อาคารพาณิชย์หรือตึกแถวเป็นรูปแบบหนึ่งของ “บ้าน” ที่นิยมเมื่อ 30-40 ปีที่แล้วของคนจำนวนมาก โดยใช้พื้นที่ชั้นล่างเพื่อค้าขายและชั้นบนเป็นที่พักอาศัย คุณพิสุทธิ์เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในบ้านคูหาเดียว 2 ชั้น กับคุณแม่และน้องชาย พร้อมเปิดร้านขายเบเกอรี่ เดิมคุณพิสุทธิ์เป็นเชฟในโรงแรมห้าดาว แต่เพื่อต้องการสานต่อความฝันของคุณพ่อซึ่งเสียชีวิตแล้ว… ว่าจะทำร้านเบเกอรี่ของตัวเองให้เป็นร้านที่ดีที่สุดในย่านนี้ พร้อมกับดูแลคุณแม่ที่ต้องอยู่คนเดียวควบคู่กันไปจึงลาออกมาช่วยงานที่บ้าน แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยในบ้านไม่เอื้ออำนวย ทีมงาน Home Service จึงต้องแก้โจทย์เพื่อดีไซน์บ้านใหม่ให้เหมาะสมต่อการทำธุรกิจและเป็นที่พักอาศัย ในแบบฉบับของอาคารพาณิชย์
โจทย์ที่ท้าทาย โดยมีเป้าหมายในการปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่าง ที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียง36ตารางเมตรของคุณพิสุทธิ์ ให้ตอบโจทย์ที่พักอาศัยที่ตรงกับความต้องการของทุกคนในบ้าน และเหมาะสำหรับการทำธุรกิจร้านเบเกอรี่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ปัญหาหลักที่ทีมงาน Home Serviceพบหลังจากสำรวจห้องชั้นล่างของคุณพิสุทธิ์ก็คือการใช้สอยพื้นที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากพื้นที่ชั้นล่างทั้งชั้นใช้เป็นทั้งหน้าร้านขายของ มุมพักผ่อน รับประทานอาหาร ทำงาน เก็บของ และทำขนม โดยเฉพาะการอบขนมที่ใช้ความร้อนสูง เมื่อการถ่ายเทอากาศในบ้านไม่ดีจึงส่งผลให้ร้อนอบอ้าวไปทั่วบ้าน อีกทั้งหน้าบ้านที่มีลักษณะเปิดโล่ง เมื่อมองจากด้านหน้าร้านจะสามารถเห็นพื้นที่ภายในบ้านได้ทั้งหมด ทำให้การใช้ชีวิตของสมาชิกในบ้านไม่มีความเป็นส่วนตัว
เมื่อทราบปัญหาทั้งหมดแล้วทีมงานHome Serviceจึงลงมือออกแบบพื้นที่ โดยปรับเปลี่ยนสัดส่วนพื้นที่ให้เหมาะสมกับฟังค์ชั่นการใช้งานประจำวันของสมาชิกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น พื้นที่ส่วนแรกที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ พื้นที่ทำขนมซึ่งอยู่ด้านในสุดของบ้าน ที่นอกจากจะส่งความร้อนให้บ้านร้อนอบอ้าวทั้งหมดแล้ว พื้นที่นี้ยังใช้ในการทำอาหาร รวมทั้งใช้เป็นที่ซักผ้าและตากผ้าซึ่งดูแล้วไม่ถูกสุขลักษณะนัก ทีมงานจึงปรับย้ายพื้นที่สำหรับทำขนมทั้งหมดไปอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเดิมใช้วางโต๊ะทำบัญชีและชั้นวางขนมซึ่งมีของอยู่ระเกะระกะแทน
ส่วนทำขนมที่ปรับย้ายมานี้ ทีมงานได้ดีไซน์โดยกั้นเป็นห้องกระจกใสแบบ open kitchen สมัยใหม่ไว้ด้านหน้า โดยแบ่งพื้นที่ย่อยเป็น 2 โซน คือ โซนร้อนและโซนเย็นสำหรับโซนร้อนใช้อบขนมจะอยู่ด้านหน้าร้านเพื่อให้กลิ่นหอมของขนมอบใหม่ดึงดูดลูกค้า โดยติดตั้งพัดลมดูดอากาศช่วยระบายความร้อนให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างโซนร้อนอบขนมกับโซนเย็น ซึ่งใช้เป็นส่วนเตรียมทำขนมและแต่งหน้าเค้กออกจากกัน พร้อมติดฟิล์มอำพรางสายตาในบางส่วนของห้อง ทำให้ร้านดูโปร่งสบายตา ขนมที่จัดวางก็ดูน่ารับประทานขึ้น ลูกค้าที่ผ่านไปมาสามารถมองเห็นการทำขนมได้ทุกขั้นตอน ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าและสร้างความมั่นใจว่าขนมที่ขายในร้านนี้สดใหม่อยู่เสมอ
Before พื้นที่ด้านหลังที่เดิมใช้เป็นพื้นที่ทำขนม ทำอาหาร และเป็นที่ซักผ้าตากผ้า ดูระเกะระกะไม่เป็นสัดส่วน
Afterย้ายส่วนอบขนมมาไว้บริเวณหน้าร้าน และติดตั้งพัดลมดูดอากาศระบายความร้อน
After กั้นส่วนทำขนมเป็นห้องกระจกใสแบบ open kitchen ช่วยให้ร้านดูโล่ง โปร่ง สบายตา และมีพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วน
Before ส่วนทำความสะอาดและชั้นวางของที่ตั้งรวมกัน
Afterติดตั้งเคาน์เตอร์และชั้นติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่สำหรับจัดวางของแยกเป็นหมวดหมู่
พื้นที่ส่วนที่ 2 คือ การจัดวางสินค้าที่ตั้งซ้อนเรียงรายบริเวณด้านหน้าร้าน ทีมงานได้จัดวางตู้กระจกดีสเพลย์เพื่อให้เบเกอรี่สวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้น และปรับพื้นที่บริเวณหน้าร้านให้เป็นช่องทางเดิน ทำให้ร้านดูโปร่งและกว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งโครงชั้นดีสเพลย์วางขนมตลอดผนัง เพิ่มลูกเล่นให้การจัดวางสินค้าดูสวยงามและน่าสนใจ ทั้งยังเพิ่มความทันสมัยด้วยการติดตั้งจอโทรทัศน์ตรงบริเวณชั้นวางสินค้า สำหรับฉายภาพเบเกอรี่ชนิดต่างๆ ที่ร้านจำหน่าย เพื่อเชิญชวนและกระตุ้นการซื้อให้ดียิ่งขึ้น
Before พื้นที่หน้าร้านเปิดโล่ง เมื่อมองเข้าไปจะสามารถเห็นภายในร้านได้ทั้งหมด สมาชิกในบ้านไม่มีความเป็นส่วนตัว
Afterย้ายส่วนทำขนมมาอยู่ในห้องกระจกใสด้านหน้าร้าน และเพิ่มความน่าสนใจให้สินค้าด้วยตู้กระจกดีสเพลย์
พื้นที่ส่วนกลางทีมงานได้จัดการปรับปรุงพื้นที่พักผ่อนให้เป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยย้ายตี่จู่เอี๊ยะที่เคยอยู่บริเวณหน้าร้านมาตั้งในบ้าน และจัดสรรพื้นที่บริเวณกลางห้องให้สมาชิกสามารถรับประทานอาหารร่วมกันได้ทั้งครอบครัว รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับจัดวางโซฟาที่มุมขวาเพื่อให้คุณแม่ได้ใช้พักผ่อนในช่วงกลางวัน ซึ่งเดิมใช้เตียงพับกางนอนบริเวณใต้บันได
ส่วนพื้นที่ด้านในสุดที่เดิมใช้วางเตาอบขนมก็ปรับปรุงเป็นที่เก็บของใช้ภายในบ้านอย่างเป็นสัดส่วน โดยติดตั้งประตูเลื่อนกั้นบริเวณนี้ ทำให้โซนพักผ่อนส่วนกลางมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
หัวใจสำคัญของการปรับปรุงพื้นที่บ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะการประกอบธุรกิจบริเวณชั้นล่างของบ้าน คือ ให้มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สบาย และแยกส่วนให้เหมาะสมกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน นอกจากทำให้บ้านสวยงาม มีพื้นที่ใช้งานเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่และสมาชิกในบ้านมีความสุขยิ่งขึ้น
สำหรับท่านที่มีปัญหากับการปรับบ้าน สามารถเข้ามาปรึกษากับเคาน์เตอร์ทีม Home Serviceที่ Home Proได้ทุกสาขา และสามารถชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://bit.ly/EP02-SS2-HomeMakeOverTV มาทำบ้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอยู่และเต็มไปด้วยความสุขที่โฮมโปรกันเถอะ
