เมื่อตัดสินใจจะซื้อโซฟาหนัง แม้จะทราบว่าโซฟาหนังเป็นวัสดุที่ทนทานและสวยงามไร้กาลเวลา แต่ก็ยังมีหลายคำถามที่ผุดขึ้นมาสำหรับคนที่ยังลังเลว่าจะซื้อดีไหม บ้างก็กลัวเรื่องการดูแลรักษาว่าจะมีอะไรต้องทำมากเป็นพิเศษกว่าโซฟาชนิดอื่นหรือไม่? หรือถ้าเกิดรอยข่วนขูดขีดหรือคราบสกปรก จะซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงอย่างไร? แล้วหากยิ่งนับวันสีของหนังยิ่งเฟดลง หรือเกิดรอยเสียดสีจากการใช้งาน จะทำให้โซฟาดูเก่าและโทรมหรือไม่? คำตอบต่อคำถามเรื่องการดูแลรักษาให้โซฟาหนังด้วยวิธีการง่ายๆ อยู่ตรงนี้แล้ว
เริ่มแรกสุดคือ คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าโซฟาของคุณมีหนังประเภทไหน และมีวิธีการดูแลอะไรที่เป็นพิเศษหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้สามารถปรึกษาได้จากตัวแทนจำหน่ายโซฟาหนังของคุณได้เลย หลังจากขนโซฟาเข้าบ้านแล้ว การป้องกันสาเหตุที่ทำให้หนังเสื่อมสภาพก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรใส่ใจเพื่อให้หนังดูเหมือนใหม่ไปนานๆ โดยอย่าวางในพื้นที่โดนแดดจัดตลอดทั้งวัน และหลีกเลี่ยงการวางใกล้กับเครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้หนังสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ
นอกจากนั้นยังควรหลีกเลี่ยงการวางของหนักทับบนโซฟาเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้โซฟาคืนรูปกลับไปสวยดังเดิมได้ยาก และหากต้องการเก็บโซฟาในห้องเก็บของ ไม่ควรห่อด้วยพลาสติก เพราะจะทำให้ความชื้นที่ระเหยออกจากตัวหนัง กลับมาทำลายผืนหนังให้เสื่อมสภาพลงไปอีก
วิธีการดูแลรักษาโซฟาหนังแบ่งเป็นแบบที่ควรทำประจำปี แบบสม่ำเสมอ และที่ต้องทำแบบทันท่วงที
1. ดูแลเหตุการณ์เฉพาะหน้า
เริ่มต้นจากเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างการทำน้ำหกจนเป็นรอย ให้รีบซับน้ำที่เหลือออกก่อนด้วยผ้านุ่มหรือฟองน้ำ ระวังอย่าใช้การเช็ด เพราะจะทำให้คราบยิ่งขยายวงกว้างขึ้น ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ให้ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นน้อยๆ หมาดๆ เช็ดให้ทั่วรอยที่เกิด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำสบู่หรือชุบน้ำจนชุ่มเกินไปเช็ดรอยออก เพราะอาจทำให้คราบนั้นหนักขึ้น
สำหรับสาวๆ ที่อาจใช้โลชั่นหรือครีมทาผิวแบบน้ำมันแล้วไปนั่งบนโซฟา หลังจากการใช้งานก็ใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็ด แล้วพวกคราบเหล่านี้จะค่อยๆ ซึมซับลงไปในผิวของโซฟาหนังเอง หรือถ้าเผลอไปสร้างรอยขีดข่วนให้กับโซฟาหนัง ก็ใช้ผ้าชามัวส์หรือนิ้วมือสะอาดถูเบาๆ บริเวณนั้น ถ้ายังไม่หายให้ใช้น้ำกลั่นหมาดๆ ช่วยถูร่วมไปด้วย
นอกจากการทำความสะอาดแบบง่ายๆ แล้ว ตามห้างร้านยังมีน้ำยาทำความสะอาดสำหรับเครื่องหนังโดยเฉพาะจำหน่ายด้วย ทางที่ดีเราอยากแนะนำให้ซื้อติดบ้านไว้ใช้ก็ดี เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าเกิดขึ้น อย่างไรมีติดบ้านเอาไว้ก็อุ่นใจกว่า
2. ดูแลประจำสัปดาห์
การดูแลรักษาแบบเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็ด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดทุกส่วนให้สะอาด ทั้งบนพื้นผิวโซฟาและตามขอบตะเข็บให้ทั่ว แต่หากมีร่องรอยฝุ่นที่เช็ดไม่ออก ให้ใช้ผ้าชุบน้ำกลั่นหมาดๆ เช็ดคราบออก ระวังอย่าให้ชุ่มโชกจนเกินไป ร่วมไปกับการใช้เครื่องดูดฝุ่นติดหัวแปรงนุ่มๆ ดูดฝุ่นให้ทั่วเริ่มจากบนพื้นผิวโซฟาหนัง ขอบตะเข็บ และตามซอกระหว่างเบาะต่างๆ
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดโซฟาหนังคือ ผ้าที่นำมาเช็ดควรเป็นผ้านุ่มๆ ขณะเช็ดก็อย่าถูแรงเกินไป เพราะจะทำให้หนังเป็นรอย และไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดในบ้านที่มีฤทธิ์เป็นด่าง อย่างสบู่หรือผงซักฟอกมาเช็ดถู เพราะจะทำลายพื้นผิวของหนัง ใช้เพียงน้ำสะอาดก็พอ และหากจะทดลองใช้น้ำยาเช็ดเครื่องหนังควรทดลองเช็ดในส่วนที่มองไม่เห็นก่อน เพื่อจะได้เห็นว่าน้ำยาตัวนี้ใช้ได้ดีกับโซฟาหนังของเราหรือไม่
3. ดูแลทุกครึ่งปี
ด้วยการใช้น้ำยาดูแลรักษาสำหรับเครื่องหนังโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในตัวหนัง ทำให้ไม่เกิดรอยแตก และป้องกันหนังเสื่อม ด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำยาดูแลเครื่องหนัง เช็ดฉาบผิวแบบบางๆ ก็เพียงพอ
นอกจากนั้นควรเช็คสภาพโซฟาอย่างละเอียดเป็นประจำทุกครึ่งปี ซึ่งมีการซ่อมแซมบางอย่างที่เราสามารถแก้ไขได้เอง อย่างพวกรอยบุ๋ม ให้ใช้ดรายเป่าผม เปิดลมอุ่นเป่าตรงรอยนั้น ขณะเดียวกันก็ใช้มือช่วยยืดรั้งให้ตึง ทำวนไปจนกว่าจะกลับคืนสภาพเดิม หรือหากเป็นรอยจางหรือรอยเสียดสีจากการใช้งานเป็นประจำ ก็มีน้ำยาซ่อมแซมสีหนัง เลือกให้พอดีกับสีโซฟาหนังของเราให้มากที่สุด แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มๆ เช็ดให้รอยจางหายออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้