เพราะการจัดสวนมีรายละเอียดไม่น้อยไปกว่าการสร้างบ้าน ยิ่งถ้าคุณต้องการพื้นที่ใช้งานต่างๆมากกว่าการเติมต้นไม้ไว้ในสวนล่ะก็ งานโครงสร้าง องค์ประกอบในสวน วัสดุตกแต่งสวน ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสวนของคุณได้มากขึ้น
เมื่อโครงสร้างเหล่านี้เข้ามาอยู่ในสวนก็ต้องมีการคำนึงถึงเรื่องการเลือกใช้ วัสดุแต่งสวน ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกกันหลากหลาย ครั้งนี้เราจึงมาอัพเดตวัสดุที่กำลังเป็นที่นิยมใช้ในสวนกันครับ
1. กำแพงกรุหินภูเขาคละสี
บ้านที่อยากได้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องการให้ดูแข็งแรง ทนทานต่อการสึกกร่อน การใช้หินกรุทำกำแพงก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเนื้อหินมีความแกร่ง มีรูพรุนน้อย จึงไม่อมความชื้นและไม่ขึ้นราง่าย นิยมนำมากรุผนังโดยทำพื้นผิวหน้ากระแทกให้ขรุขระ แล้วปูชิดติดกัน แต่ส่วนใหญ่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ถ้านำมาแต่งผนัง ผนังนั้นต้องมีโครงสร้างแข็งแรงพอ และหากนำไปใช้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง ก็ควรทาน้ำยาเคลือบหินเพื่อช่วยป้องกันน้ำ หรือสิ่งสกปรกที่อาจซึมเข้าตามรูพรุนของหิน เพราะเมื่อเกิดคราบสกปรกต่าง ๆแล้วจะทำความสะอาดออกยาก การดูแลทำความสะอาดโดยทั่วไปให้ใช้ผ้าแห้งหรือชุบน้ำพอหมาดเช็ดถู และควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรด เพราะอาจทำให้แผ่นหินเสียหาย ราคาตารางเมตรละประมาณ 2,000 บาท
2. ระแนงไม้
การทำหลังคาระแนงไม้ช่วยพรางและลดปริมาณแสงแดดได้ ทั้งยังทำให้สวนดูทันสมัย โดยใช้โครงสร้างไม้ วางตง ไม้ขนาด 1.5 x 2 นิ้ว ทุกระยะ 80 เซนติเมตร ส่วนไม้ระแนง ขนาด 1×2 นิ้ว ตีเว้นช่อง 5 เซนติเมตร ตามแนวยาว จากนั้นปูแผ่นพอลิคาร์บอเนตทับตัวโครงอีกที ก็ช่วยกรองแสงแดดและป้องกันฝนสาดได้ทางหนึ่ง
3. แผ่นพอลิคาร์บอเนต
นิยมใช้ในส่วนที่ต้องการแสงสว่างและป้องกันฝนได้ เป็นแผ่นพลาสติกสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบาโครงสร้างแผ่นมีโพรงอากาศอยู่ตรงกลาง หนา 6, 8 และ 10 มิลลิเมตร แข็งแรงทนทาน ดัดโค้งได้ ควรติดตั้งให้มีความลาดเอียงน้อยๆ ประมาณ 5 องศา ช่วยกรองแสงและความร้อนได้ 20-80 เปอร์เซนต์ สิ่งที่ควรระวังคือเมื่อใช้งานไปนานๆ มักมีสิ่งสกปรกเข้าไปฝังอยู่ในช่องระหว่างแผ่น จึงควรปิดรอยต่อหัวและท้ายแผ่นด้วยแถบอะลูมิเนียมและยาซิลิโคน แผ่นพอลิคาร์บอเน็ตราคาตารางเมตรละประมาณ 500 บาท ถ้ามาพร้อมโครงสร้างเหล็ก ราคาตารางเมตรละ 1,500-2,500 บาท และโครงสร้างสเตนเลส ราคาตารางเมตรละ 3,000-4,000 บาท ขึ้นอยู่บริษัทและวัสดุที่เลือกใช้
4. พื้นไม้
พื้นไม้ยกระดับเป็นการแบ่งแยกพื้นที่ใช้งานที่ทำให้สวนดูมีมิติและเป็นสัดส่วน สามารถใช้ไม้เนื้อแข็ง ขนาด 1 x 4 นิ้ว ตีบนตงและคาน เว้นร่องประมาณ 5 มิลลิเมตร ให้น้ำสามารถระบายลงไปตามร่องที่เว้นไว้ได้ หรืออาจไสมุมไม้ เมื่อปูไม้ติดกันจะเห็นเป็นร่องเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม หรือลดคมจากสันของพื้นไม้เพื่อความปลอดภัย
- พื้นไม้สัก เนื้อไม้เป็นสีเหลืองหรือเหลืองทอง ถ้าเป็นไม้เก่าจะมีสีน้ำตาล มีกลิ่นเฉพาะตัว ทำให้ไม่ค่อยมีมอดและปลวกมายุ่ง มีการยืดหดตัวน้อย แต่ราคาสูงตารางเมตรละประมาณ 1,300-1,600+ บาท (ราคาไม่รวมค่าขัดทำสี)
- พื้นไม้แดง ไม้เนื้อแข็งสีแดงเรื่อๆ เนื้อละเอียด แข็งแรงและเหนียว ราคาตารางเมตรละประมาณ 1,2,00-1,500+ บาท (ราคาไม่รวมค่าขัดทำสี) พื้นไม้ชนิดนี้ราคากับคุณภาพสมเหตุสมผลที่สุด
- พื้นไม้เต็ง เป็นไม้เนื้อแข็งสีน้ำตาลอมเหลือง ผิวค่อนข้างหยาบ แต่สม่ำเสมอ เเข็งแรงและเหนียว ไม่ทนเท่าไม้สัก ไม้แดง เพราะต้องทำสีบ่อยๆ ราคาตารางเมตรละประมาณ 800+ บาท (ราคาไม่รวมค่าขัดทำสี)
5. ผนังระแนงไม้บังตา
ทำระแนงไม้บังตาเพื่อความเป็นสัดส่วน หรือเป็นจุดจบสายตาในสวน พรางสิ่งที่ไม่น่ามอง บางครั้งยังใช้เป็นที่แขวน วางกระถางต้นไม้ หรือปลูกไม้เลื้อย อาจใช้หมุดกลมสเตนเลสยึดแผ่นไม้เข้ากับโครงสร้างโดยวางให้เป็นจังหวะ เพื่อความสวยงามก็ได้ ราคาตารางเมตรละประมาณ 5,000-7,000 บาท (ราคานี้เป็นแบบที่ใช้หมุดกลมเตนเลส และรวมค่าแรงขัดทำสีพร้อมอุปกรณ์)
6. ผนังน้ำตกกรุสันหินกาบ
ผนังน้ำตกกรุสันหินกาบเป็นชั้นๆ ทำให้ผนังดูมีรายละเอียดไม่เรียบนิ่งจนเกินไป เมื่อน้ำไหลลงมาตามชั้นหินก็ดูเป็นธรรมชาติดี มีความแกร่งสูง มีสีสันหลากหลาย สามารถนำไปตกแต่งได้ทั้งงานพื้นและผนัง ราคาตารางเมตรละประมาณ 650 บาท