โพธิ์ เกิดใบสีชมพูได้อย่างไร?

โพธิ์ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่คนไทยและชาวพุทธรู้จักกันดี แล้วบางฤดูใบโพธิ์เป็นสีชมพู เหตุนี้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น และอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์

โพธิ์ ต้นไม้ประจำศาสนาพุทธ ด้วยเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญและมีคู่กันมากับประวัติของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาของชาวพุทธ ต้นโพธิ์ จัอยู่ในวงศ์ MORACEAE ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus religiosa L.

ต้น โพธิ์ เป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ผลัดใบ อายุยืนยาวมาก มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย แผ่กิ่งก้านตรงออกไปและแผ่คลุมคล้ายร่ม ตามกิ่งมีรากอากาศห้อยลงมาบ้าง โคนต้นเป็นพูพอนขนาดใหญ่ โดยจัดเป็นพรรณไม้ที่มีรูปทรงของลำต้นที่โดดเด่น โตง่ายได้ในดินทุกประเภท และต้องการน้ำปานกลาง จึงมักพบต้นโพธิ์ปรากฎอยู่ในซากปรักหักพัง หรือพื้นที่รกร้างที่ไม่ค่อยมีคนอยู่อาศัย ใบเป็นรูปใจ เมื่อลมพัดจะเห็นใบพลิ้วไหวไปตามลมดูสวยงาม แต่หากปลูกในบ้านหรืออาคารควรระวังปัญหาเรื่องรากของต้นโพธิ์อาจทำให้บ้านหรือตัวอาคารเกิดความเสียหายได้

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงนำพันธุ์ต้นโพธิ์ที่มาจากต้นพันธุ์ของต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้โดยตรง และทรงปลูกไว้ ณ วัดเบญจมบพิตร และ วัดอัษฏางนิมิตร

ใบโพธิ์สีชมพู

หลายคนอาจจะเคยเห็นต้นโพธิ์ที่มีใบเป็นสีชมพู สวยแปลกตา ที่มักจะเกิดขึ้นในปลายฤดูหนาว ต้นฤดูร้อน ซึ่ง ศ.ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น อดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านพฤกษศาสตร์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เคยอธิบายไว้ว่า “ต้นโพธิ์เป็นพืชผลัดใบเหมือนพืชเขตหนาว แม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในเขตหนาวแต่ก็มีภูมิประเทศตั้งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร พืชผลัดใบเขตหนาวจึงยังแสดงอาการผลัดใบ โดยปกติการผลัดใบจะเริ่มในช่วงต้นฤดูหนาวหรือประมาณปลายเดือน พ.ย. ทำให้ใบไม้ในช่วงนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียว มาเป็นสีเหลืองและร่วงหลุดไปในที่สุด

พอถึงช่วงปลายฤดูหนาว หรือประมาณเดือน ก.พ. – มี.ค. ก็จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ต้นไม้จะค่อยๆ แตกยอดอ่อนเป็นใบใหม่ ทำให้ในช่วงนี้มักจะพบเห็นใบไม้สีแปลกๆ ได้ไม่ยาก เนื่องจากพืชเวลาผลิใบใหม่แต่ละพันธุ์จะให้สีของใบอ่อนต่างกัน เช่น โพธิ์จะให้ใบอ่อนสีชมพูและขาว พืชชนิดอื่นอาจมีใบอ่อนสีเทา ในขณะที่พืชในเมืองไทยที่พบได้ทั่วไปมีใบอ่อนเป็นสีเขียวอ่อน ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าใบที่เห็นแปลกประหลาดทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ โดยสีของใบจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามลักษณะทางพันธุกรรมแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ สีเขียวเข้มในช่วงฤดูร้อน หรือประมาณ เม.ย.-พ.ค. ชื้น โดยต้นโพธิ์ที่จะผลัดใบได้ควรจะต้องมีลักษณะสูงใหญ่ มีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป ซึ่งพืชผลัดใบเขตหนาวนอกจากโพธิ์แล้ว ก็ยังมีอีกหลายชนิด เช่น นุ่น, ไทร, หยวน, หนาน และกระโดน”

ขอขอบคุณภาพจาก : คุณ Ponrawat Prompipat

บทความที่เกี่ยวข้อง

ต้นไม้ปลูกในห้องน้ำ แทรกสีเขียวให้ห้องปลดทุกข์

มะขามเทศด่าง ต้นไม้ตกแต่งสวน เพิ่มความโดดเด่นให้บ้าน

ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com