เมื่อต้องขยับขยายจากห้องคอนโดมิเนียมมาสู่บ้านใหม่ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวางขึ้น คุณบาส – ธีรทัศน์ แผ่สุวรรณ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แห่ง SWAT Thailand เอเจนซี่โฆษณาสัญชาติไทย จึงเลือก รีโนเวตทาวน์เฮาส์ ห้องหัวมุมที่มีบริเวณด้านข้างสำหรับทำเป็นสวนสีเขียวบนทำเลเดิมที่เขาคุ้นเคยมานานตั้งแต่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ
“แต่เดิมอยู่คอนโดครับ ต่อมาก็เริ่มอยากย้ายมาอยู่บ้านจริง ๆ เพราะอยากปลูกต้นไม้ อยากมีบ้านที่ล้อมด้วยต้นไม้ เลยเลือก รีโนเวตทาวน์เฮาส์ หลังหัวมุม อีกอย่างคือเป็นคนเก็บสะสมของเก่า ซึ่งมีของเยอะมาก เลยอยากนำมาแต่งบ้าน ถ้าพูดถึงเสน่ห์ของของเก่า ขอเล่าว่าผมเป็นคนใช้ของมือสองมาตลอดชีวิต เลยรู้สึกผูกพันกับตลาดของเก่า ถ้ามีวันว่างก็จะขับรถไปเดินดู เราชอบของเก่าที่ความสวยงาม และเป็นเหมือนของที่เกิดมาเพื่อเราจริง ๆ มีแค่หนึ่งเดียว ไม่มีชิ้นที่สอง”
คุณบาสโฟกัสไปที่การตกแต่งบ้านเป็นลำดับแรก อาจสวนทางจากกระบวนการออกแบบปกติสักหน่อย แต่ก็เกิดขึ้นจากใจรักของเก่าซึ่งเป็นของสะสมตั้งแต่สมัยยังเรียนศิลปะ ทั้งสิ่งพิมพ์โบราณ งานจิตรกรรม ประติมากรรม เขาสัตว์ และแผ่นเสียง บวกกับความลงตัวของสเปซที่เกิดจากมุมมองในแบบผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาจนเกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจของงานอินทีเรียร์ “ตอนแรกมีข้าวของที่เก็บสะสมก่อน เราก็เลยพยายามหาที่วางที่เหมาะสม จากนั้นค่อยสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ตามมา แล้วเลือกสีห้องให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ตอนลงมือทำบ้าน เรารู้ว่าอยากวางอะไรตรงไหน เลยมีภาพในหัวของแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน”
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวภายในบ้านบางส่วนเป็นของเก่าแท้ ๆ ที่นำมาซ่อมทำสีใหม่และดัดแปลงด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหีบเก่าที่กลายมาเป็นโต๊ะกลาง ติดตั้งตัวยึดขอบทองเหลืองสั่งทำพิเศษ ให้ความรู้สึกทั้งสวยงามและเสริมความแข็งแรงไปในตัว รวมทั้งติดล้อเลื่อนให้ใช้งานง่าย หรือตู้บานเลื่อนกระจกของเก่านำมาพลิกแพลงเป็นตู้เก็บหนังสือ แต่เมื่อขนาดของตู้เล็กกว่าพื้นที่จัดวาง จึงเขียนแบบเฟอร์นิเจอร์ใหม่หน้าตาวินเทจขึ้นมาเติมเต็มพื้นที่ เมื่อผังห้องลงตัว ก็ถึงคราวที่สีสันต้องออกโรงบ้าง คุณบาสใช้มุมมองทางศิลปะเลือกสรรเฉดสีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และลงมือทาสีเอง
สวนเป็นอีกพื้นที่ที่คุณบาสจัดวางเองจากมุมมองที่ไม่เหมือนใคร “วิธีการจัดสวนของเราเกิดจากการชอบดูหนัง เช่น ผมชอบ Alice in Wonderland คิดในหัวก่อนเลยว่าทำอย่างไรให้เป็นภาพแบบในหนัง เราต้องหาพรรณไม้แบบไหน ก็จะเริ่มศึกษาว่าอะไรที่อยู่ด้วยกันได้ เริ่มจากปลูกต้นไม้หลัก ๆ ก่อน แล้วค่อยแซมต้นไม้ชนิดอื่นให้ดูหลากหลาย มุมหนึ่งดูดิบชื้นเหมือนฉากในหนังเรื่อง Jurassic Park และอีกมุมเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นจากที่อื่นด้วยการผสมพรรณไม้ไทยและพรรณไม้เมืองนอกที่ฟอร์มเข้ากันมาอยู่ร่วมกัน และเลี่ยงการใช้ซาแรนกรองแสง โดยการปลูกไม้ชอบแดดมาบังต้นที่ไม่ชอบแดดแทน”
คุณบาสใช้เวลาทุกเช้าราว 30 – 45 นาทีก่อนออกไปทำงานในการรดน้ำต้นไม้ จึงมองเห็นสภาพความเป็นไปของต้นไม้ทุกต้นอย่างใกล้ชิด “ถ้าคนปลูกต้นไม้จะรู้ว่าเรื่องสวนมีอะไรให้ทำทุกวัน รดน้ำเองด้วยมือ ก็จะรู้ว่าต้นไหนเป็นอย่างไร ต้นไหนถึงเวลาแยกหน่อได้ หรือต้นไหนอาการไม่ดี ก็ต้องขยับไปหาแสงอาทิตย์ได้แล้ว”
เพอร์เฟ็กต์เดย์ของคุณบาสจึงเป็นวันที่ได้ตระเวนออกหาของเก่าและต้นไม้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ บางทีแม้ไม่ได้ของติดมือกลับบ้าน แค่ได้เดินดูก็แฮ็ปปี้แล้ว เพราะสิ่งของทุกชิ้นล้วนมีความงามอยู่ในตัว และเมื่อกลับมามองยังพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมในบ้านหลังนี้แล้ว ทั้งพรรณไม้สีเขียวหลากสปีชี่ส์ และของเก่าจากหลายยุคที่ได้รับการดูแลและบำรุงด้วยความเข้าใจ ของทุกชิ้นจึงสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตัวมันเอง รวมทั้งตัวตนของเจ้าของบ้านได้อย่างสมบูรณ์
/ วาดภาพห้องในจินตนาการจากเฟอร์นิเจอร์เก่าที่ตั้งใจจัดวาง
ก่อนละเลงสีสันลงในห้อง เน้นให้ของเก่ากลายเป็นพระเอกอย่างเต็มตัว /
เรื่อง : skiixy
ภาพ : ดำรง
วีดีโอ : Thanayuth Sroisuwan
คอลัมน์ : Room To Room
เล่ม : June 2015 No.148