การมาถึงของสัญญาณไร้สายที่เร็วระดับแสง

สิ่งที่หลายคนมองหาจากร้านกาแฟยุคนี้อาจไม่ใช่เมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจ หากแต่เป็นรหัส Wi-Fi ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาออกไปท่องโลกโซเชียลกันได้อย่างสนุก และหลายครั้งก็สร้างความบันเทิงได้มากกว่าเครื่องดื่มในแก้วที่สั่งมาด้วยซ้ำ แต่ก็บ่อยครั้งที่ผู้ใช้สัญญาณ Wi-Fi มักจะพบกับปัญหาในเรื่องความแรงของการดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลที่ช้าไม่ทันใจคนยุคดิจิทัลเอาเสียเลย

ก็เพราะว่า Wi-Fi เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลต่างๆ ผ่านทางคลื่นวิทยุซึ่งเรานิยมใช้กันมากในปัจจุบัน มากจนต้องหาทางขยายคลื่นความถี่เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นสูงในทุกวันเช่นกัน ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า Li-Fi ขึ้น โดยนำแสงมาใช้งานแทนคลื่นวิทยุซึ่งให้ความรวดเร็วกว่า Wi-Fi เป็นร้อยเท่า!

สัญญาณไร้สาย
https://thehackernews.com/

Li-Fi ย่อมาจาก Light Fidelity เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วยแสงที่สามารถมองเห็นได้ (Visible Light Communications, VLC) และด้วยความเร็วที่สูงมาก พัฒนาขึ้นมาโดยศาสตราจารย์ แฮรัลด์ ฮาส นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันและผู้ชำนาญด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ประเทศสกอตแลนด์ ร่วมกับทีมงานนักวิจัยจากอีกหลายมหาวิทยาลัยดังทางฝั่งอังกฤษและ สกอตแลนด์ เมื่อราว 4 ปีที่แล้ว โดยใช้หลอดไฟแอลอีดีในการส่งสัญญาณข้อมูลคล้ายกับการส่งรหัสมอร์ส ซึ่งหลอดไฟแอลอีดีจะกะพริบด้วยความเร็วสูงมากในระดับเสี้ยววินาที (Nanosecond) แบบที่สายตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นการกะพริบนี้ได้ ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปยังโฟโต้ดีเทคเตอร์ เพื่อรับสัญญาณแสงและแปลงค่าเป็นข้อมูลเลขฐานสองต่อไป

https://gudjzy.wordpress.com

สัญญาณไร้สายแบบ Li-Fi ยังล้ำด้วยความเร็วสูงถึง 224 กิกะบิต (Gigabit) ต่อวินาที เรียกว่าสามารถดาวน์โหลดหนังขนาด 1.5 GB จำนวน 18 เรื่อง ได้ใน 1 วินาทีเลยทีเดียว แต่อย่าเพิ่งคิดว่า Li-Fi จะเข้ามาแทนที่ Wi-Fi ได้ทั้งหมดในคราวเดียว เพราะแท้จริงแล้ว Li-Fi ก็ยังมีข้อจำกัดเฉพาะตัวอยู่เช่นกัน แม้ว่า Li-Fi จะสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่ถูกรบกวน แต่ด้วยความที่เป็นสัญญาณแสง จึงไม่อาจทะลุผ่านกำแพงห้องหรือผนังอาคารไปได้เหมือนคลื่นวิทยุ และใช้งานภายนอกในช่วงกลางวันก็ไม่ได้ เพราะต้องอาศัยหลอดแอลอีดีส่องสว่างตลอดเวลาและติดตั้งอยู่ในทุกพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน ซึ่งถ้าจะใช้ Li-Fi ในพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งก็คงต้องมีการคิดค้นและพัฒนาต่อยอดไปอีก แต่ข้อดีคือแฮกเกอร์ไม่สามารถจับคลื่นจากนอกอาคารได้ รวมถึงที่ที่ความสว่างเข้าไปไม่ถึงด้วยเช่นกัน ถือเป็นความปลอดภัยที่มีมากกว่า Wi-Fi อย่างชัดเจน

http://purelifi.com/

เชื่อว่าในอนาคตราว 2-5 ปีนี้ เราคงจะมีหลอดไฟแอลอีดีที่ทำหน้าที่ได้มากกว่าการส่องสว่างมาใช้งานกันแน่ๆ ส่วนที่ว่าต่อไปสัญญาณไร้สายจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดอีก ก็คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

http://purelifi.com/