ปรับเปลี่ยนพื้นที่นอกบ้าน ให้กลายเป็นที่นั่งเพลินตลอดวัน
นอกบ้าน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ้านเมืองที่มีอากาศร้อนชื้นสูงแบบเมืองไทยทำให้เราแทบทุกคนเคยชินกับการหลบตัวอยู่ในห้องปรับอากาศที่แสนเย็นสบาย จนลืมไปว่าการใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน นอกจากทำให้ร่างกายไม่สดชื่น ผิวหนังแห้งแล้ว ยังป่วยเพราะติดเชื้อได้ง่ายๆ อีกด้วย
คุณแมท-สุวิทย์ เอื้อศักดิ์ชัย แบรนด์โค้ช ที่ปรึกษากลยุทธ์ทำแบรนด์ The Brand Matters Bangkok และเจ้าของค่ายเพลง BrandVoice ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตทำงานอยู่ภายในห้องปรับอากาศตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยปล่อยทิ้งพื้นที่นอกบ้านให้รกร้างหรือว่างเปล่า ตลอดระยะเวลา 27 ปีที่อยู่ในทาวน์เฮ้าส์หลังนี้ เขาทั้งตกแต่ง ปรับเปลี่ยน และต่อเติมพื้นที่นอกบ้านให้สวยงาม น่าสบาย และชวนให้ออกมาใช้งานไม่แพ้ห้องต่างๆ ภายในบ้านเลย ที่นั่งนอกบ้าน
“ตรงนี้เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านตัวเองกับบ้านพี่สาว พอทุบกำแพงออกก็กลายเป็นพื้นที่โล่ง เรามองว่าน่าจะทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Outside Living ได้ดี แทนที่จะปลูกต้นไม้เป็นสวนไปทั้งหมดแล้วก็ไม่ออกมาใช้งาน เลยผสมผสานให้เป็นทั้งสวนเล็กๆ กับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวไปด้วย ถึงเวลาก็สลับสับเปลี่ยนสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ได้ตลอด
คุณแมทกำลังพูดถึงบริเวณเฉลียงด้านหน้าบ้านต่อเนื่องไปถึงมุมข้างบ้านในรูปทรงแบบตัวแอล (L) ปัจจุบันเขาใช้เป็นทั้งมุมพักผ่อนส่วนตัว มุมทำงาน กับร้านอาหารแบบโทร.นัดหมายล่วงหน้า รวมไปถึงห้องประชุมคุยงานพร้อมกับห้องเรียนหลักสูตรการสร้างแบรนด์ให้ซีอีโอรุ่นใหม่ๆ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย กระตุ้นแรงบันดาลใจ และแตกต่างไปจากห้องสี่เหลี่ยมภายในอาคารสำนักงานทั่วไป
“ใครๆ ที่มาบ้านก็บอกว่าที่นี่มีมุมนั่งสบายเยอะมาก เพราะอย่างนี้ทำให้ทุกคนอยากนัดคุยงานกันที่นี่เสมอ มาแล้วรู้สึกสดชื่น สบายใจ และหลายครั้งที่ทั้งเพื่อนและลูกค้าชอบอยู่ยาวไม่ยอมกลับกันง่ายๆ แม้บางทีเราอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปที่อื่นบ้างเหมือนกันนะ (หัวเราะ)”
เติมเสน่ห์ให้มุมนอกบ้าน
วิธีจัดการกับพื้นที่นอกบ้านของคุณแมท เริ่มจากกำหนดฟังก์ชันที่ต้องการก่อนว่าจะใช้พื้นที่รูปทรงตัวแอลทางฝั่งขวาของบ้านทำอะไรบ้าง
“ถามความต้องการตัวเองก่อนเลย นั่นทำให้รู้ว่าเราอยากได้มุมนั่งสบายๆ แบบไม่เป็นทางการ ตามด้วยโต๊ะคุยงานแบบเป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็นั่งกินขนมกินข้าวได้ด้วย และมุมนั่งกินข้าวเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่จะมาร้านอาหาร จากนั้นเราก็จะสามารถเลือกรูปแบบและสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้ในแต่ละมุม ซึ่งดูที่ฟังก์ชันใช้งานในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักก่อน เพราะทุกมุมต้องมีเก้าอี้หรือโซฟาสักชิ้นที่เป็นจุดเด่นนำสายตา แล้วถึงผสมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กเข้าไป ตามด้วยของตกแต่งอื่นๆ และปูพื้นกระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายเหมาะกับพื้นที่นอกบ้าน เน้นลวดลายในสีสันที่กลมกลืนกับภาพรวม”
คุณแมทแอบกระซิบว่า เฟอร์นิเจอร์นอกบ้านที่เขาเลือกใช้บางตัวก็หลุดนอกกรอบและกฎเกณฑ์ไปบ้าง เพราะบางชิ้นเป็นเก้าอี้หุ้มผ้าและบางชิ้นก็ไม่ใช่วัสดุสำหรับงานกลางแจ้ง แต่เขาก็ยังเลือกใช้ด้วยความเต็มใจและยอมจำนนต่อดีไซน์ที่สวยงาม จึงทำใจล่วงหน้าเมื่อต้องผ่านช่วงฝนตกและเผชิญกับความชื้นของสภาพอากาศตามฤดูกาล
ต้นไม้ยังเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้สำหรับมุมนอกบ้าน คุณแมทบอกว่า “คล้ายกับเฟอร์นิเจอร์คือเราเลือกต้นหลักๆ ไว้ก่อนอย่างแสงจันทร์ที่ปลูกได้ในแสงอ่อนรำไรไปจนถึงแดดจัด รูปทรงใบสวย ตอนกลางคืนก็ดูสะท้อนแสงเรืองรองดี เข้ากับสีฟ้าเขียวเทอร์คอยส์ของผนัง เพื่อไม่ให้กลางวันดูสว่างจ้าเกินไป กลางคืนเวลาจุดเทียนหรือเปิดไฟก็ได้มิติของแสงสีที่ลึกและโรแมนติกขึ้น เสริมด้วยเฟินต่างพันธุ์มาผสมผสานกับไม้กระถางและไม้แขวนที่มาเติมความเป็นธรรมชาติ”
ปิดท้ายด้วยหลังคาโปร่งแสงทรงโค้งสองชั้นที่วางเหลื่อมซ้อนกันโดยเว้นช่องให้ลมธรรมชาติพัดผ่านได้ และช่วยกรองแสงแดดให้เบาบางลง แต่ไม่รู้สึกปิดทึบจนอึดอัด อาจมีละอองฝนโปรยปรายมาบ้าง แต่ทำให้สามารถใช้งานมุมนอกบ้านนี้ได้ตลอดทั้งวันและทุกฤดูกาล
รับลมอย่างรื่นรมย์
“ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ชีวิตนอกบ้านตลอดเวลา เวลาร้อนมากๆ ก็อยากอยู่ในห้องแอร์แหละ แต่สักพักก็จะรู้สึกอยากออกมารับลมธรรมชาติ เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้น โดยเฉพาะช่วงอากาศดีๆ ตั้งแต่ปลายตุลาคมไปจนถึงปีใหม่ มักเป็นช่วงที่เราสนุกกับการจัดแต่งบ้านมากเป็นพิเศษ พอแต่งแล้วก็อยากมานั่งเล่นและมีความสุขกับการใช้พื้นที่มุมใหม่ๆ เหล่านี้
“นั่งทำงานตรงนี้ทำให้เราได้ยินเสียงธรรมชาติ เห็นความเคลื่อนไหวของชีวิตรอบตัว และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น แม้จะมีพื้นที่สีเขียวจำกัดหน่อย แต่การหยอดความเขียวไว้ในมุมที่เหมาะสมก็ช่วยให้เราสัมผัสกับธรรมชาติได้แบบรอบตัว โดยไม่จำเป็นต้องทำสวนแน่นๆ หรือสวนสไตล์อังกฤษสวยๆ เพราะถ้าไม่ได้ออกมาใช้งาน ก็ไม่มีประโยชน์เท่าสวนกระถางที่แทรกตัวอยู่ในทุกมุมพักผ่อนของชีวิตเราจริงๆ”
เจ้าของ : แมท-สุวิทย์ เอื้อศักดิ์ชัย
เรื่อง : “ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์”
ภาพ “ ฤทธิรงค์ จันทองสุข
ผู้ช่วยช่างภาพ : ชูศักดิ์ เลาหะกาญจนศิริ
