกระถาง มีไม้ตัดแต่งพุ่มอยู่ในแปลงกั้นขอบเขต รวมทั้งแปลงผักสวนครัวก่อกระบะขึ้นมา ส่วนพื้นสวนโรยกรวด และวางทางเดินให้ทั่วถึงรอบบ้านเน้นเป็นสวนที่ดูแลง่ายและสวยตลอดทั้งปี
“ครั้งแรกที่เจอคุณวิทย์ก็ถามก่อนว่าตรงนี้อยากทำอะไร แต่พอเริ่มคุยว่าจริงๆแล้วอยากได้พื้นที่เป็นสวนเลย ตอนแรกเราอยากได้ต้นไม้เยอะๆ เพราะบ้านเราไม่เคยมีต้นไม้ แต่คุณวิทย์แนะนำว่าถ้าเราทำเป็นสวนป่าแล้วดูแลไม่ถึงหรืออาจจะดูแลไม่ดีพอ สวนก็จะสวยได้ไม่นาน เพราะบอกคุณวิทย์ด้วยว่าครอบครัวเราดูแลต้นไม้ไม่เก่ง ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับต้นไม้เลย เพราะฉะนั้นเราอยากได้ต้นไม้ที่อยู่กับเราโดยที่ไม่ต้องดูแลตลอดเวลา คุณวิทย์เลยเลือกต้นไม้ที่ดูแลง่ายๆให้ สวนนี้เราใช้งานได้จริง สามารถเดินได้รอบบ้าน อย่างถ้าซื้อของมาสามารถเดินตรงทางเล็กๆไปเข้าครัวได้เลยไม่ต้องเข้าตัวบ้านก่อน
“ส่วนบนระเบียงก็มีเลมอนที่เข้ากับผ้าม่านในห้องนอน แล้วต้นโตดีมากบนระเบียง ตรงนี้ให้น้องชายก็เป็นคนดูแลต้นไม้กับสวน ถ้ามีตรงไหนที่ผิดปกติเขาก็จะมาบอกคุณวิทย์”
บ้านนี้ใช้เวลาสร้างเสร็จสมบูรณ์ประมาณ 1 ปี ซึ่งอยู่ในทำเลที่เดินทางไปร้านโดมพารากอนได้สะดวกด้วย แม้ว่าบ้านจะอยู่ใจกลางเมืองโคราช แต่การตกแต่งที่เน้นบรรยากาศให้บ้านเป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวราวกับเป็นบ้านตากอากาศ ทำให้บรรยากาศที่นี่ไม่เหมือนบ้านในเมืองเลยสักนิด ซึ่งคุณแม่ของคุณอันยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าญาติและเพื่อนๆ ทุกคนที่มาบ้านชอบหมด บ้างถึงกับเอ่ยปากว่าแทบจะเป็นที่ที่สวยที่สุดในโคราช เพราะเริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่มีความเป็นส่วนตัว สวนสวยที่ดูแลเป็นอย่างดีรอบบริเวณ รวมทั้งภายในบ้านที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด มีความโปร่ง สว่าง และน่าสบาย ผสมผสานเฟอร์นิเจอร์กลิ่นอายคลาสสิกที่มีความอบอุ่นละมุนละไมในตัว เป็นบ้านที่เราเชื่อดังคำที่เจ้าของบ้านบอกว่าอยู่บ้านแล้วไม่อยากออกไปไหนจริง ๆ
เจ้าของ : ครอบครัวเชวงวงศ์สิน
ตกแต่ง : Lexoda โดยคุณนภาภรณ์ โพธิรัชต์
จัดสวน : Little Tree Landscape โดยคุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง
เรื่อง : วรัปศร
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตลิสต์ : SUANPUK