สำหรับพรรณไม้ที่ครอบครัวนี้ชื่นชอบเป็นพิเศษ ได้แก่ เฟินสายพันธุ์ต่างๆ อย่างทรีเฟิน เฟินกนกนารี เฟินชายผ้าสีดา เฟินก้านดำ เฟินข้าหลวง เฟินปีกนก ฯลฯ มาประกอบกับไม้ยืนต้นให้ร่มเงา เช่น มะม่วงของสวนเดิม หมาก จิกเศรษฐี จันทน์ผา สัตบรรณ สิบสองปันนา ฯลฯ และเลือกปลูกมอสส์คลุมดินแทนการปูหญ้า เพราะได้สัมผัสที่ละเอียดนุ่มนวลกว่า รวมถึงช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวดิน ไม่เสียเวลาในการตัดแต่งอีกด้วย และยังสามารถปลูกในพื้นที่ร่มโดนแดดรำไรได้ดี
เมื่อถามถึงการดูแลสวนให้ดูเขียวขจี ได้บรรยากาศของระบบนิเวศในป่าเขาอย่างอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ คุณซายูตี – ศักดรินทร์ สาดและ ลูกชายของคุณฮับเซาะห์จึงเล่าเพิ่มเติมว่า
“จริงๆ เราจะมีพี่คนสวนช่วยดูแลเป็นประจำ คอยตัดแต่งต้นไม้ เก็บใบไม้แห้ง และกำจัดหอยทากที่พบได้บ่อย สำหรับการรดน้ำ เราติดตั้งสปริงเกลอร์พ่นไอหมอกอัตโนมัติทุก 3 ชั่วโมง วันละ 4 ครั้ง ร่วมกับการใช้สายยางรดน้ำต้นไม้ทุกต้นให้ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ พอมีเวลาว่างคุณแม่ก็ชอบชวนไปเดินแถวบางใหญ่ เลือกซื้อต้นไม้และของแต่งสวนมาเติมอยู่เรื่อยๆ สำหรับไม้ใหญ่ที่เห็นก็ได้จากคลอง 15 ซึ่งมีบริการขนย้ายมาปลูกให้ถึงที่ และรับประกันต้นไม้หากตายใน 3 เดือนอีกด้วยครับ”
ก่อนจากลา คุณฮับเซาะห์เล่าถึงแรงบันดาลใจของการจัดสวนทิ้งท้ายอย่างน่าประทับใจว่า
“พี่ชอบอยู่กับต้นไม้และเสียงน้ำ เมื่อนั่งเล่นอยู่ในบ้าน มองจากห้องนอนหรือทำอาหารอยู่ในครัวก็อยากเห็นวิวสวนสวยๆ เพราะมันเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งพี่เคยไปนอนพักที่น้ำตกทีลอซู อำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก ตอนนั้นเราสัมผัสได้ถึงความสุข ความสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกว่าชอบฟังเสียงของสายน้ำ รวมถึงลักษณะของธรรมชาติบริเวณนั้น เลยตั้งใจกลับมาทำน้ำตกเล็กๆ ไว้ที่บ้านของเราเอง สวนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ครอบครัวของเราขาดไม่ได้เลยค่ะ” (ยิ้ม)
เจ้าของ – จัดสวน : ครอบครัวมะแก้ว และครอบครัวสาดและ
เรื่อง : “อาภาศรี มีมานะ”
ภาพ : สิทธิศักด์ น้ำคำ