เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม อ้อมกอด และความห่วงใย สามารถถ่ายทอดเป็นบทกวีที่บอกเล่าถึงความสุขและคำว่า “ครอบครัว” ได้อย่างชัดเจน เราเชื่อเสมอว่าสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์หากมีการบ่มเพาะด้วยความรัก เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ จากที่เคยเป็นบ้านชั้นเดียวที่เจ้าของบ้าน คุณก้อย – อาชวี ณ นคร อยู่มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเวลาผ่าน สถานะเปลี่ยน โดยเฉพาะเมื่อเธอและสามี คุณแดง – ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบ้านเดิมให้เหมาะสมกับครอบครัวและการใช้งานใหม่ที่จะเกิดขึ้น
บ้านนี้อยู่ด้วยกันแบบครอบครัวใหญ่ ประกอบด้วยคุณแม่ (คุณรุ่งรังษี ณ นคร) น้องสาว 2 คน (ดร.ปิยพร – คุณณิชา ณ นคร) น้องนอต – กวิณ และ น้องนน – นวิน เหลืองนฤมิตชัย ลูกชายวัยกำลังซนซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การออกแบบพื้นที่จึงเน้นให้เชื่อมโยงกับหัวใจสองดวงน้อยๆ นี้มากยิ่งขึ้น คุณก้อยเล่าให้ฟังว่า
“คุยกับมัณฑนากรว่าเราอยากมีพื้นที่เผื่อไว้สำหรับให้ลูกๆ ได้ทำกิจกรรมในแบบของพวกเขาเอง เช่น เวลาที่มีเพื่อนๆ มาเล่นด้วยหรือมีปาร์ตี้กัน อยากให้ทุกอย่างปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ ที่สำคัญที่สุดคือมีที่เก็บของได้เยอะๆ เพราะบางทีมีติวหนังสือที่บ้าน เมื่อมีห้องนี้เพิ่มเข้ามาก็ตอบโจทย์ได้ดี”
คุณเล็ก – นภาภรณ์ โพธิ์รัชต์ มัณฑนากร เล่าถึงที่มาที่ไปของงานตกแต่งภายในให้เราฟังว่า “เดิมทีบ้านนี้มีสถาปนิกออกแบบตัวบ้านไว้อยู่แล้วตอนเราเข้ามาออกแบบก็อยู่ในช่วงที่งานโครงสร้างยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ จึงปรับเปลี่ยนบางอย่างให้มีการใช้งานสะดวกและทำให้บ้านดูอบอุ่นขึ้น เช่น ขยับระยะของบานหน้าต่างให้เปิดรับแสงได้ดีขึ้น สามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่ได้ด้วย ส่วนห้องเด็กเป็นสิ่งที่เราเพิ่มขึ้นมาจากของเดิม เพราะตอนที่เข้ามาออกแบบเด็กๆ ยังเล็กอยู่ก็คิดว่าน่าจะดีกว่าถ้ามีพื้นที่ที่คุณก้อยและคนในครอบครัวได้อยู่ใกล้กัน และเด็กๆ ก็มีพื้นที่เล่นได้อย่างเต็มที่”
การออกแบบพื้นที่ที่เตรียมไว้ตั้งแต่เริ่มต้นทำให้การใช้งานสะดวกและเป็นสัดส่วน โดยชั้นล่างจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แบ่งเป็นส่วนนั่งเล่น – รับแขก รับแขก มุมรับประทานอาหาร แพนทรี่และครัวไทยที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง รวมถึงห้องเด็กซึ่งสองหนุ่มน้อยมักใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางวัน ทั้งทำการบ้าน เล่นของเล่น และเป็นมุมนอนเล่น โดยไม่ลืมออกแบบให้มีมุมจัดเก็บของเล่นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ชั้นสองเป็นห้องนอนของคุณแม่และน้องสาว ส่วนชั้นสามเป็นห้องนอนใหญ่ของครอบครัวคุณก้อย ห้องทำงาน ห้องของเด็กๆ และห้องสมุด
ไม่ใช่แค่การใช้งานเท่านั้นที่ตอบโจทย์ แต่ความอบอุ่นเมื่ออยู่ในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญ บ้านนี้มีองค์ประกอบของงานตกแต่งที่ทำให้บ้านดูอุ่นตาอุ่นใจ โดยเฉพาะการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีนิวทรัล(Neutral) หรือโทนสีธรรมชาติอย่างสีครีม ขาว และเทาอ่อน และเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวต้องตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งครอบครัว เช่น โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 8 ที่นั่ง โซฟารูปตัวแอล (L) ขนาดใหญ่
คุณเล็กกล่าวเสริมอีกว่า“ตอนแรกเลยโจทย์ที่ได้มาจริงๆ คือบ้านสไตล์โมเดิร์น เจอเจ้าของบ้านฝั่งผู้ชายก่อน พอได้มาเจอคุณก้อยก็รู้สึกว่าทุกอย่างดูนุ่มนวลขึ้น เช่น รายละเอียดของงานหวายที่ทำให้บรรยากาศของบ้านดูสบายขึ้น แต่เจ้าของบ้านมีความชอบคล้ายกัน จึงใช้สีเป็นตัวเชื่อมโยงความชอบของทั้งคู่ เพราะสีที่เลือกจะเป็นโทนอ่อน ไม่หวานมาก”
อีกหนึ่งภาวะน่าสบายของบ้านนี้คือ ทุกส่วนการใช้งานออกแบบให้มองเห็นต้นไม้ภายนอก เพื่อดึงความสดชื่นสู่ภายในบ้าน ทำให้ทุกมุมของบ้านดูสบายตาและผ่อนคลาย
หากใช้หัวใจนำทางในการใช้ชีวิต เราเชื่อว่าจะทำให้ความเป็นอยู่ขับเคลื่อนไปในทิศทางแห่งความสุข บ้านจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ แต่ความเข้าใจและความรักที่มีต่อคนในครอบครัวคือหัวใจของบ้าน และเราเห็นสิ่งเหล่านั้นในบ้านหลังนี้ค่ะ
เจ้าของ : คุณอาชวี ณ นคร และ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย
สถาปนิก : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรภัทร์ อิงคโรจน์ฤทธิ์
มัณฑนากร : คุณนภาภรณ์ โพธิ์รัชต์
เรื่อง : “อัจฉรา จีนคร้าม”
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์ : สมบุญ กริ่งไกร