รักแม่อยากให้แม่หายเหนื่อยกับ 3 เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยผ่อนแรงงานในบ้าน

เดือนสิงหาคม เดือนที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่ให้ลูกๆ ใช้ช่วงเวลานี้ในการบอกรักคุณแม่ บางคนอาจบอกรักแม่ด้วยการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแบบยกครอบครัว บางคนอาจนัดทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันในร้านอาหารหรูสักแห่ง ขณะที่หลายคนกลับยุ่งอยู่กับงานจึงเลือกของขวัญมอบให้แทน

สำหรับคนที่วางแผนบอกรักคุณแม่ด้วยการมอบของขวัญ แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี วันนี้เราไอเดียมานำเสนอ นั่นคือ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน’ ที่จะช่วยผ่อนแรงเรื่องงานบ้านให้คุณแม่ แถมสมาชิกคนอื่นๆ ยังได้สามารถใช้สอยได้อีกด้วย โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นที่เราคัดมารับรองว่าคุณแม่ต้องปลื้มแน่นอน!!

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
บ้านไหนที่เลี้ยงสัตว์ในบ้าน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถือได้ว่าเป็นไอเทมทุ่นแรงได้มากมายทีเดียว เพราะเพียงแค่ปุ่มเดียวบ้านก็สะอาดได้ทันใจ แถมยังเปิดใช้ได้ทุกวัน ดังนั้นของขวัญชิ้นแรกที่เราแนะนำจึงเป็น ‘หุ่นยนต์ดูดฝุ่น’ นั่นเอง ส่วนการเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นให้ตรงใจคุณแม่นั้น สามารถพิจารณาได้ดังนี้

1. ความจุของกล่องเก็บฝุ่น ดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำคัญ ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในแต่ละรุ่นจะมีความจุไม่เท่ากัน โดยตามปกติจะมีขนาดที่ 200 – 800 มม. แน่นอนว่าความจุของกล่องเก็บฝุ่นยิ่งมากย่อมดีกว่า เพราะไม่ต้องคอยนำเศษขยะไปทิ้งบ่อยๆ นั่นเอง
2. เรื่องแบตเตอรี่และระบบชาร์จก็สำคัญ ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นควรสามารถทำงานได้นานอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่สำคัญต้องมีระบบ Self-Charging Base ซึ่งก็คือการวิ่งกลับไปแท่นชาร์จอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่อ่อน และเมื่อชาร์จเสร็จก็สามารถกลับไปทำความสะอาดในส่วนที่ค้างไว้ได้เอง
3. โหมดการทำงานและฟังก์ชั่นต้องครอบคลุม โดยปกติแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีโหมดการทำงานพื้นฐานอยู่ 4-5 โหมดอยู่แล้ว จึงค่อนข้างตอบโจทย์การทำความสะอาด ดังนั้นสิ่งที่อยากให้พิจารณาจึงเป็นเรื่องฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ เช่น มีเซ็นเซอร์ตรวจจับขยะ, มีฟังก์ชั่นถูพื้นในตัว, สามารถตั้งตารางการทำงานได้ หรือมีฟังก์ชั่นป้องกันการตกจากที่สูง เป็นต้น

เครื่องอบผ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้อาจดูไม่จำเป็นสำหรับอากาศร้อนในบ้านเรา แต่เพราะอากาศในเมืองไทยเอาแน่เอานอนไม่ได้ ยิ่งช่วงฤดูฝนด้วยแล้ว มักจะประสบกับปัญหาผ้ามีกลิ่นอับชื้น ดังนั้นการมีเครื่องอบผ้าดีๆ สักเครื่องติดบ้านไว้จะช่วยประหยัดแรง เพราะไม่ต้องคอยซักผ้าใหม่

ถ้าที่บ้านมีเครื่องซักผ้าอยู่แล้ว ก็เพียงซื้อเครื่องอบผ้ามาคู่กัน แต่หากพิจารณาแล้วว่าเครื่องซักผ้าที่บ้านใช้งานมาเนินนาน ถึงเวลาแล้วที่ควรเปลี่ยน แนะนำให้เลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชั่นอบผ้าด้วยจะคุ้มค่ากว่า ส่วนวิธีเลือกซื้อเครื่องอบผ้าให้พิจารณาจาก

1. ต้องรู้ก่อนว่าเครื่องอบผ้ามี 2 ประเภทคือ เครื่องอบผ้าลมร้อน กับเครื่องอบผ้าแบบควบแน่น โดยเครื่องอบผ้าลมร้อนเราจำเป็นต้องต่อท่อเพื่อระบายความร้อนภายในเครื่องออกสู่ภายนอก ขณะที่เครื่องอบผ้าแบบควบแน่นไม่จำเป็นต้องต่อท่อ เพียงแค่เสียบปลั๊กก็ใช้ได้ทันที แต่มีข้อเสียที่ต้องหมั่นเอาน้ำที่เกิดจากการอบผ้า ซึ่งถูกเก็บไว้ในช่องไปเททิ้งอยู่เสมอ
2. ความจุของเครื่องอบผ้า ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีความจุต่างกัน ความจุมากก็สามารถอบผ้าได้คราวละมากๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกและความถี่ในการซักผ้า นอกจากนี้อย่าลืมพิจารณาเรื่องการประหยัดไฟด้วย ส่วนโหมดการทำงาน ส่วนใหญ่ทุกรุ่นจะมาพร้อมโหมดมาตรฐาน อาจมีบางรุ่นที่มีฟังกัชั่นพิเศษ ลองพิจารณาดูว่าฟังก์ชั่นพิเศษเหล่านั้นจำเป็นมากน้อยเพียงใด
3. อย่าลืมพิจารณาเรื่องพื้นที่จัดวางเครื่องอบผ้าในบ้านด้วย เพราะหากซื้อไปแล้ว ไม่มีที่ทางให้วางเครื่องอบผ้าจะกลายเป็นปัญหาชวนปวดหัวแทน แนะนำให้วางใกล้กับเครื่องซักผ้า เพื่อความสะดวกในการขนย้ายเสื้อผ้านั่นเอง

เครื่องล้างจาน
ครอบครัวไหนเป็นสายปาร์ตี้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกิน การมีเครื่องล้างจานติดบ้านไว้สักเครื่องจะช่วยผ่อนแรงได้เยอะ ซึ่งข้อดีของเครื่องล้างจานนอกจากความสะดวกสบายแล้ว เครื่องล้างจานยังทำความสะอาดเครื่องครัวหรือจานชามได้ดีกว่าการล้างด้วยมือ แถมยังใช้น้ำน้อยกว่าอีกด้วย โดยคำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อเครื่องล้างจาน มีดังนี้

1. พิจารณาเรื่องเสียงเป็นอย่างแรก เพราะเสียงเครื่องล้างจานไม่ใช่เสียงที่น่าฟัง ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องล้างจานสักเครื่องให้เลือกเครื่องล้างจานที่ทำงานเงียบจะดีกว่า
2. ฟังก์ชั่นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเครื่องล้างจานแตกต่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แม้การทำงานจะไม่ซับซ้อน แต่เพราะจานชามมีผลต่อสุขภาพ เราจึงต้องพิถีพิถันและใส่ใจเรื่องนี้ แนะนำให้เลือกเครื่องล้างจานที่มาพร้อมโหมดการทำงานพิเศษ อาทิ โปรแกรมล้างจานแบบสะอาดพิเศษ, โปรแกรมประหยัดน้ำ หรือโปรแกรมล้างด่วน เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราด้วย
3. อย่าลืมเรื่องประหยัดไฟและประหยัดน้ำ เพราะเครื่องล้างจานต้องใช้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและใช้น้ำ ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ แน่นอนว่าควรเลือกเครื่องล้างจานที่ใช้น้ำน้อย แต่คงความสะอาด นอกจากนี้ควรเลือกเครื่องล้างจานที่มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ นั่นคือเมื่อเครื่องทำงานเสร็จควรสามารถปิดการทำงานด้วยตัวเองได้ทันที ซึ่งจะช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มาก แถมหากมีธุระต้องออกไปข้างนอก ก็แค่เปิดเครื่องทำงานและออกไปทำธุระได้เลยแบบไม่ต้องรอให้เครื่องทำงานเสร็จนั่นเอง

…เพราะคุณแม่ชอบดูแลทุกเรื่องในบ้าน การมอบสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยผ่อนแรงและทำให้คุณแม่หายเหนื่อยจึงเป็นของขวัญแทนใจที่เราอยากแนะนำ รับชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่โฮมโปรทุกสาขา หรือ www.homepro.co.th และติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่ www.facebook.com/homeprothailand/