จัดสวนสวย 3 ฤดู
ฤดูร้อน
เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน แม้ว่าช่วงนี้อากาศจะแห้งแล้ง สนามหญ้าไม่เขียวสวย แต่ก็มีไม้ต้นหลายชนิดออกดอกสะพรั่งมากกว่าฤดูอื่น ๆ ได้แก่ นนทรี หางนกยูงฝรั่ง ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ กระพี้จั่น และชมพูพันธุ์ทิพย์ ศาลาในสวนที่มีน้ำตกหรือน้ำพุมักเป็นมุมหลักในการใช้งานช่วงหน้าร้อน เพราะอากาศค่อนข้างสบาย หากเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ออกดอกในช่วงนี้ไว้ใกล้ๆก็จะได้ชื่นชมความงามได้เต็มที่ และเนื่องจากอากาศช่วงนี้ร้อนระอุจึงควรรดน้ำต้นไม้วันละสองครั้ง คือ เช้าและเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำในตอนกลางวัน เพราะน้ำจะร้อนเกินไปจนเป็นอันตรายกับต้นไม้ อาจเพิ่มความชื้นให้หน้าดินโดยหว่านกาบมะพร้าวสับคลุมแปลงปลูกช่วยอุ้มน้ำด้วยก็ได้
1. ปลูกไม้พุ่มปิดล้อมมุมพักผ่อน และวางอ่างบัวไว้ใกล้ๆเพื่อเพิ่มความเย็นสบาย การวางแผ่นทางเดินสลับกับหญ้าเป็นลานกว้าง ช่วยลดการสะสมความร้อนของพื้นแข็งได้มากกว่าลานที่เป็นฮาร์ดสเคปทั้งหมด
2. ไม้ยืนต้นดอกสวยที่ออกช่วงหน้าร้อนอย่างหางนกยูงฝรั่ง ตาเบเหลือง นนทรี และราชพฤกษ์ เป็นไฮไลต์ของมุมสวนในช่วงนี้ เลือกปลูกรวมกันเป็นกลุ่มให้เกิดโทนสีเดียวกันหรือปลูกสลับสีโดยเลือกให้มีสีตัดกันไปเลย อย่างเช่น สีเหลืองของราชพฤกษ์ตัดกับสีแดงของหางนกยูงฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีไม้ต้นอีกหลายชนิดที่ออกดอกช่วงนี้ บางต้นก็เห็นตั้งแต่หน้าหนาวต่อเนื่องมา หรือออกดอกหน้าร้อนยาวไปถึงฤดูฝน ทำให้เราได้เห็นสีสันที่สวยงามนานหลายเดือน
- หางนกยูงฝรั่ง ไม้ต้นขนาดกลางสูง 10-15 เมตร ไม้ผลัดใบ ออกดอกตั้งแต่หน้าร้อนยาวจนถึงฤดูฝน ประมาณเดือนเมษายน-มิถุนายน เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่กว้าง เนื่องจากรากมีขนาดใหญ่
- กัลปพฤกษ์ ไม้ต้นขนาดกลางสูง 5-15 เมตร ไม้ผลัดใบ ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน โดยจะทิ้งใบเกือบหมดทั้งต้นและออกดอกสีชมพูเป็นช่อตามกิ่ง
3. หน้าร้อนจะมีอะไรดีไปกว่านั่งเล่นในศาลาที่มีลมเย็นสบาย ฟังเสียงน้ำเพลิน ๆ และได้กลิ่นหอมของดอกไม้ ปลูกไม้พุ่มดอกสวยอย่างพลับพลึงหนู และเอื้องหมายนา ซึ่งออกดอกตลอดทั้งปี เพิ่มความสดชื่นให้มุมพักผ่อน ทั้งยังเก็บความชื้นในทรงพุ่มได้ดี อากาศบริเวณนั้นจึงเย็นสบาย
4. ปลูกพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นสำหรับรับประทานในฤดูนี้ เช่น แตงกวา บวบ ฟัก ผักกาดขาว ผักกาดฮ่องเต้ และผักเลื้อยทั่วไป มีอายุตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 40-60 วัน ส่วนผักล้มลุกประมาณ 30-45 วัน
5. แม้ว่าสนามหญ้าจะไม่เขียวสวยเหมือนช่วงอื่น ๆ แต่ก็มีข้อดีคือเราไม่ต้องตัดหญ้าบ่อย โดยปกติเราต้องให้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงสำหรับสนามหญ้า แต่ในช่วงฤดูร้อนแนะนำให้ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัส (หรือตัวกลาง ) สูง เนื่องจากฟอสฟอรัสจะช่วยในการเจริญเติบโตของราก ทําให้เกิดการแตกรากใหม่ หญ้าจะหาอาหารและเกิดต้นใหม่ได้ดีขึ้น
6. เพิ่มมุมพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่โดยแขวนเปลสนาม สร้างบรรยากาศสบายๆในสวน