บ้านอิฐเปลือย ในเวียดนาม อยู่สบายแบบ Passive Design
บ้านอิฐเปลือย กึ่งทึบกึ่งโปร่งหลังนี้ เป็นสิ่งสะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ผ่านองค์ประกอบและสเปซบ้านที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ออกแบบโดย Nguyen Hai Long และ Tran Thi Ngu Ngon สถาปนิกแห่ง Tropical Space
บ้านอิฐเปลือย หลังนี้ตั้งอยู่ที่ Nhà Bè (หง่า เบ่) เขตชานเมืองนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เป็นโซนที่มีบรรยากาศค่อนข้างสงบ แวดล้อมด้วยบ้านเรือนและผู้คนไม่หนาแน่น และมีภูมิอากาศคล้ายประเทศไทย



พื้นที่แห่งปฏิสัมพันธ์
บ้านอิฐเปลือย 3 ชั้นอยู่ริมถนนที่มีรถสัญจรบางตา สร้างบนที่ดินสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวลึกที่ด้านหลังเป็นดงสวนปาล์มริมคลอง ซึ่งออกแบบสำหรับครอบครัวที่ลูกสาว 4 คนจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันและดูแลคุณแม่ที่มีอายุมาก โดยผู้ออกแบบเน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งระหว่างครอบครัว ระหว่างคนกับธรรมชาติ และระหว่างพื้นที่ภายในกับพื้นที่ภายนอก จึงเกิดเป็นบ้านอิฐที่มีส่วนปิดสร้างมุมพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว ส่วนเปิดโล่งที่เปิดรับการสร้างปฏิสัมพันธ์ และส่วนกึ่งปิดกึ่งเปิดที่เป็นส่วนตัว ให้ความรู้สึกสบาย แต่ไม่ตัดขาดจากบริบทโดยรอบ


ภายในบ้านออกแบบโถงกลางบ้านให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งสูงถึงชั้นบน ทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ สร้างการเชื่อมโยงระหว่างชั้นล่างที่เป็นห้องนอนคุณแม่ ส่วนรับประทานอาหาร ครัว และนั่งเล่น ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนลูก 4 ห้อง และชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่แท่นบูชาบรรพบุรุษ ในขณะเดียวกันพื้นที่ว่างนี้ก็มีหน้าที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้คนในครอบครัว โดยคั่นกลางระหว่างห้องนอนลูกที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน 2 ห้อง และฝั่งหลังบ้าน 2 ห้อง



อยู่สบายแบบ Passive Design
บ้านมีการออกแบบให้อยู่สบายตามธรรมชาติ ซึ่งพื้นที่หลังบ้านติดคลองธรรมชาติและสวนปาล์ม เมื่ออากาศพัดผ่านผิวน้ำ สวนปาล์มและสวนหลังบ้าน ก็จะช่วยลดอุณหภูมิของอากาศให้เย็นลง ทั้งยังทำฟาซาดด้วยอิฐก่อเว้นช่อง ซึ่งอิฐเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความเป็นฉนวนและค่อนข้างเย็น เมื่ออากาศพัดผ่านก็จะช่วยปรับอุณหภูมิได้อีกชั้นหนึ่ง ภายในตัวบ้านวางแปลนแบบเปิดโล่ง โดยบริเวณกลางบ้านเปิดเป็นโถงสูงถึงชั้นบนที่มีช่องหลังคาสกายสไลต์ที่แสงธรรมชาติส่องลงมาได้ ให้บรรยากาศแบบกึ่งภายนอกกึ่งภายใน (Semi-outdoor Space) พร้อมทำช่องระบายอากาศโดยรอบ เมื่ออากาศร้อนภายในบ้านลอยตัวสูงขึ้นแล้วระบายออกทางช่องใต้หลังคา ก็จะดึงอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาแทนที่ตามธรรมชาติ จึงเกิดการไหลเวียนอากาศภายในบ้านทั้งในแนบราบและแนวตั้งตลอดเวลา




ในด้านที่ได้รับแสงแดดมากทำผนังก่ออิฐทึบช่วยป้องกันความร้อนผ่านเข้ามา ส่วนด้านที่ต้องการเปิดโล่งรับวิวมีการสร้างร่มเงา ด้วยการยื่นชายคาและออกแบบฟาซาดให้มีระยะยื่นที่บังแดดได้แต่ไม่ปิดทึบ เพื่อช่วยกรองแสงแดดและบังตาจากภายนอกไปพร้อมๆ กัน ทำให้แสงแดดผ่านเข้ามาในพื้นที่ใช้งานมีปริมาณที่เหมาะสม

บ้านที่ขยายขอบเขตไปยังสวน
แม้อยู่ภายในบ้านก็ให้ความรู้สึกเสมือนมีธรรมชาติอยู่ใกล้ชิด โดยออกแบบผนังหน้าบ้านเป็นประตูบานเฟี้ยมที่เปิดได้โล่ง พร้อมทั้งกำหนดความสูงกำแพงรั้วและขอบฟาซาดด้านบนให้อยู่ในระดับความสูงที่พอดีกัน ทำให้รู้สึกเหมือนขอบเขตห้องขยายกว้างรวมสวนไปจนสุดกำแพงรั้ว ทั้งยังเตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้ภายในบ้านไว้ที่ชั้น 3 ใต้ช่องสกายไลต์อีกด้วย

สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่ที่สถาปนิกออกแบบให้มีความพิเศษ โดยก่อม้านั่งเป็นรูปวงกลมไว้กลางสวน เพื่อเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมให้สมาชิกในครอบครัวมาทำร่วมกันแบบล้อมวง เป็นการออกแบบอย่างเข้าใจวัฒนธรรม วิถีชีวิต และวิถีธรรมชาติที่ต่างเกื้อหนุนให้สมดุล ทั้งความต้องการของผู้อาศัยและความเป็นไปของธรรมชาติซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากบ้านหลังนี้


ออกแบบสถาปัตยกรรม: Tropical Space by Nguyen Hai Long and Tran Thi Ngu Ngon
คอลัมน์บ้านสวย ก.พ. 68
ที่ตั้ง : นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เรื่อง: ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์
ภาพ: อภินัยน์ ทรรศโนภาส