พื้นที่แถบถนนแฮมิลตัน เทอร์เรซ มีภูมิทัศน์เป็นเนินเตี้ยๆ เป็นเขตที่อยู่อาศัยเก่าแก่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหานครลอนดอน สองข้างของถนนมีแต่บ้านรุ่นเก่า อายุกว่าร้อยปี ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยราคาค่อนข้างแพงแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ
บ้านหรือที่เรียกกันว่า “เทอร์เรซเฮ้าส์”ในย่านนี้มีลักษณะเหมือนบ้านแฝด ปรากฏให้เห็นเกือบตลอดถนน บ้านหลังที่เราจะมาชมนี้ก็เช่นกันเป็นบ้านสี่ชั้น แต่เมื่อมองจากหน้าบ้านจะเห็นแค่สามชั้น เพราะชั้นล่างสุดอยู่ต่ำกว่าระดับถนน
เจ้าของบ้านคือ คุณมีมี่ ลิปตัน อาศัยอยู่กับสามี คุณฮันส์เจอร์จ?เมเยอร์ ที่บ้านหลังนี้มาหลายสิบปีแล้ว คุณมีมี่เล่าว่า
“แรกๆ ที่มาอยู่ เราเช่าได้แต่เฉพาะชั้นล่างสุด (กราวนด์ฟลอร์) เพราะชั้นหนึ่งถึงชั้นสามมีคนอื่นแยกเช่าเป็นชั้นๆ ไป ที่นี่เขาให้เช่าระยะยาวคือทำสัญญากันร้อยปี?ก็อยู่กันไปเถอะ (หัวเราะ)ชั้นล่างสุดมีข้อดีตรงที่อยู่ติดกับสวนหลังบ้าน แต่ข้อจำกัดในตอนนั้นคือ มีคนเช่าอยู่สามราย ฉะนั้นสวนจึงต้องแบ่งเป็นสามส่วน ต่อมามีผู้เช่าย้ายออกไป เราจึงได้เช่าชั้นหนึ่งเพิ่มอีกชั้น ถึงตอนนี้ เรามีสิทธิ์ในสวนหลังบ้านแต่เพียงผู้เดียวแล้ว”
ชั้นล่างสุดใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยตกแต่งพื้นที่ภายในให้ต่างจากของเดิม เน้นความเรียบ ผนังและเพดานทาสีขาว พื้นปูแผ่นหินกาบสีดำตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ผังห้องเรียงกันเป็นรูปตัวแอล (L) โดยกำหนดทางเดินภายในเป็นแกนกลาง ประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ ห้องนอนแขก ห้องทำงานห้องครัว ส่วนรับแขก ไปสิ้นสุดที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นเรือนกระจกที่ต่อออกมาจากตัวบ้าน มีผนังกระจกขนาดใหญ่มองออกไปยังสวนหลังบ้าน
ส่วนชั้นบนเป็นห้องทำงานของคุณฮันส์เจอร์จ ซึ่งทำสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง นักอ่านหนังสือศิลปะอาจเคยเห็นผลงานของเขาหนึ่งในจำนวนนั้นคือ “People of the Golden Triangle” พิมพ์ที่โรงพิมพ์ บมจ.อมรินทร์ฯของเรานี่เอง ในส่วนนี้ปรากฏงานตกแต่งคิ้วและบัวที่เป็นของดั้งเดิมอยู่ ผนังและเพดานทาสีขาว
สำหรับรูปแบบการตกแต่งนั้น เจ้าของบ้านทั้งสองมีความเหมือนกันตรงที่ชอบงานศิลปะ แม้จะเป็นงานต่างรูปแบบต่างทิศทาง แต่ก็สามารถนำสิ่งที่รักมาจัดแต่งบ้านได้อย่างน่าชม คุณมีมี่เล่าเพิ่มเติมว่า
“ดิฉันกับสามีชอบเดินทางไปแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยก็ไปจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพราะเราไปกันทุกปี ดิฉันไปเกาะภูเก็ตตั้งแต่ทั้งเกาะมีโรงแรมอยู่ในเมืองเพียงแห่งเดียว แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเต็มไปหมด การเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทำให้เราสนใจงานศิลปะของคนพื้นเมือง ถ้าถามว่าสะสมอะไรละก็ ดิฉันสะสมทุกอย่าง”
ทั้งสองสะสมงานศิลปะนานาชนิด สองข้างทางเดินภายในบ้านจึงมองดูคล้ายอาร์ตแกลเลอรี่ผลจากการเป็นนักสะสม ทำให้บ้านของเธอกลายเป็นแกลเลอรี่จัดนิทรรศการเล็กๆ บ่อยครั้งโดยเชิญเพื่อนหรือคนสนิทชิดเชื้อมาชมงานศิลปะและจะขายให้คนที่เธอเห็นว่าชอบสิ่งนั้นจริงๆ มีงานศิลปะจำนวนไม่น้อยเลยที่มาจากประเทศไทยภายนอกจะดูเป็นบ้านในแบบฉบับอังกฤษอย่างเด่นชัด ส่วนภายในบ้านเรียบ ทันสมัยมีกลิ่นอายของตะวันตกผสมผสานตะวันออกที่เข้ากันอย่างกลมกลืน โดยมีงานศิลปะทั้งหลายเป็นสื่อกลางของการเชื่อมต่อ
เรื่องโดย : จัตตริน
ภาพโดย : ฤทธิรงค์, อภิรักษ์