ฆ่าเชื้อโรคในบ้านด้วยการอบโอโซน หรือพ่นน้ำยาแบบไหนกำจัดโควิด19 ได้ดีกว่า
การทำความสะอาดบ้านเเบบทั่วไปอาจไม่เพียงพอในการชำระและฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่รอวันเข้ามาคุกคามสุขภาพของคุณ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านจะปลอดภัยปราศจากเชื้อโรค วันนี้เราจึงมีวิธีการป้องกันเเละกำจัดเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ 2 เเบบมาฝาก สำหรับใช้เป็นข้อมูลเเละตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกวิธีการที่เหมาะสม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเพิ่มขึ้นอีกขั้น ฆ่าเชื้อโรคในบ้าน
“ บริการ ฆ่าเชื้อโรคในบ้าน ” ในอาคารและบ้านเรือนนั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การอบโอโซน และ การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แต่ทั้ง 2 วิธีการนั้นต่างกันอย่างไร? เราควรเลือกใช้วิธีการไหน? บ้านและสวนจะมาช่วยทุกท่านหาคำตอบกัน
1.การอบโอโซน
โอโซน หรือ o3 ก๊าซโอโซน คือ ก๊าซออกซิเจนในสถานะพิเศษที่มีโครงสร้าง 3 อะตอม เกิดจากโมเลกุลออกซิเจนได้รับพลังงานจากแหล่งพลังงาน เช่น ฟ้าผ่า แสง UV โคโรน่าดิสชาร์จ จึงเกิดการแตกตัว และรวมเป็น 3 อะตอม ซึ่งจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
คุณสมบัติในการขจัดเชื้อโรค
เมื่อก๊าซโอโซนไปจับกับตัวเชื้อโรคจะเกิดการแตกตัวเป็น O + O2 และออกซิเจนอะตอมนี้เองที่จะเข้าไปทำลายผนังเซลล์ ทำให้เชื้อโรคทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียสลายไป ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการปล่อยโอโซนอบไว้ในห้อง 2-3 ชั่วโมง แม้ว่าโอโซนจะเป็นรูปแบบหนึ่งของออกซิเจน และมีสภาพเป็นพิษเมื่อมีความเข้มข้นมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลิตรในอากาศ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดเครื่องผลิตโอโซนและปล่อยห้องทิ้งไว้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง โอโซนภายในห้องจะสลายจาก O3 เป็น O2 จึงรับรองว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยเเน่นอน
ขั้นตอน
เจ้าหน้าที่ประเมินหน้างาน อาจทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนหรือไม่ก็ได้ จากนั้นจะทำการปล่อยโอโซนอบไว้ในห้องเพื่อฆ่าเชื้อ โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง และปล่อยทิ้งไว้อีก 1 ชั่วโมงเพื่อรอให้โอโซนสลายตัว จึงสามารถใช้งานห้องนั้นต่อได้ทันที
ค่าใช้จ่าย
ตารางเมตรละ 20-50 บาท สามารถเริ่มต้นในพื้นที่เล็ก ๆ ได้
ระยะเวลาปลอดเชื้อ
เชื้อในห้องจะตายหมดหลังการอบ แต่เนื่องจากโอโซนจะสลายไปจนหมดภายในเวลา 0.5-1 ชั่วโมง ทำให้เชื้ออาจกลับเข้าสู่ภายในห้องได้ใหม่ การอบโอโซนจึงเหมาะกับพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่พลุกพล่าน เช่น ออฟฟิศขนาดเล็ก หรือบ้านเรือนที่พักอาศัยส่วนตัวมากกว่า เพราะสามารถควบคุมการใช้งานได้ดีกว่าพื้นที่ขนาดใหญ่หรือพื้นที่สาธารณะ
ข้อดี
- ไม่มีสารตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาว
- ไม่จำเป็นต้องเก็บห้องเพื่อเตรียมอบโอโซน
- สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
- ราคาย่อมเยา
ข้อสังเกต
- โอโซนสลายไปอย่างรวดเร็วหลังเสร็จสิ้นขั้นตอน
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่
2.พ่นฆ่าเชื้อ
การพ่นฆ่าเชื้อ คือการฆ่าเชื้อโรคโดยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย หรือเครื่องพ่นหมอก พ่นละอองฝอย (Misting Sanitize) มักใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง (High-Level disinfectant) อย่าง กลูตารัลดิไฮด์(glutaraldehyde) และสารอื่น ๆ ตามสูตรของแต่ละบริษัท ที่เราสามารถตรวจสอบการอนุญาตผลิตภัณฑ์ประเภทวัตถุอันตรายเหล่านี้ได้ โดยดูจากฉลากบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากอย. หรือเข้าไปสืบค้นที่เว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำยาฆ่าเชื้อเหล่านั้นเหมาะสมกับการนำมาใช้งานตามพื้นที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
คุณสมบัติในการขจัดเชื้อโรค
น้ำยาฆ่าเชื้อโรคจะมีกลไกการทำลายเชื้อไวรัส คือเมื่อน้ำยาสัมผัสกับเชื้อโรคจะเข้าไปละลายไขมันในผนังเซลล์ หรือทำให้โปรตีนและกรดนิวคลิอิกของไวรัสเสียสภาพไป
ขั้นตอน
เจ้าหน้าที่ประเมินหน้างานและจัดเตรียมพื้นที่ก่อนพ่นน้ำยา โดยต้องมีการคลุมอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับอาหารหรือเครื่องนุ่งห่ม เพราะน้ำยาฆ่าเชื้ออาจสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังได้ จากนั้นจึงทำการพ่นน้ำยา และปิดห้องทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในห้องค่อย ๆ ระเหย ก่อนเปิดระบายอากาศประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเพื่อความปลอดภัย
ค่าใช้จ่าย
ราคาเหมาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท/สำหรับพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ขึ้นไป
- ประโยชน์ของแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ใช้งานในบ้านอย่างไรให้คุ้มค่า
- เมื่อต้องเลือกแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแบบพกพาไว้ใช้ มีเรื่องไหนที่ควรรู้ก่อนบ้าง?
ระยะเวลาปลอดเชื้อ
น้ำยาฆ่าเชื้อสามารถคงประสิทธิภาพอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ด้วยการฉีดพ่นเป็นละออง พื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยละอองขอน้ำยาจึงมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคต่อไปได้อีกระยะเวลาหนึ่งตามการใช้งาน
ข้อดี
- ฆ่าเชื้อโรคได้ตรงจุด สามารถกำหนดคุณสมบัติเพื่อประสิทธิภาพที่ตรงตัวได้
- ควบคุมพื้นที่และเข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการได้ละเอียดกว่า
- สามารถคงประสิทธิภาพได้ยาวนานกว่า
ข้อสังเกต
- อาจมีสารตกค้างมากน้อยขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ
- มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าการอบโอโซน แต่สำหรับในพื้นที่ขนาดใหญ่ก็ถือว่าคุ้มค่าเเละเหมาะสมกว่า
- ต้องสอบถามถึงน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ผู้ให้บริการเลือกใช้ว่ามีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่
สำหรับผู้ที่ต้องการฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่ไม่ใหญ่โตมากนัก รวมทั้งไม่ต้องการที่จะต้องจัดเตรียมพื้นที่ “การอบโอโซน” อาจจะเป็นคำตอบที่ดี อีกทั้งราคาเริ่มต้นของบริการยังย่อมเยาว่าการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีสารตกค้างในพื้นที่อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าพื้นที่ของคุณนั้นเป็นพื้นที่กึ่งสาธารณะที่มีการใช้งานถี่กว่า หรืออาจจะต้องการการฆ่าเชื้อโรคที่ตรงจุดมั่นใจได้ การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ๆ เช่น โรงงาน ห้างร้าน หรือบริษัทต่าง ๆ การอบโอโซนจะไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ทั่วถึง ในขณะที่การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ขนาดใหญ่นั้นจะมีความคุ้มค่าเเละมีประสิทธิภาพการควบคุมเชื้อโรคได้ดีกว่า เเถมป้องกันในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะพิจารณาเลือกใช้วิธีการใดให้เหมาะสม เพื่อป้องกันสุขภาพจากเชื้อโรคร้ายที่นับวันจะทวีความรุนเเรงมากขึ้นทุกที
ผู้ให้บริการฆ่าเชื้อโรค
อบโอโซน
- q-chang : q-chang.com
- Home Pro : homepro.co.th
- Inmindclean : inmindclean.com
พ่นฆ่าเชื้อ
- บริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
- Sureclean : www.facebook.com/surecleanthailand
- Thaiskyclean : thaiskyclean.co.th
- Rentokil : rentokil.co.th/infection-control
เรื่อง/ภาพ : วุฒิกร สุทธิอาภา