เฟื่องฟ้า ไม้ประดับดอกสีสด ท้าแดด ทนแล้ง

เฟื่องฟ้า ปัจจุบันเฟื่องฟ้าที่ปลูกทั่วไปมีทั้งพันธุ์ใบเขียว ใบด่างสีขาว และใบด่างสีเหลืองที่เกิดจากการกลายพันธุ์ ให้สีดอกแตกต่างกันไป

เฟื่องฟ้า อีกหนึ่งไม้ประดับดอกสดสีสวยที่ปลูกเลี้ยงกันทั่วไปในเมืองไทยมานานนม ด้วยจุดเด่นเป็นพืชที่แข็งแรง เลี้ยงง่าย ทนแล้งได้ดี ให้ดอกทั้งปี จึงเป็นตัวแทนความสวยงามของทุกฤดูกาล เฟื่องฟ้าเป็นไม้ดอกในวงศ์บานเย็น (Nyctaginaceae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bougainvillea spp. & hybrid ชื่อสามัญมักเรียกกันว่า Lesser Bougainvillea หรือ Paper Flower คนไทยเรียกเฟื่องฟ้า และถือเป็นชื่อที่เป็นมงคล เนื่องจากพ้องเสียงกับคำว่า เฟื่องฟู นอกจากนี้ยังเรียกว่าดอกตรุษจีน ดอกกระดาษ และดอกโคมด้วย

ลักษณะทั่วไปเป็นไม้รอเลื้อยอายุหลายปีขนาดใหญ่ เมื่ออายุมากขึ้นมีเนื้อไม้และมักทอดเลื้อยพาดไปได้ไกล มีหนามยาวปลายแหลมปกคลุมห่างๆตามข้อใบ ใบเดี่ยวออกเวียนสลับรอบต้น ใบรูปไข่กว้างหรือรูปรี ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม มีก้านใบ แผ่นใบสีเขียวหรือใบด่าง อาจมีขนอ่อนปกคลุม ช่อดอกแบบช่อกระจุกออกจากซอกใบใกล้ปลายยอด แต่ละช่อมีช่อดอกย่อย 5-10 ช่อ แต่ละช่อย่อยมี 3 ดอก รองรับด้วยกลีบประดับขนาดใหญ่ 3 อัน แผ่นกลีบบางมีหลายสี ทั้งสีขาว สีแดง สีชมพู สีส้ม สีเหลือง หรือสีเหลือบ ดูคล้ายกลีบดอกล้อมรอบดอกจริงที่มีขนาดเล็กสีขาวโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก ผลเป็นผลแห้งคล้ายรูปกระสวย

ปัจจุบันเฟื่องฟ้าที่ปลูกทั่วไปมีทั้งพันธุ์ใบเขียว ใบด่างสีขาว และใบด่างสีเหลืองที่เกิดจากการกลายพันธุ์ ให้สีดอกแตกต่างกันไป

เฟื่องฟ้าเป็นไม้ประดับที่โตเร็ว แข็งแรงทนทาน ชอบดินปนทรายระบายน้ำดี แสงแดดจัดตลอดวัน ทนแล้งได้ดี สามารถปลูกเป็นไม้ประดับสวนสำหรับทำแนวรั้ว ไม้กระถางปลูกเป็นไม้เลื้อยที่มีซุ้มที่แข็งแรง หรือปลูกเป็นบอนไซไม้ดัดได้ นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำกิ่ง ตอนกิ่ง และเสียบยอด โดยเฉพาะเมื่อต้องการต้นแฟนซีที่มีหลายสีหรือต้นที่เลี้ยงเป็นพุ่มขนาดใหญ่ กลีบประดับของเฟื่องฟ้าทุกพันธุ์นำมาชุบแป้งทอดกินเป็นของว่างหรือชงเป็นชาดื่มได้