Tropical House of Phangan มุมสงบแห่งท้องทะเล
เรือเฟอร์รี่เทียบที่ท่าเรือท้องศาลา แดดแรงของพะงันขับทุกองค์ประกอบเมืองให้กลายเป็นเส้นคม ชาวต่างชาติเดินยิ้มแย้มคุยเล่นกันขณะขึ้นจากเรือ หลายคนมาเพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้อันโด่งดัง สถานที่แห่งนี้ไม่เคยห่างหายจากเสียงอึกทึก แต่…จุดหมายของเรานั้นต่างออกไป เรากำลังจะไปยังอีกฟากหนึ่งของเกาะ ที่ซึ่งมีแต่บ้านเรือนและหาดทรายอันเงียบสงบ เรากำลังจะไปที่อ่าวหินกองกันครับ
“จากท้องศาลาให้ขับขึ้นเหนือมาทางซ้ายเลาะริมหาดมาเรื่อยๆพอถึงสามแยกก็เจอเลยจ้ะ” คุณเข็ม – ณฐกร พรหมเจริญ เจ้าของบ้าน บอกทางมาสู่บ้านหลังนี้ทางโทรศัพท์ด้วยสำเนียงแหลงใต้ชัดเจน แต่เราขับเลยไปเล็กน้อยก่อนจะถอยรถกลับมาเพราะความร่มครึ้มของต้นไม้นานาพรรณจนทำให้มองไม่เห็นตัวบ้านนั่นเอง
“คุณชาลีชอบสวนรกๆ แน่นๆ คนข้างนอกจะได้ไม่เห็นเรา และยังให้บรรยากาศแบบทรอปิคัลดีนะ นั่นคือสิ่งที่ทำให้บ้านนี้เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ”
“ทรอปิคัล” เป็นคำที่คุณเข็มนิยามถึงบ้านหลังนี้ บ้านไม้ซึ่งปลูกเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านสู่หลังบ้าน ยกเพดานสูง มีพื้นที่เปิดถึงกันหมดตั้งแต่ห้องรับแขก โถงบันได ครัว ออกไปสู่นอกชานและยาวลงทะเลไปเลย บ้านหลังนี้ต้อนรับธรรมชาติเข้าสู่ทุกพื้นที่ได้เป็นอย่างดี เพราะตลอดแนวของตัวบ้านนั้นเป็นหน้าต่างและประตูแทบทั้งสิ้น ทุกพื้นที่ในบ้านจึงแนบสนิทกับแมกไม้น้อยใหญ่ได้อย่างลงตัว ให้บรรยากาศแบบสวรรค์แดนใต้อย่างเกาะตาฮีตีอย่างไรอย่างนั้น
สำหรับการออกแบบทางสัญจรในบ้านจะเป็นระเบียงยาวทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง สามารถเข้าถึงทุกส่วนของบ้านได้โดยง่าย อันที่จริงบ้านนี้ดูคล้ายรีสอร์ต เพราะคุณเข็มและ คุณชาลี โบเนลโล่ ต้องการให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของทั้งสองคนและเพื่อนๆ ของคุณชาลีในยามที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน
วัสดุในบ้านจะเน้นการใช้ไม้ ทั้งตัวบ้านเองและเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าทั้งหลาย ซึ่งก็เข้ากันดีกับการเข้าไม้ในรายละเอียดของส่วนต่างๆ ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่บ้านอยู่ติดทะเล การปล่อยให้งานไม้บางส่วนมีร่องรอยบ้างก็สร้างเรื่องราวและความอบอุ่นได้อีกทางหนึ่ง เช่น ร่องรอยบนไม้ระเบียงสระว่ายน้ำที่อยู่ก่อนถึงทางเดินลงหาด
“อยู่ที่นี่เหมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อน” คุณเข็มกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเป็นวันปกติเวลาว่างๆ ก็จะชอบนอนดูทะเลอยู่ตรงชานรับแขก บ่อยครั้งก็มีเพื่อนๆของคุณชาลีแวะเวียนมาเยี่ยม ทำบาร์บีคิวกันบ้างหรือเข้าครัวบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กันตรงชานรับแขกนี้ ส่วนวันว่างของคุณชาลีก็มักเข้าไปอยู่ในสวน ปลูกต้นไม้ ดูแลต้นไม้ อยู่กับธรรมชาติของเขาไป”
คุณเข็มเล่าว่าพบกับคุณชาลีที่เกาะพะงันซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ และคุณชาลีก็หลงรักท้องทะเลแห่งนี้เสียแล้ว จึงได้เลือกที่ติดทะเลบริเวณอ่าวหินกองที่เงียบสงบเป็นที่ตั้งของบ้านหลังนี้ เธอและคุณชาลีใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ที่เกาะพะงันเป็นหลัก จะมีบ้างที่ต้องบินไปดูงานธุรกิจเสื้อผ้าของคุณชาลีที่ประเทศแอฟริกาใต้ บ้านแห่งการพักผ่อนหลังนี้จึงช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้อย่างชัดเจน
“ชวนมาถ่ายบ้านไว้ก่อน เพราะอีกไม่กี่ปีมันก็คงเปลี่ยนไป เราใช้ชีวิตอยู่กับบ้านทุกวันจริงๆ ขยับปรับเปลี่ยนมุมนั้นมุมนี้ไปเรื่อย บ้านมีก็ต้องใช้สิไม่ใช่ปล่อยเป็นมุมว่างๆ เฉยๆ เราอยากมีความทรงจำดีๆ กับบ้านหลังนี้เก็บไว้และอยากให้ผู้อ่านได้เห็นมันด้วย”
บ้านหลังนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของเจ้าของบ้านทั้งสองท่านในทุกจุด ทั้งของสะสมจากการเดินทางของคุณชาลี สิ่งละอันพันละน้อยที่ลอยมาจากทะเล และข้าวของเครื่องใช้ในมุมโปรดของแต่ละคน (เราประทับใจครัวเต็มรูปแบบของคุณเข็มเป็นอย่างมาก) ไม่บ่อยนักที่จะมีเจ้าของบ้านโทรศัพท์มาชวนเราไปเยี่ยมบ้านอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้ และบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง ทั้งอบอุ่นชวนฝันและเป็นบ้านที่แสนสบาย เพราะเมื่อได้นั่งลงบนโซฟาที่ชานรับแขก มองออกไปยังท้องทะเล เราถึงได้เข้าใจว่า เหมือนจะเอื้อมมือไปสัมผัสทะเลได้นั้น…เป็นอย่างไร
เจ้าของ : คุณชาลี โบเนลโล่ และคุณณฐกร พรหมเจริญ
เรื่อง : “วุฒิกร สุทธิอาภา”
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ