ต้นไม้ชอบแดด ปลูกกลางแจ้ง สร้างร่มเงา
ต้นไม้ชอบแดด ที่สามารถสร้างร่มเงาได้ และเป็นชนิดที่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน ปลูกกลางแจ้งได้ อีกทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้สวน หรือบ้านได้ด้วย
ไม้ยืนต้น หรือ ต้นไม้ชอบแดด สามารถแบ่งคร่าวได้ประมาณ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มต้นไม้ต้องการ หรือชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน 2.กลุ่มต้นไม้ต้องการ หรือชอบแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และ 3.กลุ่มต้นไม้ที่ชอบร่มรำไร หรือแสงแดดน้อยกว่า 6 ชั่วโมง ในที่นี้เราจะพาไปดูว่าต้นไม้ชนิดไหนที่สามารถปลูกได้ในที่กลางแจ้ง ชอบแดดเมืองไทย

1.กระดุมไม้ใบเงิน
เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ใบมีสีเหลือบเงินสวย เหมาะปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้ประดับกลางแจ้ง ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ทนแล้ง ทนดินเค็ม เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเข้มแตกเป็นร่อง แตกกิ่งก้านมาก กิ่งอ่อนปกคลุมด้วยขนนุ่มสีเทาเงินอย่างหนาแน่น และเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อกิ่งแก่

2.ซิลเวอร์โอ๊ก
เป็นไม้ยืนต้น สูงได้ประมาณ 5-10 เมตร แตกกิ่งสวยงาม ใบคล้ายใบเฟิน ด้านบนใบมีสีเขียวเหลือบน้ำเงิน ด้านใต้ใบสีเงิน ชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี ดินเป็นกรดอ่อน ๆ ถึงกลาง ต้องการแสงแดดเต็มวัน และทนแล้งได้ดี ช้กับงานสวนได้ทุกรูปแบบ ทั้งสวนญี่ปุ่น สวนหิน สวนโมเดิร์น สวนยุโรป ปลูกต้นเดียวเป็นจุดเด่นในสวน หรือปลูกเป็นกลุ่มให้อารมณ์แบบป่าสน ในต่างประเทศนิยมใช้ไม้ทำเฟอร์นิเจอร์

3.คูน หรือ ราชพฤกษ์
ไม้ยืนต้นผลัดใบที่ต้องการน้ำน้อย ทนแล้ง ชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆออกดอกฤดูร้อน ปัจจุบันมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น คูนดอกขาว, คูนสายรุ้ง เป็นต้น เป็นพรรณไม้ที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคนไทย ปลูกง่าย โตเร็ว ให้ดอกดก อีกทั้งยังเป็นพรรณไม้ที่ไม่ค่อยมีโรครบกวน

4.ล่ำซำ
ดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ลำต้นมีเปลือกแตกเป็นร่องสีเทาอมดำ ใบเป็นลักษณะใบเดี่ยวสีเขียวรูปไข่ มีดอกสีขาว และจะออกดอกแยกเพศต่างต้น หากต้องการปลูกควรเว้นระยะห่างระหว่างต้น 4-6 เมตร หากปลูกติดกันเกินไปจะทำให้ต้นเติบโตช้า และการขยายพันธุ์มักนิยมใช้วิธีการเพาะเมล็ด จึงเป็นพรรณไม้ที่โตช้าแต่ก็จะได้ต้นที่แข็งแรง ในระยะต้นกล้าควรปลูกเลี้ยงไว้ในที่ร่มรำไร แต่เมื่อโตและมีอายุมากขึ้นสามารถนำมาปลูกกลางแจ้งหรือในบริเวณที่มีแดดตลอดทั้งวันได้ หรือพื้นที่ที่ได้รับแสงแดด 8-10 ชั่วโมงขึ้นไป ล่ำซำเป็นไม้ที่จะเรียกว่าดูแลง่ายก็ไม่เชิง เพราะก็ต้องเอาใจใส่อยู่บ้าง เช่น หมั่นสังเกตหน้าดินว่าแห้งหรือไม่ และควรรดน้ำ 2 วัน/อาทิตย์ หรือเมื่อดินแห้ง แต่ไม่ชอบดินแฉะหรือน้ำขังเพราะจะทำให้รากเน่าได้ง่าย และล่ำซำจะเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย

5.เกรวิลเลีย
อีกหนึ่งต้นที่ยังคงอยู่ในกระแสต้นไม้มาแรงในปีนี้ เกรวิลเลียนั้นนับว่าเป็นพรรณไม้ในสวนมานานแล้ว แต่มักจะเป็นไม้รอง แต่ปัจจุบันสวนที่มีพื้นที่น้อย นักจัดสวนจึงมักจะเลือกใช้เป็นไม้ประธาน เพราะมีลำต้นขนาดเล็ก สามารถปลูกในพื้นที่แคบหรือพื้นที่จำกัดได้ สามารถออกดอกได้ตลอดปี มีหลายสีให้เลือกปลูก ทั้งสีขาว สีขาวอมเหลือง สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีชมพู และสีม่วง เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่สามารถปลูกกลางแจ้ง ที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันได้

6.เสม็ดขาว
หลายคนอาจคุ้นเคยกับต้นเสม็ดแดง แต่ปัจจุบันต้นเสม็ดขาวได้กลายมาเป็นพรรณไม้ที่นิยมใช้ในงานจัดสวนกันมาก ด้วยความโดดเด่นของเปลือกต้นสีขาวสีเทาหรือสีเทาอมน้ำตาล แตกร่อนเป็นแผ่น โตดีในดินร่วนชุ่มชื้น จึงนิยมปลูกตามริมน้ำที่ชุ่มชื้น และค่อนข้างทนดินเค็ม ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่กว้าง ให้ร่มเงาได้ดีและทิ้งใบน้อย จึงนิยมปลูกตกแต่งสวน

7.ลำดวน
เป็นไม้ยืนต้น ความสูงประมาณ 4 – 8 เมตร ทรงพุ่มค่อนข้างกลม ลำต้นมีเปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม กิ่งแก่สีดำและเหนียวมาก แผ่นใบหนาเป็นมันสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีขาวอมเขียวอ่อน ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อกระจุกออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง สีเหลือง บานวันเดียวแล้วโรยในวันรุ่งขึ้นส่งกลิ่นหอมแรงตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเช้า และหอมอ่อนๆ ในช่วงกลางวัน ออกดอกเดือนมกราคม –มีนาคม อัตราการเจริญเติบโตช้า ชอบดินร่วนซุยต้องการแสงแดดเต็มวัน ควรปลูกให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 5 เมตร ถ้าต้องการปลูกให้ออกดอกในกระถางควรปลูกจากกิ่งตอน ผลมีรสหวานรับประทานได้ ดอกมีสรรพคุณแก้ไข้ บำรุงหัวใจ บำรุงโลหิต

8.รักแรกพบ
เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ ที่มีความสูงได้ถึง 9 ม. ทรงพุ่มค่อนข้างแน่น ลำต้นเรียบเกลี้ยงสีน้ำตาล มีกิ่งก้านแตกออกเหนือพื้นดิน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้าม ดอกออกเป็นกระจุกกลมออกที่ปลายกิ่ง แต่ละดอกเห็นเกสรเพศผู้สีเหลืองเด่นชัด และหลุดร่วงง่าย เติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำดี ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแสงแดดครึ่งวัน-เต็มวัน ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่งและตอนกิ่ง

9.ประดู่บ้าน
เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ที่มีดอกออกเป็นช่อกระจะออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกรูปถั่ว สีเหลือง เมื่อบานมีขนาด 1 – 1.5 เซนติเมตร มีกลิ่นหอม บานเพียงวันเดียวแล้วร่วง ออกดอกเดือนเมษายน – พฤษภาคม นิยมปลูกในพื้นที่กว้าง เพื่อให้ร่มเงา ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่างที่ใช้ปลูกประดับ ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับสวน ยอดอ่อนและช่อดอกอ่อนกินเป็นผักสดกับน้ำพริกหรืออาหารรสจัดได้ เป็นพรรณไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต

10.ต้นแก้ว
ไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดจากลาว เวียดนาม และกัมพูชา ต้องการน้ำปานกลาง ชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตลอดทั้งปี เป็นไม้ทนแล้ง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกลางแจ้ง ไม้กระถาง หรือไม้ประดับรั้ว แต่ต้องหมั่นตัดแต่งจะได้ทรงพุ่มสวยงามและออกดอกทั่วต้น ปัจจุบันมีพันธุ์แคระที่มีใบเล็กเพียง 5 มิลลิเมตร เรียกกันทั่วไปว่า “แก้วแคระ” นิยมนำไปทำบอนไซ ส่วนของดอกใช้สกัดน้ำมันหอมระเหย ปรุงน้ำหอมแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง ใบใช้ปรุงเป็นยาขับโลหิตสำหรับสตรี แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดอกไม้ประจำจังหวัด ภาคเหนือ
ต้นสน ที่ไม่ใช่สน
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com