พื้นที่สำหรับมนุษย์ตัวเล็ก

ห้องน้ำ ครัว ที่เด็กช่วยเหลือตัวเองได้

ห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำไม่ลื่น สว่าง สะอาด เมื่อถึงวัยที่เด็กเข้าห้องน้ำเองได้ ควรฝึกให้เขาได้จัดการขับถ่ายด้วยตัวเอง โดยมีเก้าอี้ที่สามารถปีนขึ้นนั่งชักโครกเองได้ ล้างมือเองถึง

ครัว

จัดวางอุปกรณ์อย่างปลอดภัย หยิบใช้งานได้อย่างเป็นระเบียบ ห้องครัวไม่ควรเป็นพื้นที่หวงห้ามสำหรับเด็ก เพราะในนั้นเด็กจะได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากงานของแม่

ครัวเป็นเป้าหมายแรกๆ สำหรับเด็กเล็กเมื่อเขาต้องการสำรวจโลก เด็กสนุกกับการเปิด-ปิดตู้ เขารู้แล้วว่านอกจากตัวเองและพ่อแม่ โลกยังมีสิ่งอื่นๆอีก  เขารู้แล้วว่ามือของเขาทำอะไรได้บ้าง  เด็กเล็กๆ ชอบนำภาชนะต่างๆ มาเรียงซ้อนในตู้ที่เขาเปิดเองได้ เราจึงควรเตรียมความสนุกเหล่านี้รอไว้ให้เขามาค้นพบ

เมื่อถึงวัยที่เริ่มใช้มือหยิบจับได้คล่องแคล่วยิ่งขึ้น ลองให้โอกาสเด็กได้ช่วยเตรียมจานสำหรับคนในครอบครัว ช่วยล้างจาน ช่วยทำอาหารง่ายๆ เขาจะเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองที่สามารถดูแลตัวเองและคนอื่นได้ด้วย

พื้นที่เล่นอิสระที่มีของเล่นไม่ต้องมาก

เด็กเล็กๆ ไม่ได้ต้องการของเล่นหรือตัวช่วยในการสำรวจความสามารถของร่างกายตัวเอง เขาควรพลิกคว่ำได้ด้วยตัวเอง นั่ง คลาน ยืน และเดินได้ด้วยความมุ่งมั่นและความแข็งแรงของร่างกายตัวเอง เด็กที่อยู่ท่ามกลางของเล่นและอุปกรณ์กระตุ้นพัฒนาการจำนวนมาก กลับมีโอกาสน้อยที่จะได้ทำความรู้จักกับมือเท้าแขนขาของเขา

เด็กต้องการพื้นที่เพียงเล็กๆ ที่เปิดโอกาสให้เขาได้เล่นอิสระโดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่เป็นผู้ชี้นำ หาของเล่นปลายเปิดที่แปรเปลี่ยนได้ตามจินตนาการเพียงจำนวนเล็กน้อยและจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้เด็กสามารถหยิบมาเล่นและเก็บเองได้  เป็นพื้นที่ที่เด็กได้เล่นโดยไม่ต้องมีวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดโดยผู้ใหญ่

ขณะที่เด็กเล่นอิสระ ลองมองว่าเขาเป็นศิลปินตัวน้อยที่กำลังสร้างสรรค์การเล่น และไม่ต้องการให้ผู้ใหญ่เข้าไปรบกวน สังเกตเขาอย่างเงียบๆ เราอาจได้รู้จักเด็กๆ ของเรามากขึ้น

พื้นที่นอกบ้าน

การได้ใกล้ชิดสิ่งมีชีวิตอื่น เช่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง หรือสัตว์เล็กๆในธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างพลังชีวิตให้แก่มนุษย์ได้  หากบ้านไหนพอจะมีพื้นที่ การที่เด็กได้เห็นไม้ใหญ่เติบโต ได้ดมกลิ่นไม้ดอกหอมสดชื่น ได้ดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรัก ได้เห็นแม่นกฟูมฟักลูกน้อย เฝ้าลุ้นไปกับหนอนที่กำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ นอกจากจะได้รับพลังชีวิตแล้ว เด็กยังได้เรียนรู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และความเป็นไปของชีวิตโดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากสอน

และถ้าให้โอกาสเด็กได้ลงมือปลูกผักผลไม้ รดน้ำพรวนดินจนเติบโตเก็บเกี่ยวกินได้ นอกจากความภูมิใจในสองมือของตนแล้ว เด็กจะมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับโลกที่ลึกซึ้งกว่าเพียงแค่การไปซื้อผักจากซูเปอร์มาร์เก็ต

หากไม่มีพื้นที่นอกบ้าน กิจกรรมที่ว่ามาก็สามารถทำได้ในกระถางต้นไม้ริมระเบียง หรืออ่างปลาเล็กๆ หน้าบ้าน

พื้นที่เล่นดิน ทราย น้ำ

ถ้าพอจัดสรรพื้นที่ได้ ควรให้เด็กมีโอกาสสัมผัสดิน ทราย และน้ำ วัตถุธาตุเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบของร่างกายมนุษย์ หากเด็กได้เล่นดิน เล่นทราย เล่นน้ำ เขาจะรู้สึกได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับโลก เกิดความสบายใจ ช่วยชำระล้างปลดปล่อยความคับข้องขุ่นมัวในใจ และได้บริหารจินตนาการความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ

พื้นที่อันปลั๊ก

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่น่าจะลองพิจารณาก็คือ สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้สร้างภาพความเข้าใจพื้นฐานต่อโลกและชีวิตแก่เด็กอย่างไร

แน่นอนว่าเดี๋ยวนี้เราเปิดเพลงจากสมาร์ทโฟนได้ แต่คงไม่มีเพลงไหนที่มีความหมายกับลูกเท่าเพลงที่แม่ร้อง ยิ่งสำหรับเด็กเล็ก ริมฝีปากแม่ที่ขยับพร้อมกับมีเสียงเพลงออกมาจากหัวใจ ช่วยให้เขาเรียนรู้ภาษาในรูปแบบที่เป็นการสื่อสารที่มีความหมายอย่างแท้จริง

ทุกบ้านใช้เครื่องซักผ้า แต่จะมีสักช่วงเวลาได้ไหมให้เด็กได้นั่งลงขยี้ผ้าเล่นฟองในกะละมัง ให้เขาเรียนรู้ว่าเสื้อผ้าสะอาดด้วยกำลังมือกำลังแขนของเขาก็ได้ ไม่ใช่เพียงการโยนผ้าเข้าไปในเครื่องสี่เหลี่ยมแล้วออกมาสะอาดเลย

ทุกบ้านมีเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า แต่เด็กจะเข้าใจได้ไหมว่าความร้อนที่ทำให้อาหารสุกนั้นเกิดขึ้นมาจากไหน หากไม่เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านมากเกินไป อาจมีบางวันที่พ่อแม่นึกสนุก ชวนลูกจุดเตาถ่านทำขนม

กิจกรรมอันปลั๊กเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่จะช่วยให้เด็กเห็นว่าโลกนี้เป็นไปอย่างไร ด้วยภาพที่เข้าใจได้มากกว่าการเสียบปลั๊กกดปุ่ม และเพราะเด็กๆ เรียนรู้จากการลงมือทำ จึงช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกได้ที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปหากิจกรรมนอกบ้านให้สิ้นเปลืองเงินทอง

การจัดพื้นที่ในบ้านเพื่อการใช้งานร่วมกันของเด็กและผู้ใหญ่ อาจสรุปได้เป็นสามข้อสั้นๆ คือ ปลอดภัย ช่วยเหลือตัวเองได้ และดึงธรรมชาติเข้าใกล้ตัว จากนั้นผู้ใหญ่เพียงเปิดหูเปิดตาเปิดใจ ให้เวลา รับฟัง และสังเกต เราก็จะได้พบช่วงเวลามหัศจรรย์แห่งการเติบโตของมนุษย์ เราไม่จำเป็นต้องเร่งรัดให้เด็กโต แต่ควรให้เขามีประสบการณ์กับพัฒนาการแต่ละขั้นของเขาเองอย่างเต็มที่ เพราะวัยเด็กผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่อาจย้อนไปแก้ไขอะไรได้

ใครกำลังวางแผนออกแบบห้องให้เด็กๆในบ้าน ลองหาอ่านเรื่องการจัดพื้นที่ในบ้านสำหรับเด็กเพิ่มเติมได้ใน หนังสือ “บ้านนี้มีเด็ก” สำนักพิมพ์บ้านและสวน

สั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ : https://www.facebook.com/Baanlaesuanbooks/

 

เรื่อง : “ลัญชนา ศาสตร์นุ”

ภาพ: คลังภาพบ้านและสวน