เทคนิคการเลือก น้ำหอมปรับอากาศ ให้บ้านอย่างมีสไตล์
คงจะดีหากทันทีที่เปิดประตูเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านแล้วได้รับกลิ่นหอมสดชื่นแทนกลิ่นเหม็นอับ อันเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นเหม็นสะสมจากรองเท้า อากาศอับชื้นภายในห้อง กลิ่นอาหาร กลิ่นเหงื่อ หรือจากท่อน้ำทิ้ง กลิ่นหอมๆ ในบ้าน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น และเป็นหนึ่งในการสร้างความผ่อนคลายให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ น้ำหอมปรับอากาศ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มกลิ่นละมุนชวนฝันให้บ้าน
“กลิ่น” ล้วนมีผลต่อความรู้สึก อย่าแปลกใจหากได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของลาเวนเดอร์แล้วจะรู้สึกผ่อนคลายจนเผลอหลับ หรือได้กลิ่นหอมนุ่มของดอกซากุระแล้วจะเกิดความรู้สึกสบายผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นตัวสดชื่นขึ้นทันทีที่ได้กลิ่นหอมของเลม่อน หรือเมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของธรรมชาติ แมกไม้ ดอกไม้ ในสไตล์ทรอปิคัลที่มีเอกลักษณ์จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น อบอุ่น เหมือนได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลที่อบอวลด้วยพรรณไม้ ฉะนั้นการเลือกกลิ่นที่ชอบและเหมาะกับร่างกายของเราในขณะนั้น ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การสร้างกลิ่นหอมให้บ้านด้วยน้ำหอมปรับอากาศจึงเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านน่าอยู่แบบง่ายๆ ในท้องตลาดนั้นมีน้ำหอมปรับอากาศให้เลือกซื้อมากมายหลายชนิดหลายกลิ่น ชวนให้สับสนอยู่เสมอ แต่สิ่งสำคัญของการเลือกน้ำหอมปรับอากาศให้เหมาะกับแต่ละห้องในบ้าน มีข้อควรพิจารณาอย่างไรบ้างนั้น บ้านและสวน มีคำแนะนำมาบอก
รู้จักชนิดของน้ำหอมปรับอากาศ
รูปแบบการเพิ่มความหอมให้บ้านนั้นทำได้หลายวิธี ทั้งวิธีทางธรรมชาติอย่างการใช้วัสดุตั้งต้นของกลิ่นวางตามจุดต่างๆ เช่นเปลือกส้ม ดอกมะลิ ดอกลาเวนเดอร์ เตยหอม วิธีนี้จะช่วยให้ได้รับกลิ่นหอมจากธรรมชาติอย่างแท้จริง แต่ก็มีข้อกำจัดในเรื่องของอายุกลิ่นที่มีระยะสั้นอันเป็นกลไกตามธรรมชาติ อีกหนึ่งวิธีเพิ่มความหอมให้บ้านคือการเลือกใช้น้ำหอมปรับอากาศ ซึ่งจะช่วยให้บ้านมีกลิ่นหอมยาวนานขึ้น โดยเครื่องหอมแต่ละรูปแบบจะทำงานได้ดีมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนี้
-ก้านหอม คือ น้ำหอมปรับอากาศที่มีก้านไม้ช่วยกระจายความหอม ซึ่งมีข้อดีตรงที่สร้างความหอมได้ตลอดเวลาแต่อยู่เฉพาะจุดที่วางเท่านั้นจึงเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กหรือพื้นที่ปิดมากกว่า
-เทียนหอม เป็นรูปแบบการเพิ่มความหอมแบบดั้งเดิมที่ใช้ความร้อนจากการจุดไฟกระตุ้นให้ไอหอมลอยออกมา แต่การใช้เทียนหอมต้องระมัดระวังอยู่เสมอ
-ตะเกียงหอม เป็นการจุดเทียนโดยใช้ความร้อนกระตุ้นให้น้ำมันหอมระเหยส่งกลิ่นกระจายออกไป แต่ก็ต้องระมัดระวังเช่นเดียวกับการใช้เทียนหอม
-สเปรย์ปรับอากาศ ตัวช่วยเพิ่มความหอมสดชื่นให้บ้านได้เร็ว ฉีดได้ง่าย ทำให้สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องได้อย่างรวดเร็ว และกระจายกลิ่นหอมได้ตามจุดที่ต้องการได้อย่างคล่องตัว เหมาะกับห้องขนาดกว้าง
-สเปรย์น้ำหอมอัตโนมัติ การทำงานคล้ายกับสเปรย์ปรับอากาศ แต่ไม่ต้องฉีดเองเพราะเครื่องฉีดจะทำงานอัตโนมัติ สะดวกสบาย และเลือกตำแหน่งกระจายความหอมได้ตามที่ต้องการได้
-เจลปรับอากาศ จะทำงานตลอดเวลาโดยเจลจะปล่อยน้ำมันหอมออกมาให้กระจายรอบๆ พื้นที่ เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและต้องการดับกลิ่นตลอดเวลา
เลือกชนิดน้ำหอมปรับอากาศให้เหมาะกับฟังก์ชันของแต่ละห้อง
เมื่อรู้จักชนิดของน้ำหอมปรับอากาศแต่ละแบบแล้ว มาดูกันต่อว่าแต่ละห้องในบ้านของเราที่ประกอบด้วยฟังก์ชันที่ต่างกันนั้น เหมาะที่จะใช้น้ำหอมปรับอากาศชนิดไหน
ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ส่วนนี้เป็นปราการด่านแรกที่รับกลิ่นจากนอกบ้าน ทั้งกลิ่นเขม่าควันรถยนต์ กลิ่นเหงื่อ หรือกลิ่นเหม็นอับจากตู้รองเท้า ห้องนี้ยังเป็นหน้าเป็นตาของบ้านด้วย จึงไม่ควรปล่อยให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นเป็นอันขาด รูปแบบของน้ำหอมที่เหมาะสำหรับห้องนี้ควรเป็น Glade Automatic Spray ที่มีระบบกระจายความหอมอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาได้ ทำให้ห้องนี้มีกลิ่นหอมนุ่ม ไม่เกิดกลิ่นฉุน และส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา
ห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร ทั้งสองห้องนี้มีการใช้พื้นที่ต่อเนื่องกัน คือการประกอบอาหารและเสิร์ฟอาหารเพื่อรับประทาน การกำจัดปัญหาเรื่องกลิ่นควันที่เกิดขึ้นสามารถใช้ Glade Aerosol Spray สเปรย์ปรับอากาศที่กำจัดกลิ่นควันได้อย่างรวดเร็วและเลือกฉีดในบริเวณที่ต้องการได้อย่างสะดวกด้วย
ห้องน้ำ เป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับปัญหากลิ่นจากท่อน้ำทิ้ง รวมทั้งกลิ่นอับชื้นในบริเวณพื้นที่ปิด ซึ่ง Glade Scented Gel น้ำหอมปรับอากาศรูปแบบเจลจะปล่อยกลิ่นหอมตลอดเวลา ช่วยลดกลิ่นเหม็นให้สัมผัสกับกลิ่นหอมทันทีที่ใช้งาน
ห้องนอนเป็นอีกห้องหนึ่งที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์หอมสดชื่น เนื่องจากเป็นห้องที่คนเราใช้เวลานานที่สุด น้ำหอมปรับอากาศที่เหมาะกับห้องนอนใช้ได้ทั้ง Glade Automatic Spray สเปรย์แบบตั้งเวลา ใช้งานสะดวก ส่งกลิ่นหอมได้ตลอดทั้งคืน หรือจะเลือกใช้ Glade Aerosol Spray เพื่อเพิ่มความหอมให้รวดเร็วขึ้นก็ทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดที่ตายตัวในการเลือกชนิดของน้ำหอมปรับอากาศ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความสะดวกของเจ้าของบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็น Glade Automatic Spray, Glade Aerosol Spray, Glade Scented Gel หรือรูปแบบของกลิ่นหอมทั้งกลิ่น Exotic Tropical Blossoms กลิ่น Lavender และกลิ่น Sakura & Waterlily ก็ล้วนแต่เพิ่มความสดชื่นให้บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอยู่ขึ้น สามารถเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ