ดอกไม้ประจำจังหวัด ภาคเหนือ
ดอกไม้ประจำจังหวัด ภาคเหนือ ที่มีความโดดเด่นสวยงามตามแต่ละจังหวัด บางชนิดมีกลิ่นหอมอีกด้วย
ไปทำความรู้จักกับ ดอกไม้ประจำจังหวัด เริ่มต้นกันที่ภาคเหนือ ทั้ง 9 จังหวัดของไทย บางชนิดเป็นไม้ยืนต้น บางชนิดเป็นไม้พุ่ม บางชนิดเป็นไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมอีกด้วย

จังหวัดเชียงราย
ดอกพวงแสด เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดกลาง อายุหลายปี มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pyrostegia venusta Miersวงศ์ : Bignoniaceae สามารถเลื้อยได้ไกล 3 – 7 เมตรโดยใช้มือพันเลื้อยเกาะ ใบเป็นใบประกอบ 3 ใบย่อยออกสลับ รูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียว มีดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบดอกสีส้มอมเหลือง โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบและม้วนงอไปด้านหลัง ออกดอกเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม


จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน
ดอกทองกวาว นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ, อุดรธานี อีกด้วย
ทองกวาว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Butea monosperma (Lam.) Kuntze วงศ์ : Fabaceae มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย ในธรรมชาติพบตามที่ราบลุ่มในป่าผลัดใบ ป่าหญ้าที่แห้งแล้งทางภาคเหนือของไทย ส่วนภาคอื่นพบกระจัดกระจายทั่วไป ยกเว้นภาคใต้ เป็นต้นไม้มงคล นิยมปลูกลงแปลงปลูก ประดับบริเวณบ้านและสวน ส่วนต่าง ๆ ของต้นมีสรรพคุณทางสมุนไพร เช่น ดอกใช้ต้มน้ำดื่ม ถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ หรือนำน้ำมาผสมยาหยอดตา แก้โรคตามัวหรือเจ็บตา ใช้ตำพอกที่แผล นอกจากนี้ดอกใช้ย้อมผ้า ให้สีแดง ส่วนใบสดใช้ตากมะม่วงกวนหรือใช้ห่อของ ตำพอกฝีและสิว แก้ริดสีดวงทวาร ถอนพิษแก้ปวด ใช้เข้ายาบำรุงกำลัง

จังหวัดน่าน และ จังหวัดตาก
ดอกเสี้ยวดอกขาว นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดตาก อีกด้วย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ : Bauhinia variegata L. วงศ์ : Fabaceae เป็นไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ เปลือกต้นสีน้ำตาลอ่อน กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่ม ใบเดี่ยวเรียงสลับ ปลายใบเว้าลึก โคนใบมนหรือเว้าเป็นรูปหัวใจ ใต้ใบมีขนนุ่ม ละเอียดบางๆ ดอกออกดอกแบบช่อกระจะสั้นๆ ที่ปลายกิ่ง สีขาวหรือสีม่วง ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกตลอดปีชอบอากาศเย็น ทนแล้งได้ดี ปลูกในสวน ริมถนน ริมทางเดิน เปลือกมีสารแทนนิน ใช้ย้อมแห อวน ให้คงทน เนื้อไม้ใช้เป็นเชื้อเพลิง ใบอ่อนและฝักอ่อนรับประทานได้ เป็นพรรณไม้ประจำจังหวัดน่าน

จังหวัดพะเยา
ดอกสารภี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mammea siamensis T. Anders. วงศ์ : GUTTIFERAE ลักษณะทั่วไปต้นสารภีเป็นไม้ยืนต้นสูง 10–15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ มียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่กลับแกมขอบขนาน เส้นแขนงใบไม่ชัดเจน แต่เส้นใบย่อยแบบร่างแหเห็นชัดทั้งสองข้าง ออกดอกเป็นกระจุกตามกิ่ง สีขาว กลิ่นหอม ร่วงง่าย มีเกสรเพศผู้สีเหลือง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

จังหวัดแพร่
ดอกยมหิน ต้นยมหิน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็ว ลำต้นเปลาตรง มีพูพอนที่โคนต้น เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลคล้ำ สีเทา หรือสีเทาปนดำ เปลือกต้นแตกเป็นสะเก็ดรูปสี่เหลี่ยมเมื่อมีอายุมากขึ้น เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินทุกชนิด ต้องการน้ำและความชุ่มชื้นปานกลาง จัดเป็นไม้กลางแจ้ง ดอกยมหิน ออกดอกเป็นช่อตามมุมกิ่งอ่อนหรือตามปลายยอด ปลายช่อห้อยลง มีขนาดเล็กและมีกลิ่นหอม

จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ดอกบัวตอง หรือ ทานตะวันหนู/Tree Marigold มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tithonia diverifolia (Hemsl.) A. Gray จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับทานตะวัน คือ Asteraceae มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกแล้วกระจายไปทั่วโลก ปลูกเป็นไม้ประดับได้ ชอบอากาศเย็น เป็นวัชพืชประเภทล้มลุก ที่มีอายุหลายปี ลำต้นเป็นพุ่ม ใบรูปรีขอบหยักเว้า ปลายใบแหลม ผิวใบหยาบและมีขนปกคลุม ดอกลักษณะเป็นช่อเดี่ยว หรือกลุ่ม ดอกวงนอกสีเหลืองสด ดอกวงในสีเหลืองเข้มเป็นกระจุกกลม ออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะดกมากในช่วงฤดูหนาว ผลแห้งมีสีน้ำตาล มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างสูง

จังหวัดลำปาง
ดอกธรรมรักษา ชื่อวิทยาศาสตร์ : Heliconia spp.&hybrid วงศ์ : HELICONIACEAE เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ทรงพุ่มแตกกอแน่น ลำต้นเป็นเหง้าทอดเลื้อยใต้ผิวดิน ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายใบมีติ่งแหลม แผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนเกลี้ยง สีเขียวเป็นมัน อาจมีผิวเหลือบสีแดง ดอกออกเป็นช่อออกที่ปลายกิ่ง มีทั้งช่อตั้งและช่อห้อย มีหลายสีหลากพันธุ์ เช่น สีเหลือง แดง ชมพู ส้ม เหมาะปลูกบังมุมอาคาร บังกำแพง ริมลำธาร น้ำตก ปลูกริมถนน ริมทางเดิน ริมสระว่ายน้ำ ริมทะเล เพราะสามารถทนน้ำท่วมขังหรือที่ชื้นแฉะได้ดี หรือปลูกเพื่อตัดดอก เนื่องจากมีอายุปักแจกันนาน

จังหวัดอุตรดิตถ์
ดอกประดู่ นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดชลบุรี, ร้อยเอ็ด, ระยอง, อีกด้วย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ : Pterocarpus indicus Willd. วงศ์ : Fabeceae เป็นไม้ต้นผลัดใบ กิ่งก้านห้อยลง เปลือกต้นสีน้ำตาลปนดำและแตกเป็นสะเก็ด ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่เรียงสลับ ดอกออกเป็นช่อกระจะออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกรูปถั่ว สีเหลือง บานเพียงวันเดียวแล้วร่วง ออกดอกเดือนเมษายน – พฤษภาคม นิยมปลูกในพื้นที่กว้าง เพื่อให้ร่มเงา ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่างที่ใช้ปลูกประดับ ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับสวน ยอดอ่อนและช่อดอกอ่อนกินเป็นผักสดกับน้ำพริกหรืออาหารรสจัดได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ทำรายได้ดี
เฟื่องฟ้า ไม้ประดับดอกสีสด ท้าแดด ทนแล้ง
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com