ภาชนะในครัว มีอายุการใช้งานและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน
ภาชนะที่ทุกบ้านนำมาใช้กันอยู่ในครัวนั้น ก็ผลิตมาจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป นั่นทำให้การ ดูแลภาชนะในครัว แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความทนทานไม่เหมือนกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเป็นภาชนะแบบไหน ก็ไม่ควรละเลยเรื่องการใช้งานให้เหมาะสม รวมทั้งหมั่นสังเกตสภาพของวัสดุ และ ดูแลภาชนะในครัว ให้สะอาดเรียบร้อยเสมอ
การ ดูแลภาชนะในครัว ซึ่งอายุการใช้งานและข้อควรระวังของภาชนะประเภทต่าง ๆ นั้น จะมีความเหมือนหรือต่างกันตรงจุดไหนบ้าง ตาม บ้านและสวน มาเช็คอายุกันของภาชนะแต่ละประเภทกันได้เลย อันไหนเก่าแล้ว หรือเริ่มมีร่องรอยของความไม่สะอาดฝังแน่น แบบที่ล้างอย่างไรก็ไม่ออกไปง่าย ๆ ก็ต้องตัดใจทิ้ง ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเป็นทางลัด ทำให้สุขภาพเราเสียตามไปด้วย
1 . พลาสติก

ภาชนะพลาสติกอย่างกล่องอาหารพกพา ถาดอาหารหรือถ้วยชามนั้นอาจใช้งานง่าย เพราะมีน้ำหนักเบา หยิบจับสะดวกสบาย แถมยังค่อนข้างทนทาน ไม่ต้องห่วงเรื่องหล่นแตก หรือเป็นรอย แต่ก็ต้องเลือกดี ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อ โดยดูจากฉลากกำกับที่น่าเชื่อถือได้ มีเครื่องหมายการรับรองคุณภาพ และข้อกำหนดการใช้งานที่เหมาะสม แต่สิ่งที่ควรระวังคือการหลีกเลี่ยงใช้ภาชนะพลาสติกใส่ของร้อนจัด เพราะอาจทำให้สีหรือสารอื่น ๆ ละลายมาปนกับอาหารได้ นี่จึงเป็นจุดที่ควรสังเกต เพราะถ้าสีเริ่มซีดจาง หรือเริ่มดูดคราบมันจนล้างออกได้ยาก นั่นแปลว่าเนื้อพลาสติกเริ่มเสื่อมสภาพและถึงเวลาที่ควรเปลี่ยน
2. เมลามีน

เมลามีนเป็นวัสดุอีกชนิด ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะทั้งมีลวดลายสวยงามน่าใช้ และทนทาน แต่ภาชนะเมลามีนที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ก็มีหลายเกรดปะปนกันไป ทำให้ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด ก่อนซื้อเช่นเดียวกับภาชนะพลาสติก และแม้ภาชนะจำพวกเมลามีนจะดูใช้งานง่าย แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจละเลยไป ก็คือการนำไปใส่ของร้อน ซึ่งจริง ๆ แล้วเมลามีนนั้น ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ เพราะสารที่ใช้ในการผลิตจะค่อย ๆ แพร่ออกมาปะปนกับอาหารและเป็นผลเสียกับร่างกาย เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ จนผิวเริ่มด้าน หรือเริ่มมีสีของอาหารเข้าไปฝังตัวนั่นถือเป็นสัญญาณที่บอกถึงการเสื่อมสภาพ
3 . เซรามิค

ภาชนะจากเซรามิกนั้น นอกจากจะมีความสวยงามน่าใช้ และมีเสน่ห์ในตัวแล้ว ก็ยังถือว่ามีความทนทานไม่น้อย ถ้าไม่ได้เจอการกระแทกแรง ๆ หรือหล่นแตกซะก่อน เพราะผิวของเซรามิกที่ได้คุณภาพมาตรฐาน จะผ่านการเคลือบที่ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยดูได้จากผิวที่ลื่นเงา ไม่สาก และไม่ดูดซึมน้ำ ก็ยังคงใช้งานได้เป็นอย่างดี เว้นแต่ว่าจะเริ่มมีรอยร้าว หรือหลุดร่อนในบางจุด ที่อาจทำให้เกิดความคมจนทำให้เป็นอันตรายได้ แบบนี้ก็ไม่ควรนำมาใช้งานอีกต่อไป
4 . แก้ว

ภาชนะสารพัดแบบในครัวที่ทำจากแก้วนั้น ไม่ใช่แค่สวยงามอย่างเดียว แต่ยังถือว่ามีความปลอดภัย ในเรื่องของการดูดซับสารพิษ และยังใส่อาหารได้ทุกประเภททั้งร้อนและเย็น แต่เวลาใช้งานก็ต้องระวังกันเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า แก้วนั้นไม่ทนต่อแรงกระแทก ถ้าเผลอทำหล่นหรือวางแรง ๆ ก็เป็นอันบอกลาได้เลย ซึ่งถ้าหากภาชนะจากแก้วที่ใช้งานอยู่ เริ่มมีร่องรอยการแตกร้าวหรือรอยบิ่นก็ไม่ควรใช้งานต่อ เพราะอาจแตกได้หากใส่อาหารร้อน หรือเย็นจัด และไม่ปลอดภัยเวลาหยิบจับอีกด้วย
5.สเตนเลส

ภาชนะและเครื่องครัว ที่ทำจากสเตนเลสนั้น เป็นภาชนะที่ทั้งปลอดภัย และใช้งานได้ทนทาน ไม่ว่าจะเป็นของร้อนหรือเย็นก็นำไปใส่ได้โดยไม่มีปัญหา และถ้าดูแลทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดสนิมก็จะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยแทบไม่ต้องกังวล แค่ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับอาหารบางประเภท ที่เป็นกรดแบบเข้มข้น อย่างอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู กะปิ น้ำมะนาว เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสนิม
6. สังกะสี

การเลือกใช้งานภาชนะที่ทำจากสังกะสีนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อว่าใช้สารอีนาเมลในการเคลือบซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยและเหมาะกับการนำมาใช้ในครัว ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย ทนต่อความร้อนรวมทั้งกรดด่าง โดยด้านในของภาชนะจะเป็นสีขาวหรือครีมเท่านั้น ไม่มีลวดลายจากการตกแต่งด้วยสีสันอื่น ๆ ที่สำคัญจะต้องมีฉลากที่ระบุไว้อย่างชัดเจนด้วย
ล้างกระบอกน้ำ ให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ไร้กลิ่นอับไกลคราบด้วยของในครัว
การทำความสะอาดตะแกรงปิ้งย่าง ที่ช่วยเบาแรงและประหยัดเวลายิ่งขึ้น