ประเภทวัสดุปลูก พร้อมข้อแนะนำการนำไปใช้
วัสดุปลูก คือ หนึ่งในปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่นักปลูกไม้มือร้อนมือเย็นทั้งหลายควรคำนึงถึง ปัจจุบันมี ประเภทวัสดุปลูก และการผสมสูตรวัสดุปลูกมากมายตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถกำหนดเองได้จากการทดลองปลูก
เคล็ดลับของการเลือก ประเภทวัสดุปลูก คือ หลีกเลี่ยงวัสดุปลูกเพียงแบบใดแบบหนึ่งเพียงชนิดเดียว หรือการใช้ดินเปล่า ๆ โดยไม่ผสมอะไรเลย เนื่องจากดินเปล่า ๆ มักจะมีคุณสมบัติข้อดีเพียงด้านเดียว และเมื่อผ่านการรดน้ำระยะหนึ่งจะมีความแน่นตัวสูง แต่ถ้าผสมวัสดุปลูกอื่นลงไป เช่น กาบมะพร้าวสับเพิ่มความโปร่ง ร่วนซุย จะช่วยให้มีการหมุนเวียนของอากาศและน้ำ เกิดการถ่ายเทที่สมดุลและควบคุมเชื้อโรคได้ ดังนั้น เพื่อให้พืชเจริญเติบโต ตามความประสงค์ของผู้ปลูกเลี้ยง ดินหรือวัสดุปลูกควรมีความอุดมสมบูรณ์ มีคุณภาพดี การผสมวัสดุปลูกจึงควรให้ความสำคัญกับความโปร่งและการระบายอากาศ แต่ก็ไม่สูญเสียความชื้นง่ายจนเกินไป
ส่วนเรื่องธาตุอาหาร ผู้ที่ยังไม่ชำนาญในการผสมดินปลูก ขอแนะนำให้ปรับที่ปุ๋ย ถ้าธาตุอาหารในตัววัสดุปลูกเยอะก็ไม่ต้องให้ปุ๋ยมาก ถ้าธาตุอาหารในตัวน้อยก็ให้ปุ๋ยเสริมเข้าไป ซึ่งวัสดุปลูกตามท้องตลาดทั่วไปมีให้เลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย บ้านและสวน จึงจะมาแนะนำวัสดุปลูกคุณภาพดีให้ท่านผู้อ่านลองนำไปเลือกใช้กันดู

หินภูเขาไฟ
เกิดจากตะกอนลาวา มีรูพรุนเล็ก ๆ จำนวนมาก เป็นวัสดุปลูกคุณสมบัติดี เหมาะกับการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับลงดินทุกประเภท สามารถอุ้มน้ำและปุ๋ยต่าง ๆ ได้ดี เก็บกักความชื้นไว้ได้นาน ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา ที่สำคัญยังมีความคงทนสูง ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานในกระถาง
การนำไปใช้ : นำหินภูเขาไฟแช่น้ำพอหมาด ๆ แล้ววางลงใต้ก้นกระถาง ผสมดินปลูก วางไว้บนหน้าดินหรือใช้หินอย่างเดียวแทนดิน ควรหมั่นสังเกตสีของหิน หากเริ่มแห้งหรือขาวขึ้นก็ควรรดน้ำเพิ่มเติม

เม็ดดินเผา
ทำจากดินเหนียวที่เผาด้วยอุณหภูมิสูง เมื่อเย็นตัวลงจะได้วัสดุปลูกชนิดใหม่ เนื้อภายในมีรูพรุนมาก ทำให้เครื่องปลูกโปร่ง แต่ยังสามารถเก็บความชื้นได้ดีน้ำหนักเบา ค่า pH เป็นกลาง อุ้มน้ำได้พอสมควร เหมาะกับการปลูกพืชแบบไร้ดิน
การนำไปใช้ : นิยมใช้คลุมดินปลูกเพื่อลดการระเหยของน้ำ ใช้เป็นเครื่องปลูกพืชที่ต้องการการระบายอากาศที่ดี เช่น กล้วยไม้ หน้าวัวชนิดต่าง ๆ สามารถนำมาประดับตกแต่งในสวนถาด นักออกแบบบางท่านก็นำมาโรยเป็นพื้นในสวนแทนกรวด

เพอร์ไลท์
เป็นซิลิกาสีขาวอมเทา ได้มาจากลาวาของภูเขาไฟที่ผ่านการบดและสภาพความร้อนสูงถึง 760 องศาเซลเซียส จึงขยายตัวเหมือนฟองน้ำ น้ำหนักเบา อัตราการยุบตัวน้อย สามารถอุ้มน้ำได้ 3 – 4 เท่า ไม่มีธาตุอาหารพืช
การนำไปใช้ : ก่อนใช้ควรร่อนผงละเอียดออกก่อนใช้สำหรับเพาะเมล็ด หรือเป็นวัสดุปลูกผักไฮโดรโปนิก หรือจะเป็นวัสดุปลูกต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป นิยมใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งของเครื่องปลูก

เวอร์มิคูไลท์
เป็นแร่ไมก้าที่ขยายตัวจากการผ่านความร้อน น้ำหนักเบา ไม่ละลายน้ำ สามารถอุ้มน้ำได้ 3 – 4 แกลลอนต่อลูกบาศก์ฟุต ประกอบด้วยธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียมมากพอที่จะให้กับพืชทุกชนิด ข้อดีของเวอร์มิคูไลท์คือ สามารถปล่อยธาตุอาหารออกมาทีละน้อย เพื่อให้รากดูดซับธาตุอาหารไปใช้
การนำไปใช้ : ไม่ควรอัดแน่นขณะเปียก จะทำให้รูพรุนเสียไป ส่วนมากจะใช้ผสมกับเพอร์ไลท์ในการปลูกพืชผักไฮโดรโปนิก หรือผสมกับพีทมอสส์ในการเพาะเมล็ด เพื่อเก็บความชื้นได้ดีมากยิ่งขึ้น และให้ธาตุอาหารที่จำเป็นกับพืชขณะงอก

พีทมอสส์
เกิดจากการทับถมของซากพืชเป็นจำนวนมากตามธรรมชาติในแหล่งที่มีน้ำขัง ซึ่งองค์ประกอบของพีทมอสส์ในแหล่งต่าง ๆ จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่ขึ้นในบริเวณนั้น ๆ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ 4 -15 เท่าของน้ำหนัก
การนำไปใช้ : ใช้ทำแท่งเพาะชำ ใช้เป็นวัสดุปลูก ใช้เป็นสารปรับปรุงดิน นำมาใช้กันมากในการเพาะเมล็ด หากเติมพีทมอสส์ในวัสดุปลูกมากอาจทำให้น้ำซึมผ่านได้ยาก

ขุยมะพร้าว
ได้มาจากการแยกเส้นใยมะพร้าวออกจากเปลือกของผล มีน้ำหนักเบา สามารถอุ้มน้ำได้มาก อยู่ในสภาพสะอาดพอสมควร การถ่ายเทอากาศดี มีความยืดหยุ่นตัวดี ไม่อัดแน่นง่าย มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซียมอยู่ด้วย
การนำไปใช้ : สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับตอนกิ่งและผสมกับทรายหยาบเป็นวัสดุเพาะเมล็ดได้ดี ในการผสมดินปลูกควรผสมปุ๋ยไนโตรเจนลงไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มธาตุอาหาร ไม่ทำให้เกิดอาการใบเหลืองและแคระแกร็น

สแฟกนัมมอสส์
การนำซากพืชที่ขึ้นตามหนองบึงหรือเป็นส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่มาทำให้แห้ง มีน้ำหนักเบา สามารถอุ้มน้ำได้สูงถึง 10 – 20 เท่า เป็นวัสดุที่ค่อนข้างสะอาด มีแร่ธาตุอาหารน้อย นิยมนำมาใช้ปลูกกล้าไม้เล็ก ๆ หรือเก็บความชื้นให้กับรากและกิ่งขณะขนส่งจัดเป็นวัสดุที่ใช้ได้ดีกับต้นกล้า มีสารยับยั้งการเกิดโรคเน่าคอดินได้ด้วย
การนำไปใช้ : ก่อนใช้ควรแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาที แล้วบีบน้ำออก ถือเป็นวัสดุปลูกที่นักเล่นเฟินและกล้วยไม้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีให้เลือกหลายคุณภาพและราคา ขายเป็นก้อนใส่แพ็ค

เปลือกสน
มีคุณสมบัติท่ที นทาน ไม่สึกกร่อนง่าย สามารถอุ้ม น้ำและยังมีคุณสมบัติถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ไม่แฉะ แต่คงความชื้นไว้ได้ โดยลักษณะทางกายภาพของวัสดุสามารถเก็บกักทั้งน้ำและธาตุอาหารของพืชได้อย่างดี มีส่วนประกอบของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ เพื่อความแข็งแรงของพืช
การนำไปใช้ : ส่วนใหญ่จะนำไปใช้เป็นวัสดุปลูกเฟินและกล้วยไม้ นิยมผสมร่วมกับสแฟกนัมมอสส์ เปลือกสนนั้นค่อนข้างแข็ง การย่อยสลายจึงใช้ระยะเวลานานกว่ากาบมะพร้าวสับ ข้อดีคือช่วยยืดระยะเวลาการเปลี่ยนเครื่องปลูก

กาบมะพร้าวสับ
เป็นวัสดุปลูกที่หาซื้อได้ง่าย ราคาถูก มีข้อเสียคืออายุการใช้งานสั้น ถ้ามีความชื้นสูงจะผุพังเร็ว ควรเลือกใช้กาบมะพร้าวสับที่มีขนาดใหญ่ จะช่วยให้ระบายน้ำและอากาศได้ดี ความชื้นสะสมก็จะน้อยลง เมื่อรดน้ำบ่อย ๆ สารแทนนินในกาบมะพร้าวจะละลายออกมาสะสมในชั้นวัสดุปลูก ทำให้สภาพความเป็นกรดมากขึ้น จึงควรเปลี่ยนทุกปี
การนำไปใช้ : กาบมะพร้าวสับถือเป็นวัสดุปลูกพื้นฐาน ใช้ปลูกพืชได้ทุกชนิด ทั้งผสมกับดินวัสดุอื่น หรือใช้กาบมะพร้าวสับอย่างเดียวก็ได้
เรื่อง : ฐปนา วชิรมาศ
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม