ฤดูฝน
เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม แม้ว่าเราอาจออกไปใช้งานสวนหรือจัดกิจกรรมได้ไม่เต็มที่ แต่แน่นอนว่าสวนในช่วงนี้จะสวยมากเป็นพิเศษ เพราะมองไปทางไหนก็เห็นต้นไม้เขียวชอุ่มสบายตา ทั้งยังมีต้นไม้หลายชนิดออกดอก เช่น กระเจียว บัวสวรรค์ แก้ว ส่วนไม้ต้น ได้แก่ ตะแบกนา อินทนิลน้ำ มะตาด และโสกพวง ข้อดีอีกอย่างก็คือไม่ต้องเสียเวลารดน้ำต้นไม้มากนัก อีกทั้งต้นยังเจริญเติบโตเร็ว โดยเฉพาะไม้ต้นที่ขุดล้อมมาปลูกจะฟื้นตัวและแตกใบใหม่ได้ดีขึ้น แต่งานหนักก็จะตกอยู่ที่เราต้องหมั่นตัดหญ้าบ่อยขึ้นกว่าเดิม ก่อนเข้าฤดูฝนควรเตรียมตัดแต่งกิ่งต้นไม้ที่ผุ เกิดโรคและแมลงเข้าทำลาย เพื่อป้องกันกิ่งหักเสียหายหากโดนลมพายุแรงๆ ช่วงนี้เชื้อราและโรคพืชต่างๆในสวนจะแพร่กระจายได้ง่าย จึงจำเป็นต้องใช้สารกำจัดเชื้อรา หรือหาสมุนไพรรสขม รสฝาด เช่น ขมิ้นชันผง ฟ้าทะลายโจรผง หรือนำกระเทียมมาตำให้แหลก แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน การใช้งานให้ผสมน้ำไม่เกิน 3 ส่วน นำไปฉีดที่แปลงหลังฝนตกใหม่ๆ ก็จะช่วยป้องกันโรคต่างๆที่จะมากับฝนได้
1. ไม้หัวบางชนิด เช่น กระเจียว บัวสวรรค์ จะออกดอกเต็มที่ช่วงฤดูฝน เราอาจหาพรรณไม้เหล่านี้มาปลูกแซมเพิ่มเติมตามลานกว้าง ๆในสวนที่ไม่ได้เข้าไปใช้งานให้เป็นทุ่งดอกไม้สวยๆ หรือปล่อยให้ดอกไม้ป่า ดอกไม้ริมทางที่เราไม่ได้ตั้งใจปลูก เช่น บุษบาริมทาง ดาวกระจาย หงอนไก่ไทย และหญ้าต่าง ๆ ได้เจริญเติบโตบ้าง เพิ่มสีสันในสวน
2. แผ่นทางเดินในฤดูฝนมักไม่มั่นคงแข็งแรง เนื่องจากถูกกัดเซาะโดยน้ำฝน และดินอ่อนตัว ดังนั้นจึงควรตรวจสอบและแก้ไขโดยใช้ทรายปรับพื้นอัดให้แน่น แล้วจึงวางแผ่นทางเดินใหม่
3. ศาลายังเป็นอีกมุมหลักที่จะได้ใช้งาน ทั้งหลบเข้ามานั่งเล่นชมธรรมชาติยามฝนตกพรำ ซึ่งเราอาจทำชายคาหรือกันสาดยื่นออกมาจากศาลา หรือขึงม่านพลาสติกใสเพื่อป้องกันฝนสาด ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกใกล้กับศาลาก็ไม่ควรมีกิ่งเปราะเกินไป เพราะอาจหักลงมาทำให้หลังคาเสียหายได้
4. เฟอร์นิเจอร์สนามที่ใช้วัสดุอัลลอยล์ เหล็กดัด และปูนหล่อ เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะในช่วงฤดูนี้เพราะทนทานและทำความสะอาดง่าย หากใครชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้แนะนำว่าควรทำพื้นแข็งรองรับไว้ดีกว่าวางบนพื้นดินโดยตรง เนื่องจากความชื้นจากพื้นจะทำให้อายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์สั้นลง
5. ในมุมสวนใกล้โรงเรือนถือโอกาสขยายพันธุ์ต้นไม้หรือเพาะกล้าไปด้วยเพื่อนำไปปลูกตกแต่งตามจุดต่าง ๆ สำหรับสวนครัวนอกจากพืชผักล้มลุกทั่วไปที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี ผักพื้นบ้านส่วนใหญ่ก็จะงามพร้อมให้เก็บมารับประทานในช่วงนี้เช่นกัน ทั้งผักปลัง ดอกขจร ตำลึง ผักกูด โสน ขี้เหล็ก และพืชตระกูลขิงข่า
6. แม้ว่าปีบจะออกดอกได้เกือบตลอดทั้งปี แต่ในฤดูฝนโดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป เราจะเห็นไม้ชนิดนี้ออกดอกมากเป็นพิเศษ ปีบเป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ สูง 5-25 เมตร ดอกสีขาวทยอยบานตั้งแต่ตอนเย็นถึงกลางคืนส่งกลิ่นหอม แต่มีข้อเสียคือกิ่งเปราะ ใบและดอกร่วงทุกวันจึงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่นิยมกวาดใบไม้ตลอด
7. ตรวจสอบในจุดที่เป็นที่ต่ำและมีน้ำขังในสวนโดยเฉพาะในแปลงต้นไม้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดรากเน่าได้ จากนั้นปรับพื้นที่ใหม่ให้เสมอกัน สำหรับโคนต้นไม้หรือแปลงปลูกอาจทำเนินดินให้สโลปไปทางท่อระบายน้ำ นอกจากนี้ก่อนเข้าหน้าฝนควรลอกท่อนำเศษใบไม้และตะกอนต่าง ๆออกให้หมด เพื่อให้น้ำระบายออกได้รวดเร็วไม่ท่วมขังในสวน
เรื่อง : “วรัปศร”
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน
ภาพประกอบ : TADUM