หลายๆ บ้านในยุคปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจการปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานกันในบ้านกันมากขึ้น แต่เคยสังเกตไหมว่าทำไมเวลาซื้อพืชผักสวนครัวที่ขายอยู่ทั่วไปตามตลาดต้นไม้มาได้ไม่เท่าไหร่ หากไม่ย้ายปลูกลงดินหรือเปลี่ยนกระถางใหม่พืชผักเหล่านั้นก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน
สาเหตุที่ทำให้พืชผักอยู่ได้ไม่นานเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกพืชผักสวนครัวอายุสั้นมาปลูกซึ่ง โดยธรรมชาติของพืชเหล่านี้เมื่อครบกำหนดอายุเก็บเกี่ยวก็มักจะค่อยๆ ตายไปอยู่แล้วเช่น พืชผักรับประทานใบเช่นผักสลัดปูเล่คะน้าการตัดผักเหล่านี้ หากตัดให้เหลือใบบางส่วนไว้จะสามารถตัดมารับประมานได้อีก 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีดูแลสภาพอากาศด้วย ขณะเดียวกันก็พืชผักอีกกลุ่มที่มีอายุยืนยาวกว่าคือ ผักประเภทใช้แต่งกลิ่นเสริมรสให้อาหารไม่ว่าจะเป็นสะระแหน่ กระเพรา โหระพา พริก หรือแม้แต่พืชสมุนไพรฝรั่ง เช่น โรสแมรี่ไธม์ มิ้นท์ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยเรื่องวัสดุปลูกซึ่งมีผลต่ออายุของพืชผักด้วยเช่นกัน สังเกตว่าผักที่ปลูกขายตามท้องตลาดนั้นมักจะใช้วัสดุปลูกเป็นกาบมะพร้าวสับ หรือแกลบดิบซึ่งไม่มีธาตุอาหารแต่ที่ผักเติบโตได้นั้น เพราะทางร้านมีการใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเรานำกลับมาปลูกหากปุ๋ยเหล่านั้นหมดไปผักก็จะไม่เติบโตเช่นเดิม ดังนั้นเมื่อซื้อกลับมาปลูกต่อที่บ้านก็ควรย้ายปลูกลงดินใหม่ เพื่อให้พืชได้รับธาตุหารเพียงพอกับการเจริญเติบโตมีวิธีย้ายปลูกง่ายๆดังนี้
1. ค่อยๆ ถอดผักออกจากถุงหรือกระถางโดยใช้มือบีบเบาๆ ต้นจะหลุดออกมาง่ายดายระวังอย่าให้ตุ้มดินแตกจนรากขาดเสียหาย
2. ค่อยๆ แกะวัสดุปลูกเดิมออกบางส่วนระวังอย่าให้รากขาด แต่หากมีรากขาดเพียงเล็กน้อยไม่ต้องกังวลเพราะไม่มีผลกับพืชมากนัก
3. ปลูกลงในภาชนะใหม่ที่มีการปรุงดินเรียบร้อยแล้วโดยใช้ดินผสม 3 ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ 1 ส่วนภาชนะที่ใช้ในการปลูกผักประเภทกินใบควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตรส่วนภาชนะที่ใช้ปลูกพืชผักรับประทานผลควรลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร
4. สามารถนำพืชผักที่ชอบสภาพแวดล้อมแบบเดียวกันมาปลูกรวมกันในกระบะก็ได้ เพื่อประหยัดพื้นที่ปลูกและช่วยให้ดูแลได้ง่ายขึ้นพืชที่ปลูกรวมกันในกระบะ ไม่ควรปลูกแน่นเกินไปแต่ให้เหลือพื้นที่สำหรับพืชผักเจริญเติบโตได้
5. หากดินที่นำมาปลูกพืชไม่มีคุณภาพให้ใส่สารปรับปรุงดินลีโอเทคจากโซตัส เป็นสารอินทรีย์ปรับปรุงดินสูตรเข้มข้น ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ ช่วยส่งเสริมการแตกรากใหม่ให้ดีขึ้น
6. ใส่ปุ๋ยออสโมโค้ทสูตร 13-13-13 ซึ่งเป็นปุ๋ยเม็ดควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหารพืชใส่ครั้งเดียวพืชได้รับปุ๋ยต่อเนื่องนาน 3 เดือนทั้งยังสามารถใส่ชิดโคนต้นได้โดยไม่เป็นอันตรายกับพืชเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มากนัก
7. สำหรับพืชผักบางชนิดที่ปลูกไปสักระยะแล้วพบว่ามีแมลงเข้าทำลาย เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง แมลงหวี่ขาว เพลี้ยไฟ หนอนแมลงวันชอนใบ หนอนแมลงวันจาะลำต้น ด้วงเต่าแตง และแมลงใต้ดิน เช่น มด ปลวก ด้วงดิน เป็นต้น สามารถป้องกันกำจัดโดยใส่สารสตาร์เกิล จี ใช้ได้ทั้งรองก้นหลุม หรือโรยรอบโคนต้นหลังปลูก ลักษณะสารเป็นเม็ดทรายสีทับทิม (Magenta) มีความเป็นพิษต่ำมากต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมทั้ง นก ปลา และสิ่งแวดล้อม
สารปรับปรุงดินลีโอเทค สามารถใช้กับไม้ผลไม้ยืนต้นไม้ประดับอื่นๆโดยเฉพาะพืชที่ปลูกไปนานๆ นอกเหนือจากการปรับปรุงดินแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ดินตรึงปุ๋ยและธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชไว้ในดินได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทั้งยังช่วยให้พืชเจริญเติบโตดีให้ผลผลิตสูงขึ้นอีกด้วย สตาร์เกิล จี สารกำจัดแมลงชนิดดูดซึมเข้าทางระบบราก สามารถป้องกันกำจัดแมลงที่หลบซ่อนอยู่บน ต้นพืช และใต้ดินได้ดี สามารถออกฤทธิ์ยาวนาน
ตัดใบที่ถูกเพลี้ยเข้าทำลายออกบางส่วน นำไปทิ้งให้ห่างไกลจากสวนเพื่อป้องกันการระบาดไปยังพืชต้นอื่น
โรยสารสตาร์เกิล จี รอบโคนต้น ประมาณ 2 กรัมต่อต้น สามารถใช้ร่วมกับออสโมโค้ทเพื่อช่วยให้ต้นกลับมาสวยงามสมบูรณ์รวดเร็วขึ้น
Tips
- การปลูกพืชผักลงกระถางมีข้อดี คือสามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ง่าย ทั้งยังเหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดให้สามารถปลูกพืชผักได้หลากหลายชนิด และควบคุมปริมาณน้ำได้สำหรับพืชที่ต้องการน้ำต่างกัน
- สารปรับปรุงดินลีโอเทค สามารถใช้กับไม้ผลไม้ยืนต้นไม้ประดับอื่นๆ โดยเฉพาะพืชที่ปลูกไปนานๆ แล้วสังเกตว่าเริ่มไม่ออกดอกออกผลดีเหมือนเดิม เพราะนอกเหนือจากการปรับปรุงดินแล้วยังมีคุณสมบัติช่วยให้ดินตรึงปุ๋ย และธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชไว้ในดินได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทั้งยังช่วยให้พืชเจริญเติบโตดีให้ผลผลิตสูงขึ้นอีกด้วย
- ปุ๋ยออสโมโค้ท เป็นปุ๋ยเม็ดชนิดพิเศษที่เคลือบด้วยสารเรซินธรรมชาติ เมื่อใส่ลงดินน้ำจะค่อยๆซึมผ่านชั้นผิวเรซินที่ห่อหุ้มเม็ดปุ๋ยเข้าไปละลายธาตุอาหารที่อยู่ภายในค่อยๆ ซึมผ่านเปลือกอออกมาช้าๆ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจึงปลอดภัยต่อระบบรากพืช ไม่ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไปจนเกิดอาการช็อค หรือใบไหม้ได้และเมื่อธาตุอาหารหมดแล้วเปลือกเรซินจะย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ
- สตาร์เกิล จี สารกำจัดแมลงชนิดดูดซึมเข้าทางระบบราก สามารถป้องกันกำจัดแมลงที่หลบซ่อนอยู่บน ต้นพืช และใต้ดินได้ดี สามารถออกฤทธิ์ยาวนานนับเดือน
