“บ้านที่อยู่ได้” อาจขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก แต่ “บ้านที่น่าอยู่” นั้นเกี่ยวข้องกับการตกแต่งเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกับการเลือกใช้วัสดุ ซึ่งถือเป็นการแสดงตัวตนของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน เราจึงได้รวบรวมไอเดีย วัสดุบ้าน สุดฮิตทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ ไม้ เหล็ก และผ้า เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบและตกแต่งบ้านของคุณให้ “น่าอยู่” และอยู่ด้วยความสุขอย่างแท้จริง
Wood
วัสดุที่ครองใจนักแต่งบ้านมาทุกยุคสมัยคงหนีไม่พ้น “ไม้” เรียกว่าเป็นวัสดุที่ผูกพันกับคนไทยมาแต่โบราณ เมื่อก่อนเราใช้ไม้เพื่อเป็นโครงสร้างหลักของบ้าน ทั้งเสา พื้นไม้ ตง และโครงหลังคา แต่ปัจจุบันไม้ทำหน้าที่หลากหลายกว่านั้น เช่น เป็นวัสดุกรุผิว ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ของตกแต่ง ในนาทีนี้ไม้ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของคุณค่าและรสนิยมที่แพงมากกว่าสมัยก่อน ดังนั้นตอนนี้ไม้จึงไม่ใช่แค่วัสดุ แต่ยังสามารถจำกัดสไตล์เพื่อสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
Contemporary ไม้กับความร่วมสมัย
เมื่อการผสมผสานเกิดเป็นสไตล์เฉพาะตัวและไม้มักกลายเป็นวัสดุสำคัญอยู่บ่อยครั้ง เพราะสามารถหาได้ง่ายในทุกท้องถิ่น อีกทั้งช่างในบ้านเราก็มีความชำนาญในวัสดุชนิดนี้ จึงพบเห็นไม้ในงานสไตล์ต่างๆ อยู่ทั่วไป เพราะนอกจากความสวยงามของลายเสี้ยนตามธรรมชาติแล้ว สีและผิวสัมผัสของไม้ยังสร้างความอบอุ่นและให้ความรู้สึกถึงคำว่า “บ้าน” ได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่น ทำให้เมื่อจับคู่กับวัสดุชนิดอื่น เช่น คอนกรีต ก็ช่วยให้รู้สึกเป็นกันเอง เพราะไม้เข้าไปลดความแข็งของคอนกรีตลงนั่นเอง และถึงแม้เราจะพบไม้ในสไตล์ต่างๆ แต่การจับคู่วัสดุอื่นๆ กับไม้นั้นไม่ง่าย ต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้ออกแบบและเจ้าของบ้านในการเลือกใช้ชนิดของไม้และปริมาณให้เหมาะสม จนเกิดเป็นความร่วมสมัยในสไตล์เฉพาะของเจ้าของบ้านขึ้นมา
Cozy Country ไม้กับความอบอุ่น
นอกจากไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้เรานึกย้อนไปสู่บรรยากาศเก่าๆ ตามชนบทที่ความเร่งรีบไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนในสังคมเมือง การนำไม้มาใช้ในสไตล์นี้มักจะใช้เป็นทั้งโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่หาได้ในท้องถิ่นหรือเป็นไม้ที่ปลูกและสะสมเอาไว้นานแล้ว หรือบางกรณีจะเป็นไม้จากบ้านเก่าและซื้อยกเหมามาทั้งหลัง แล้วเลือกไม้ที่ยังใช้การได้นำมาขัดและย้อมใหม่ จึงทำให้ถึงจะเป็นบ้านใหม่ ก็ยังรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นแบบเป็นกันเอง
การดูแลรักษา
การดูแลไม้จริงภายในบ้านแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
1. ไม้ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้าน เช่น พื้น ผนัง บันได แนะนำให้เคลือบผิวไม้ส่วนนี้ก่อนนำมาใช้งานด้วยน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของพอลิยูรีเทน ซึ่งมีคุณสมบัติปกป้องผิวไม้ และยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยการเช็ดถูด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ
2. สำหรับประตูและหน้าต่างโครงสร้างไม้ เราสามารถปกป้องผิวไม้จากความชื้นและแสงแดดได้ด้วยการทาสีน้ำมันหรือสีย้อมไม้ เนื่องจากไม้ในบริเวณนี้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้เกิดการยืดหดได้ตลอดเวลา แก้ไขได้โดยขัดสีที่เสียหายออกให้ถึงเนื้อไม้และไสให้เรียบก่อนลงสีใหม่ ควรทาสีย้อมไม้ 2-3 ชั้น โดยแต่ละชั้นควรทิ้งระยะให้แห้งตัวอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน