หนึ่งในองค์ประกอบของบ้านที่กินพื้นที่มากเป็นพิเศษก็คือ หลังคา เพราะหลังคานั้นต้องผจญกับสภาพอากาศที่แตกต่างกันตลอดทั้งปี รวมถึงแสงแดดอันร้อนแรง เพราะฉะนั้นทั้งความทนทานและสวยงามจึงต้องมาคู่กัน วันนี้บ้านและสวนจึงอยากขอแนะนำเทรนด์หลังคาที่มาแรงอย่างแน่นอนในปี 2561 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น…ไปดูกัน
1. นวัตกรรมคืนสู่ธรรมชาติ: Innovative Natural Roof
ความโหยหางงานหัตถศิลป์อันเปี่ยมคุณค่าสร้างให้เกิดกระแส Craft Revival ขึ้นทั่วโลกในปี 2560 และในปี 2561ที่จะมาถึงนั้น งาน Craft ต่างๆ คงจะก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำเอาวัสดุ หรือองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมผสมผสานรวมไปกับคำว่านวัตกรรม ซึ่งวัสดุก่อสร้างก็เช่นเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น วัสดุก่อสร้างต่างๆ จึงถูกปรับปรุงคุณลักษณะให้ใช้งานได้ดีขึ้นโดยยังสามารถคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์และอารมณ์ที่น่าใช้ในความ Craft ได้ดั่งเดิม เช่นหลังคา Zedar Shake จาก เฌอร่า ที่มีการออกแบบวัสดุให้มีความคล้ายไม้จริงอย่างมาก ไม่ว่าจะในแง่ของสีสันหรือเนื้อวัสดุที่ใช้เทคนิคการผสมสีในเนื้อกระเบื้อง(Color Through) ทำให้กระเบื้องมีสีที่ติดทนนานไม่ซีดจางแลดูมิติของความเป็นไม้ มีความแตกต่างกันในแต่ละแผ่นกระเบื้องดูลงตัวเป็นธรรมชาติ อีกทั้งในแง่ของขนาดและการติดตั้งยังออกแบบให้มีขนาดที่หลากหลาย เพื่อให้รองรับกับการออกแบบจังหวะของการจัดวางได้เหมือนกระเบื้องไม้ Cedar แบบดั้งเดิม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เพื่อการกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ แต่เพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีขึ้นนั่นเอง
2. นวัตกรรมหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์: Energy Roof
นอกจากกระแสความนิยมในแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น Solar City บริษัทในเครือของ Space X และ Tesla ยังได้ออกทางเลือกของวิกฤติพลังงานที่ลงตัวกว่าเดิมออกมา นั่นก็คือ “กระเบื้องหลังคาที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าได้” โดยใช้ชื่อว่า Solar Roof ความพิเศษก็คือ Solar Roof สามารถใช้ทดแทนกระเบื้องหลังคา Shingle รูปแบบเดิมๆ ได้ทันที ด้วยรูปทรงเดียวกับกระเบื้องหลังคาแบบดั้งเดิม ทาให้ในพลังงานทางเลือกแห่งอนาคตนั้นสามารถเข้ามาอยู่ในบ้านของเราได้ โดยแทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองจึงแน่ใจได้เลยว่า ปี 2561 นี้เราจะได้เห็นพลังงานทางเลือกในรูปแบบหลังคาอีกมากมายอย่างแน่นอน
3. ป้องกันมากกว่า เข้าใจภูมิอากาศมากกว่า : Double Roof
ด้วยความรุนแรงของสภาพภูมิอากาศและแสงแดดที่นับวันจะเจิดจ้ายิ่งๆขึ้นไป หลังคาชั้นเดียวจึงอาจจะไม่พอ การออกแบบหลังคาสองชั้นจึงเข้ามาช่วยทาหน้าที่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งป้องกันการส่งผ่านความร้อนได้มากกว่า และยังมีพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกระหว่างแผ่นหลังคาทั้งสองแผ่นอีกด้วย เป็นการลดความร้อนด้วยความเข้าใจในลักษณะภูมิอากาศแบบ Tropical ไทยเรานี่เอง
4. โปร่ง โล่ง เสมือนไร้หลังคาบดบัง : Transparent Roof
และสุดท้ายกับเทรนด์หลังคาที่ค้านความคุ้นชินซักเล็กน้อยกับหลังคาโปร่งใส ปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุโปร่งใสสำหรับงานก่อสร้างนั้นมีการพัฒนาไปอย่างมากทั้งในด้านความแข็งแรง หรือจะคุณสมบัติที่น่าสนใจต่างๆเช่นแผ่นหลังคา Acrylic ที่เพิ่มคุณลักษณะในการป้องกันความร้อนได้ดีขึ้นกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก ทำให้ในปัจจุบันการทำหลังคาโปร่งใสเช่นนี้สามารถใช้ได้จริงในประเทศไทยที่แสงแดดช่างร้อนแรง ตอบสนองต่องานออกแบบที่ต้องการแสดงถึงเส้นสายที่สบายตา ไม่ทึบตัน
5. ให้นวัตกรรมนำพาธรรมชาติกลับสู่บ้านของคุณ
แต่ถึงกระนั้น เทรนด์หลังคาที่มาแรงที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องของการสร้างนวัตกรรมที่ทำให้เรารู้สึกคุ้นเคย และผ่อนคลายไปกับความเป็นธรรมชาติ เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยนั้น ลักษณะเด่นในความกลมกลืนกับธรรมชาติของวัสดุที่มาจากไม้ก็ยังคงเป็นความ Luxury ในแบบไทยๆที่ใครๆต่างก็ถวิลหา จะดีซักแค่ไหนถ้าความเป็นธรรมชาติเหล่านั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่แฝงอยู่ในตัววัสดุ ความทนทาน น่าใช้ และเป็นธรรมชาติซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในหลังคา Zedar Shake จาก เฌอร่า ให้ความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติด้วยประสิทธิภาพที่มากกว่า อย่างนี้แล้วจะลองเลือกนวัตกรรมเพื่อคืนธรรมชาติสวยๆสู่บ้านของคุณดูไหมล่ะครับ