บ้านกึ่งสตูดิโอ ที่ปรับจากบ้านทิ้งร้าง 40 ปี - บ้านและสวน

พลิกบ้านร้างเป็น บ้านกึ่งสตูดิโอ ที่สงบสุขของนักออกแบบ

บ้านกึ่งสตูดิโอ ที่ชื่อว่า Factopia ของคู่นักออกแบบซึ่งปรับเปลี่ยนจากบ้านทิ้งร้าง 40 ปีให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย สุขสงบ และปล่อยวางตัวตนเพื่อสร้างครอบครัวและรับสมาชิกใหม่

Design Directory : funktion studio

บ้านกึ่งสตูดิโอ
ทางเดินที่เป็นทางลาดรองรับผู้สูงอายุไปในตัว เชื่อมไปยังเฉลียงหน้าบ้านซึ่งยังคงรูปแบบของบ้านเดิมที่สร้างค้างไว้เมื่อเกือบ 40
ปีก่อน
บ้านกึ่งสตูดิโอ
ผู้ออกแบบตั้งใจคงลักษณะบ้านเดิมไว้ให้เป็นเรื่องราวที่แสดงถึงการผสมผสานสิ่งที่มีอยู่เดิมกับสิ่งที่สร้างใหม่ โดยเก็บงานโครงสร้าง งานปูนปั้นและรูปแบบช่องประตูหน้าต่างไว้

เมื่อการ “เลือกที่จะเป็น” มีความหมายกับชีวิตมากกว่า “สิ่งที่เป็นได้” และถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Factopia และ บ้านกึ่งสตูดิโอ ลับหลังนี้ ที่ไม่เพียงดูเร้นลับ แต่ยังเกิดจากการลับคมความคิดของคู่ชีวิต 2 นักออกแบบต่างขั้ว คุณบอล-ชัยสิทธิ์ ศรีตาลอ่อน และ คุณฟิ่ว-ฐิติรัตน์ คัขมาตย์ ซึ่งคนหนึ่งเป็นสถาปนิกที่ออกแบบจากภาพใหญ่ไปสู่ดีเทลเล็กๆ ส่วนอีกคนนั้นเป็นโปรดักต์ดีไซเนอร์ที่ใส่ใจดีเทลเล็กๆ เพื่อไปสู่ภาพใหญ่ จึงต้องลับคมไอเดีย ทดลองออกแบบทุกความน่าจะเป็น และความอยากจะเป็น จนตกผลึกเป็นบ้านที่ทั้งคู่เรียกว่า “Factopia Sanctuary” สถานที่แห่งความสุขสงบของชีวิตที่ตั้งอยู่ในโครงการ Factopia (Factory+Utopia) ชุมชนในอุดมคติที่เป็นโรงผลิตความคิดสร้างสรรค์

พื้นที่รอบบ้านที่เน้นการรักษาต้นไม้ พื้นดิน และสภาพแวดล้อมเดิมไว้ โดยทำทางเดินยกระดับเพื่อไม่ให้รบกวนพื้นดิน ไม่ขวางทางน้ำและทางเดินสัตว์ และเป็นการกำหนดขอบเขตบ้านให้เป็นส่วนตัว

เริ่มต้นจากบ้านทิ้งร้าง 40 ปีที่สร้างไม่เสร็จ

บนที่ดิน 4 ไร่ เดิมมีอาคารเก่าติดมากับที่ดินหลายหลังกระจายแทรกกับหมู่แมกไม้ อาคารหลังใหญ่ รีโนเวตเป็นสำนักงานและสตูดิโอให้เช่าในชื่อโครงการ Factopia และทยอยปรับปรุงอาคารหลังเล็กอื่นๆเพื่อใช้ประโยชน์ แม้ด้านหน้าติดถนนใหญ่และสถานนีรถไฟฟ้า มีห้างโมเดิร์นเทรดอยู่ข้างๆ แต่ภายในพื้นที่ยังมีความเป็นธรรมชาติสูง เป็นดงต้นไม้ที่พบผึ้งหลวงมาทำรัง มีหิ่งห้อยมาแวะเวียนบ้าง ผีเสื้อที่มาตามฤดูกาล นก และสัตว์อื่นๆในระบบนิเวศ จึงตั้งใจรักษาระบบนิเวศเดิมไว้ให้สมดุลกับการอยู่อาศัยและการทำธุรกิจ การก่อสร้างในพื้นที่จึงพยายามรบกวนธรรมชาติเดิมให้น้อยที่สุด

บ้านกึ่งสตูดิโอ
ออกแบบสุดปลายทางเดินก่อนเข้าเฉลียงบ้านให้เป็นมุมนั่งเล่นแบบล้อมวงที่มีเส้นสายต่อเนื่องกับเส้นโค้งของทางเดิน ทำพื้นผิวหินขัดสีขาวเทาที่ดูเรียบง่ายมีรอยต่อน้อย เป็นมุมนั่งเล่นใต้ต้นหูกระจงต้นใหญ่ที่มีผึ้งหลวงทำรังอยู่สูงพ้นหลังคา ซึ่งอยู่ร่วมกันได้แบบไม่รบกวนกัน

บ้านชั้นเดียวที่อยู่กลางที่ดินหลังนี้เป็นหลังสุดท้ายที่ยังปล่อยร้าง มีเพียงโครงสร้างบ้าน ผนังบางส่วนที่ทำช่องเปิดไว้ และหลังคา ซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ที่ดูเผินๆคงไม่สังเกตเห็น จนกระทั่งเมื่อทั้งคู่วางแผนมีลูก จึงอยากมีบ้านอยู่ใกล้ Factopia ซึ่งคุณฟิ่วเป็นผู้ดูแลเพื่อให้บริหารได้สะดวก จึงเริ่มต้นออกแบบปรับปรุงบ้านร้างสำหรับครอบครัว 3 คน โดยมีความตั้งใจว่า อยากเก็บความเป็นธรรมชาติที่เป็นอยู่นี้เพื่อส่งต่อให้ลูกได้เห็นต่อไป

บ้านกึ่งสตูดิโอ
บ้านกึ่งสตูดิโอ
เนื่องจากพื้นที่บ้านมีขนาดจำกัดตามโครงสร้างเดิม จึงปรับผังให้เป็นส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารแบบโอเพ่นแปลน ที่สามารถใช้พักผ่อนและรับแขกคุยงานแบบโฮมสตูดิโอได้ โดยออกแบบตู้บิลท์อินไม้เป็นฉากกั้นห้องนอนที่มีบานเลื่อนไม้ซ่อนประตูทางเข้าห้องไว้
บ้านกึ่งสตูดิโอ
ภายในบ้านเปิดฝ้าเพดานเพิ่มเพิ่มสเปซแนวตั้ง พร้อมโชว์โครงสร้างหลังคาเดิมให้เห็นเนื้อแท้และความเป็นมาของบ้าน และคงรูปแบบช่องเปิดเดิมที่เป็นทรงโค้งและเบย์วินโดว์ไว้ โดยใส่องค์ประกอบให้มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมตะวันตก

ภาพใหม่ในโครงสร้างเดิม

แม้บ้านเดิมอาจไม่ใช่สไตล์ที่เราชอบทั้งหมด แต่งานช่างสมัยก่อนนั้นเนี้ยบมากจนคิดว่าควรหาทางเก็บไว้ให้เป็นเรื่องราวของบ้าน เหมือนงานศิลปะแบบภาพนิ่ง (Still Life) ที่เป็นภาพของเดิมและของใหม่ผสมผสานกัน และอยากให้ตัวเราแทรกมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มีอยู่เดิม”

ก่อนจะเป็นบ้านกึ่งสตูดิโอทำงานอย่างที่เห็น ทั้งคู่มีภาพเริ่มต้นมากมาย จนมาลงตัวกับการสร้างบ้านให้เป็นพื้นที่ “สุขสงบ” ด้วยโทนสีสว่าง เน้นการใช้สัจจวัสดุที่โชว์เนื้อแท้ ซึ่งยิ่งเก่ายิ่งสวยไปตามอายุ

บ้านกึ่งสตูดิโอ
ปรับผังเดิมที่เป็นห้องครัวให้เป็นส่วนรับประทานอาหารกึ่งโต๊ะทำงานและมุมฟังเพลง ออกแบบฝ้าเพดานเป็นระแนงไม้และซ่อนไฟที่ให้แสงอินไดเร็กซ์ไลต์นวลตา พร้อมเจาะช่องแสงด้านบนบริเวณคอสองเพิ่มความโปร่งให้ภายในบ้าน

การจะทำตรงนี้ให้เป็นบ้าน จำเป็นต้องแก้โจทย์ 2 เรื่อง คือ ขนาดพื้นที่บ้านจำกัด และการแยกความเป็นส่วนตัวของบ้านกับพื้นที่เช่าสำนักงานโดยรอบ การรีโนเวตบ้านเป็นการใช้โครงสร้างเดิมเป็นหลัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมเดิม แต่ใช้การวางผังใหม่ควบคู่ไปกับทำบ้านให้เป็นมัลติฟังก์ชันเหมือนการออกแบบโปรดักต์ อย่างที่ทั้งคู่มองว่า “บ้านเป็นเครื่องจักรในการใช้ชีวิต” เพื่อกระชับฟังก์ชันให้ใช้สอยสบายในพื้นที่เท่าที่มีอยู่

คุณบอลชอบทำอาหารจึงให้ความสำคัญกับห้องครัว ตกแต่งให้มีกลิ่นอายอินดัสเทียลผสมกับโครงสร้างเดิมที่มีองค์ประกอบปูนปั้นคลาสสิก โดยใช้เครื่องดูดควันแบบสั่งทำที่ออกแบบให้เสมือนเป็นประติมากรรม และโชว์การเดินท่อล้อไปกับการโชว์โครงหลังคาบ้านที่มีทั้งความดิบหยาบและเนี้ยบผสมกัน
บ้านกึ่งสตูดิโอ
บ้านกึ่งสตูดิโอ
ออกแบบเคาน์เตอร์ล้างจานเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัววางอยู่ริมผนังกระจกเต็มบาน ที่ดูเหมือนอยู่ในกรอบภาพทิวทัศน์ธรรมชาติ และกำหนดแนวเส้นกรอบกระจกให้พอดีกับระยะเคาน์เตอร์ เป็นรายละเอียดเล็กๆที่ทำให้เส้นสายมีความลงตัว
บ้านกึ่งสตูดิโอ
เคาน์เตอร์ไอส์แลนด์เป็นทั้งที่ทำอาหาร เตาอบ และเคาน์เตอร์บาร์ในตัว ทำผนังกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน เปิดมุมมองให้เห็นสวนเต็มตา

บ้านชั้นเดียวขนาดพื้นที่ภายใน 100 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำอย่างละหนึ่งห้อง โดยวางผังโอเพ่นแปลนให้ส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารเป็นห้องโถงต่อเนื่องกัน ซึ่งบางเวลาก็เปลี่ยนเป็นห้องประชุมและรับแขกได้ กั้นห้องนอนให้เป็นส่วนตัวด้วยแผงตู้บิลท์อินยาวตลอดแนวที่พรางประตูทางเข้าไว้ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ระเบียงเดิมให้เป็นห้องครัวให้ตอบโจทย์การใช้งานปัจจุบัน เนื่องจากบ้านตั้งอยู่กลางพื้นที่โครงการซึ่งล้อมรอบด้วยสำนักงานให้เช่า จึงออกแบบทางเดินยกระดับจากพื้นดินเพื่อกำหนดขอบเขตทางเดินสาธารณะของผู้สัญจร และแยกทางเดินสำหรับเข้าบ้านเพื่อสร้างขอบเขตพื้นที่อยู่อาศัยให้เป็นส่วนตัว

ห้องนอน
ห้องนอนแบบเรียบง่ายในโทนขาวดำ ทำส่วนแต่งตัวเป็นตู้และชั้นแบบเปิดที่สูงถึงฝ้าเพดาน โดยเลือกเก็บของที่ใช้บ่อยไว้ชั้นล่าง ส่วนของอื่นๆไว้ชั้นบน โดยมีบันไดปืนขึ้นไปหยิบได้
เมื่อห้องนอนมีฝ้าเพดานสูง จึงทำชั้นลอยแถบหนึ่งสำหรับเก็บของจิปาถะและตากผ้า เป็นส่วนสำคัญของการแต่งห้องให้สวยแบบเรียบง่าย
ห้องน้ำ
ออกแบบช่องแสงในห้องน้ำให้เป็นประตูออกไปส่วนเซอร์วิสภายนอกได้ด้วย โดยกรุกระจกลอนพรางตาด้านบนและทำเกล็ดระบายอากาศด้านล่าง พร้อมทำหน้าต่างบานกระทุ้งด้านบนอีกบานเพื่อถ่ายเทอากาศได้ตลอดเวลา


บ้านกึ่งสตูดิโอ ที่สะท้อนภาพชีวิต

ภายใต้รูปแบบบ้านเรียบง่ายที่ซ่อนตัวเงียบอยู่ในดงไม้ กลับสะท้อนแนวคิดและตัวตนของทั้งคู่อย่างแจ่มชัด ซึ่งสัมผัสได้จากธรรมชาติเดิมที่ยังคงอยู่ สิ่งสร้างใหม่ที่สอดแทรกแบบถ่อมตน เกิดเป็นสเปซของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการใช้ศิลปะคู่ขนานไปกับสิ่งที่เป็นระบบ การตั้งคำถามกับสิ่งธรรมดารอบตัว และการเปิดโอกาสให้คำตอบที่ต่างออกไปได้เผยตัวตน โดยคาแร็กเตอร์บ้าน เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งนั้นได้อิทธิพลมาจากการทำงานศิลปะของคุณฟิ่วซึ่งเป็นงานศิลปะเชิงตั้งคำถาม นำเสนอข้อสงสัย และนำไปสู่ความเป็นไปได้อื่นๆ รวมถึง Factopia และบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นคำตอบที่ต่างออกไปจากระบบทุนนิยม และแสดงถึงการ “เลือกที่จะเป็น” มากกว่า “สิ่งที่เป็นได้” เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสุขสงบของชีวิตแห่งนี้

ด้านหลังบ้านเป็นทางเข้าที่เชื่อมไปยังที่จอดรถและสตูดิโอทำงาน ออกแบบโดยกั้นส่วนเฉลียงบ้านเดิมให้เป็นห้องครัวล้อมผนังกระจกที่มีสวนโอบล้อม
บ้านกึ่งสตูดิโอ
สตูดิโอทำงานของทั้งคู่ ทั้งงานออกแบบและงานอดิเรกของคุณบอลที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียง ติดตามได้ใน เพจ Blue in green 
บ้านกึ่งสตูดิโอ
Factopia สำนักงานและสตูดิโอให้เช่า

เจ้าของ: คุณชัยสิทธิ์ ศรีตาลอ่อน และคุณฐิติรัตน์ คัขมาตย์

ออกแบบ: funktion studio โดยคุณชัยสิทธิ์ ศรีตาลอ่อน และคุณฐิติรัตน์ คัขมาตย์

เรื่อง: ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์

ภาพ: อภินัยน์ ทรรศโนภาส

สไตล์: Suntreeya


โฮมสตูดิโอศิลปะในสไตล์ Eclectic

โฮมสตูดิโอสไตล์พื้นถิ่น