Green Stay Network ที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่างของบุคคล องค์กร และสถานที่ที่มีการปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ โดยนำภูมิปัญญาดั้งเดิมและวิทยาการสมัยใหม่มาประยุกต์ให้ใช้ได้จริงในปัจจุบัน สถานที่ที่เราแนะนำบางส่วนเป็นทั้งโฮมสเตย์ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าไปเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมควบคู่ไปกับการพักผ่อน รวมถึงนำแนวคิดเดียวกันนี้ไปปรับใช้กับการออกแบบของคุณได้อีกด้วย ในเนื้อหานี้จะมีการนำบ้าน 3 หลังมาเป็นตัวอย่าง ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมสามารถสั่งซื้อได้ทางนี้เลย https://www.facebook.com/Baanlaesuanbooks/
1. บ้านไม้เปี่ยมรัก
แค่เลี้ยวเข้าซอยเล็กๆตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านทางลดเลี้ยวคดเคี้ยวเข้าไปเพียงไม่กี่อึดใจ ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวสดใสที่กลายเป็นวิวสวยๆให้บ้านไม้ในกลิ่นอายไทยโบราณขนาด 2 ชั้น หน้ากว้างยาวจนเหมือนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และสนามหญ้าสีเขียวจัด
เมื่อเดินเข้าไปเราก็ได้พบกับ เจ้าของบ้านมาพร้อมรอยยิ้มสดใสนำพาเราไปพบกับบ้านไม้อารมณ์ย้อนยุคหลังนี้
ด้วยความที่คุณต้อมเคยสอนวิชาเขียนแบบก่อสร้างอยู่ที่ลำปาง จึงลงมือออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้นเอง โดยทำเป็นโมเดลเล็กๆก่อน แล้วนำมาลองวางบนที่ดินผืนนี้ช่วงเช้า สาย บ่าย และค่ำ เพื่อทดสอบการพัดผ่านของลมธรรมชาติและดูทิศทางการเปลี่ยนแปลงของแสงแดด แล้วนำไปปรับแปลนบ้านให้เหมาะสมแลกลมกลืนกับภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด นอกเหนือจากงานไม้แล้ว ยังใส่ความชอบในสไตล์โมเดิร์นไว้ด้วยการผสมกับผนังปูนเปลือยจึงช่วยเบรกงานไม้ให้เบาลง ภายในเน้นการเปิดให้ลมธรรมชาตพัดผ่นได้สบาย โดยแยกมุมใช้งานต่างๆด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแบบง่ายๆ และแยกห้องครัวไว้เป็นสัดส่วนด้วยข้าวของอุปกรณ์การครัวอย่างครบครัน
ชั้นบนยังมีห้องนอนรับแขกขนาดใหญ่ พร้อมกับห้องนอนส่วนตัว ระหว่างห้องนอนทั้งสองห้องน้เป็นห้องทำงานส่วนตัวที่มีโต๊ะเขียนแบบเล็กๆกับชั้นหนังสือพร้อมของสะสมสุดรักทั้งกล่องโบราณและแผ่นเสียงไวนิลต่างๆ
นี่สินะ ชีวิตถึงมีความสมดุล ทั้งการได้อยู่เคียงข้างกับคนรักในบ้านที่สวยงามกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ทำงานพร้อมแบ่งแบ่งปันความสุขให้คนอื่น และยังได้ออกท่องเที่ยวเติมความสดชื่นให้ตัวเองอยู่เสมอ
เรื่อง : “ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ”
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ