1933 Old Millfun เซี่ยงไฮ้ใต้แสงเงาสลัวในอาคารคอนกรีตโบราณ- บ้านและสวน
1933 Old Millfun

1933 Old Millfun เซี่ยงไฮ้ใต้แสงเงาสลัวในอาคารคอนกรีตโบราณ

ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายและหลากหลายในเซี่ยงไฮ้นั้นคงไม่มีอาคารไหนจะแปลกและฮิปได้เท่ากับ 1933 Old Millfun หรือ Shanghai Slaughterhouse ได้อีกแล้ว

ไม่ใช่แค่เพราะรูปทรงอาคารคอนกรีตสี่เหลี่ยมหน้าตาแปลกๆ ของ 1933 Old Millfun เท่านั้น ที่น่าสนใจก็คืออาคารแห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในโรงฆ่าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย แต่ปัจจุบันกลายเป็นอาคารเท่ๆ ที่มีมุมถ่ายภาพแปลกๆ ภายใต้แสงสลัวและชวนให้ค้นหายิ่งนัก

 

สถาปัตยกรรมแปลกประหลาด

อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1933 โดยได้รับทุนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่ง Balfours นักออกแบบชื่อดังชาวอังกฤษออกแบบไว้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้นสไตล์อาร์ตเดโคที่ผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออกไว้ด้วยกันในพื้นที่ประมาณ 31,700 ตารางเมตร และใช้งบประมาณในการสร้างสูงถึง 33 ล้านกว่าตำลึง (สกุลเงินจีนสมัยนั้น) เพราะต้องขนวัตถุดิบหลักสำหรับทำคอนกรีตจากประเทศอังกฤษ มาก่อให้เป็นผนังหนาราว 50 เซนติเมตร เพื่อคงรักษาอุณหภูมิความเย็นภายในอาคารไว้ มีเพียงหน้าต่างด้านนอกและสกายไลท์เท่านั้นที่เป็นช่องทางให้แสงผ่านเข้ามาได้

รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสภายนอกอาคารมีเสาทรงกลมที่มาจากความเชื่อของชาวจีนที่ว่า ‘โลกเป็นทรงจตุรัสและท้องฟ้าเป็นทรงกลม’ และภายในอาคารใช้เสาโกธิคขนาดใหญ่กว่า 300 ต้นกระจายอยู่ทั่วอาคารทรงจตุรัสซึ่งมีเพดานเป็นเหมือนหมวกทรงแปดเหลี่ยม และใช้เทคโนโลยีการทำพื้นแบบไร้รอยต่อซึ่งทันสมัยที่สุดในยุคนั้น โดยมีรายละเอียดอันโดดเด่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสะพานทางเดินเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ซึ่งมีอยู่ถึง 26 จุดด้วยความกว้างแตกต่างกันไปตามขนาดของสัตว์และเพื่อใช้ควบคุมความเร็วของการลำเลียงสัตว์ด้วย ทางลาดเอียงบางจุดก็ทำเทคเจอร์ไว้บนพื้นเพื่อป้องกันการลื่นไถล มีมุมหักเลี้ยวแปลกๆ เพื่อให้ผู้คุมสามารถเหวี่ยงตัวหลบได้ทันหากสัตว์เกิดหงุดหงิดและต่อสู้ขึ้นมา มีบันไดทั้งแบบแนวตรงและบันไดวนสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งแทรกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ทำให้เส้นทางของที่นี่ดูลดเลี้ยวคดเคี้ยวเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตที่ชวนให้หลงทางกันได้ง่ายๆ คล้ายกับภาพสถาปัตยกรรมอันแปลกประหลาดของศิลปิน M.C.Escher เลยทีเดียว

โพรงหน้าต่างของอาคาร

ด้วยขนาดพื้นที่แล้ว ว่ากันว่าสมัยที่เป็นโรงฆ่าสัตว์นั้นสามารถรองรับจำนวนสัตว์หลากประเภททั้งวัว แกะ หมู ได้ถึง 1,200 ตัวต่อวัน มีกำลังผลิตเนื้อได้มากกว่า 130 ตัน ดังนั้นภายใต้ผนังคอนกรีตที่หนาของอาคารก็ยังมีช่องหน้าต่างซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของอาคารรับกับทิศทางลมของเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยหน้าต่างทุกช่องเป็นโพรงเปิดเพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี ช่วยบรรเทากลิ่นที่อยู่ภายใน หรืออีกความเชื่อหนึ่งก็ว่าทิศตะวันตกหมายถึงหนทางไปสู่การเกิดใหม่ของบรรดาสัตว์ต่างๆ

เปลี่ยนสู่พื้นที่สาธารณะ

โรงฆ่าสัตว์แห่งนี้เลิกกิจการไปเมื่อในยุค 60s ต่อมาก็กลายเป็นโกดังและโรงงานยา จากนั้นก็ปล่อยให้รกร้างไปอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งปี 2008 เซี่ยงไฮ้มีแนวคิดจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาคารนี้ใหม่เพื่อให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ มีการเพิ่มเติมลิฟต์แก้วเพื่อโดยสาร  ทำให้มีสำนักงานออกแบบ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลเลอรี่ กระทั่งโรงหนังขนาดเล็กมาเปิดให้บริการที่นี่ โดยโถงกลางอาคารก็ปล่อยโล่งคล้ายห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และหลายๆ ครั้งก็เคยเป็นสถานที่จัดอีเว้นท์เก๋ๆ อย่างการเปิดตัวสินค้ารถเฟอร์รารี เบนซ์ และไนกี้ มาแล้ว

นอกเหนือจากเสน่ห์ของงานสถาปัตยกรรมที่ทำให้ได้รับรางวัลอาคารประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นของเซี่ยงไฮ้แล้วนั้น แสงเงาที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาแต่ละมุมที่เดิน(หลง)ผ่านสร้างความรู้สึกประหลาดใจให้ได้เสมอ กระทั่งความใหญ่โตที่แอบซ่อนอารมณ์ลึกลับชวนจินตนาการผ่านเรื่องราวในอดีตทำให้เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองไปชมอาคารประหลาดแห่งนี้ด้วยตัวเองกันสักครั้ง หมุดหมายนี้อยู่บนถนน Shajing เขต Hongkou ของเซี่ยงไฮ้ เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 9.00-22.00 น. โดยไม่คิดค่าเข้าชมและยังอนุญาตให้ถ่ายภาพได้อย่างอิสระ

 

เรื่องและภาพ : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์