ดื่มด่ำชาในโรงเรือน Thé Teahouse

ดื่มด่ำชาในโรงเรือน Thé Teahouse

ร้านชา จาก ร้านชา อันโด่งดังด้วยสไตล์การตกแต่งแบบวิกตอเรียนผ่านลวดลายสวยๆ บนวอลล์เปเปอร์และเฟอร์นิเจอร์วินเทจพร้อมกับของตกแต่งที่บอกเล่าเรื่องชาจากอินเดียสู่ฝรั่งเศสรวมไปถึงการเลือกสรรชาคุณภาพ ทำให้ Thé Teahouse กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวแถวหัวหินที่ใครขับผ่านก็ต้องแวะเข้าไปชิมและชมสักครั้ง

Thé Teahouse

ร้านชา แต่ตอนนี้ ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงหัวหินก็สามารถดื่มด่ำชาคุณภาพที่ Thé Teahouse เลือกสรรมาจาก Mariage Frères (มาคิยาจ แฟรส์) ของฝรั่งเศสซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาที่ดีที่สุดในโลกได้แล้วจากสาขาใหม่ล่าสุดที่ ช่างชุ่ย Creative Space แห่งใหม่ของย่านฝั่งธนบุรี

และเพื่อให้กลมกลืนไปกับบริบทของความเป็นช่างชุ่ย Thé Teahouse จึงปรับปรุงโฉมนิดหน่อยโดยเลือกใช้โรงเรือนกระจกหรือ Glass House มาเป็นโครงสร้างหลักของร้าน แล้วเน้นผนังกระจกที่สูงโปร่งตาจากพื้นจรดเพดานเชื่อมมุมมองระหว่างภายนอกกับภายในให้ต่อเนื่องกัน บริเวณพื้นตกแต่งด้วยกระเบื้องลายโบราณที่เรียกความสนใจได้ดีตั้งแต่เมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ยังไม่รวมถึงความรู้สึกตระการตาจนต้องหยุดมองรอบๆ ร้านอีกสักหนึ่งอึดใจ เพราะที่นี่เป็นโรงเรือนซึ่งผสมผสานงานศิลปะที่แตกต่างได้อย่างมีชีวิตชีวาจริงๆ

ตั้งแต่โคมไฟศิลปะจากเศษเหล็ก ผลงานของดีไซเนอร์สาว ปิ่น-ศรุตา เกียรติภาคภูมิที่ประดับตกแต่งเพดานซึ่งเปิดเปลือยจนมองเห็นท่อแอร์แบบอินดัสเทรียล ดูตัดแย้งอย่างตั้งใจกับความสดชื่นจากต้นไม้ใบสีเขียวที่ตกแต่งไว้รอบๆ ร้าน รวมถึงความสวยหวานจากเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ โดยมีกล่องกระจกใสกลางร้านเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางงานศิลปะซึ่งจำลองอารมณ์หนึ่งของธรรมชาติกลางป่ามาไว้เป็นไฮไลต์ให้สามารถชื่นชมได้จากมุมดื่มชาต่างๆ ภายในร้าน

เพื่อจะได้ซึบซับบรรยากาศที่แปลกใหม่แฝงความเป็นธรรมชาตินี้ให้ละเอียดขึ้นไปอีก ต้องดื่มด่ำไปกับชารสเยี่ยมซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของ Thé TeahouseโดยเฉพาะชุดThé Afternoon Tea Set ในราคา890 บาท พร้อมขนมชุด High Tea มาเป็นของแกล้มคุณสามารถเลือกชาที่ชอบได้จากกลิ่นชาตัวอย่าง  ซึ่งมีตั้งแต่ Marco Polo ชาดำเบลนด์กับดอกไม้หายากของจีนกับทิเบตและเป็นชาตัวเดียวกับที่ใช้เสิร์ฟในทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งให้รสสัมผัสคล้ายช็อกโกแลต คาลาเมล รัม และวานิลลาผสมผสานกัน Darjeeling Himalay ชาหอมอ่อนๆ คล้ายผลองุ่นที่ได้จากยอดใบชาเพียง 2 ใบแรกของทุ่งชาบนเทือกเขาหิมาลัย Blanc & Rose ชาขาวเบลนด์กับกุหลาบสีชมพูให้กลิ่นหอมกุหลาบชัดเจนThésur le Nil ชาสีเขียวจากลุ่มแม่น้ำไนล์ปรุงด้วยกลิ่นซิตรัส  Earl Grey Imperial ชาดำจากดาร์จีลิ่งที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิเบลนด์กับมะกรูดThé à l’opéraชาเขียวเบลนด์กับผลเบอร์รี่เพิ่มกลิ่นวานิลลา Rouge Bourbon ชาแดงชั้นเลิศจากแอฟริกาที่เบลนด์กับวานิลลาจากมาดากัสการ์ เป็นชาแบบไม่มีคาเฟอีน จึงเหมาะกับการดื่มสบายๆ ในช่วงเย็น

ร้านชา

ร้านชา เวลาเสิร์ฟชา พนักงานในชุดแต่งกายน่ารักก็จะนำนาฬิกาทรายมาวางที่โต๊ะให้ด้วย เพื่อจับเวลาการอุ่นชาในน้ำร้อนให้เหมาะสมก่อนริน ทำให้ได้รสชาติที่หอมกลมกล่อมพอดีดื่ม โดยในระหว่างรอก็ยังสามารถสานต่อบทสนทนาได้อย่างไม่ขาดช่วง จนกว่าทรายเม็ดสุดท้ายจะหล่นลงมาอย่างครบถ้วน คุณก็สามารถรินชาหอมลงถ้วยได้ทันที นี่เองคือเสน่ห์ที่แฝงอยู่ในการดื่มชา นอกเหนือไปจากรสชาติและสรรพคุณอันหลากหลาย ลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้ที่ Thé Teahouse ช่างชุ่ยถนนสิรินธร โทรศัพท์06-2619 – 6600

อ่านต่อ : CHANGCHUI – 3 เหตุผล…ทำไมต้องไป “ช่างชุ่ย”

 

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข