การเลือกเชือก
อ่านเพิ่มเติม: เลือก พุก ให้เหมาะกับการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม: ดอกสว่าน เลือกให้ถูก ใช้ให้เป็น
อ่านเพิ่มเติม: ถุงมือสำหรับงานช่าง
อ่านเพิ่มเติม: เลือก พุก ให้เหมาะกับการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม: ดอกสว่าน เลือกให้ถูก ใช้ให้เป็น
อ่านเพิ่มเติม: ถุงมือสำหรับงานช่าง
No related posts.
การตัดแต่งหญ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สนามหญ้าหน้าบ้านมีความสวยงาม ซึ่งหญ้าในแต่ละประเภท ก็มีประโยชน์และรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน
การใช้เครื่องปรับอากาศจะช่วยแก้ปัญหาความร้อนในส่วนที่การออกแบบตามธรรมชาติทำได้ไม่เพียงพอ โดยมีวิธีเลือกและติดตั้งเบื้องต้นที่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้มีประสิทธิภาพ ช่วยไม่ให้เปลืองค่าไฟโดยไม่รู้ตัว 1.เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม การเลือกแอร์และติดตั้ง จำนวนและขนาดของหน้าต่าง หลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่ จำนวนคนใช้งานในห้อง จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง ความสูงฝ้าเพดาน ทำไมต้องเลือก BTU ให้พอเหมาะ BTU สูงไป คอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อยเกินไป มีผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง เมื่อเครื่องตัดบ่อยทำให้ความชื้นในอากาศสูงกว่าที่ควร อาจรู้สึกไม่สบายตัว อีกทั้งเครื่องก็มีราคาแพงกว่า BTU ต่ำไป คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา เพราะอุณหภูมิไม่ได้ตามที่ตั้งไว้ จึงไม่เย็นหรือเย็นช้า ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และเครื่องปรับอากาศเสียเร็ว 2.เลือกประเภทเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน แบบติดผนัง นิยมใช้ในบ้านที่สุด เหมาะกับห้องขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นประเภทที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย ขนาดเล็กกะทัดรัด และราคาไม่แพง แบบแขวนใต้ฝ้า เหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีคนอยู่หนาแน่น เช่น ร้านค้า ห้องอาหาร สำนักงาน สามารถกระจายลมเย็นได้ไกลและทั่วถึงกว่า ทนต่อการใช้งานหนัก และการทำงานของเครื่องมีเสียงดังกว่าแบบติดผนัง (บางแบบสามารถติดตั้งแบบวางบนพื้นได้) แบบฝังฝ้า เป็นเครื่องปรับอากาศที่กระจายลม 4 ทิศทาง เหมาะกับห้องที่เน้นความสวยงามเพราะจะเห็นตัวเครื่องน้อยที่สุด เดินท่อน้ำยาและท่อน้ำทิ้งซ่อนไว้บนฝ้าเพดาน จึงควรตัดสินใจเลือกตั้งแต่ก่อนก่อสร้างบ้าน เพราะต้องออกแบบฝ้าเพดาน งานระบบท่อและโครงสร้างให้รองรับการติดตั้ง ราคาเครื่องต่อบีทียูแพงกว่าประเภทอื่น แบบตู้ตั้งพื้น เหมาะกับพื้นที่มีคนหนาแน่น ห้องประชุม หรือห้องโถงขนาดใหญ่ มีประสิทธิภาพการกระจายลมสูง […]
สิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านไม่อยากพบเจอคือ ผนังเก่า สีเริ่มซีดจาง ลอกล่อนเป็นฝุ่นผง เกิดคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ ยิ่งถ้าหากผนังในบริเวณนั้นสัมผัสกับความชื้น น้ำ และแสงแดด ก็จะยิ่งแสดงผลให้เห็นชัดและเร็วขึ้น อาการเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณว่าสีทาบ้านเริ่มเสื่อมสภาพ ถึงเวลาต้องทาสีใหม่แล้ว ต้องทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่า อายุการใช้งานของสีแต่ละเกรดนั้นยาวนานไม่เท่ากันเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 5-15 ปี ยิ่งอยู่ในบริเวณที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงด้วยแล้ว ยิ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้สีเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ดังนั้นสำหรับผนังภายนอก การเลือกสีทาบ้านที่มีความทนทานต่อสภาวะอากาศ ทั้งแดด ทั้งฝน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของบ้านต้องพิจารณาร่วมด้วย ในขณะเดียวกัน ผนังภายในบ้านที่อาจจะไม่เห็นการเสื่อมสภาพด้วยตาเปล่า แต่เมื่อลองใช้มือถูหรือใช้ผ้าเช็ดจะมีฝุ่นผงหลุดล่อนติดมาด้วย นั่นก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าสมควรแก่การทาสีผนังใหม่แล้วเช่นกัน ซึ่งในกรณีทาสีบนผนังหนังเก่าเช่นนี้ ขั้นตอน “การเตรียมพื้นผิวก่อนการทาสี” มีความสำคัญมาก เพราะหากผนังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะทาสีใหม่อีกรอบ ปัญหาฟิล์มสีลอกล่อนก็จะตามมาเช่นเดิม ฉะนั้นมาดูกันว่าการเตรียมพื้นผิวผนังให้พร้อมสำหรับการทาสีใหม่อีกรอบต้องตรวจสอบตรงไหนอย่างไรบ้าง 1. ให้สำรวจผนังและซ่อมแซม ในขั้นตอนของการฉาบปูนหากช่างไม่มีความชำนาญ บ่มปูนไม่ดี นอกจากจะเกิดปัญหารอยแตกลายงาตามมาแล้ว ยังอาจทำให้เกิดคราบเกลือบนผนัง ที่มีสาเหตุมาจากปูนสะสมความชื้นไว้แล้วค่อย ๆ คายออก หรือปัจจัยทางธรรมชาติอื่น ๆ เช่น เกิดคราบตะไคร่น้ำเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงต้องสัมผัสกับความชื้น เกิดปัญหาสีหลุดร่อนเพราะความชื้นสะสมจากดิน หากผนังมีร่องรอยความเสียหายเหล่านี้ให้ทำการซ่อมแซมส่วนนี้ก่อนเป็นอันดับแรก 2. ตรวจสอบคุณภาพของผนังปูน ก่อนทาสีต้องมั่นใจว่าทั้งค่าด่างและค่าความชื้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามธรรมชาติของปูนเมื่อได้รับความชื้นจากสภาพอากาศจะเกิดความเป็นด่างทำให้ผนังเกิดคราบเกลือชัดเจน จึงควรเช็คสภาพค่าความป็นด่างของพื้นผิวโดยใช้กระดาษลิสมัต (Litmus Paper) […]
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 0-2422-9999 ต่อ 4220
Email : baanlaesuanweb@amarin.co.th
0-2422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น)
bdcx@amarin.co.th