รวมวิธีดูแลสวน ทั้งเรื่องต้นไม้และงานฮาร์ดสเคป รวมถึงการว่าจ้างนักจัดสวน
เพราะการจัดสวนไม่ได้จบแค่ตอนที่จัดเสร็จแล้ว แต่เรื่องใหญ่ที่แท้จริงคือการดูแลสวนให้สวยงามอยู่เสมอ เราจึงขอรวบรวมไอเดียจัดสวนให้ดูแลง่าย รวมไปถึงการดูแลสวนและการว่าจ้างนักจัดสวน การคิดค่าแรงแบบต่างๆ
ออกแบบสวนให้ดูแลง่าย
สำหรับคนที่ไม่ชอบดูแลต้นไม้หรือมีเวลารดน้ำต้นไม้ไม่มากนัก อาจจำเป็นต้องเลือกต้นไม้ที่ทนต่อสภาวะแห้งแล้งและดูแลง่าย สามารถขาดน้ำได้ในระยะเวลาหนึ่ง ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มไม้อวบน้ำ เช่น อากาเว่ ลิ้นมังกร พญาไร้ใบ รวมไปถึงสับปะรดสี หากเป็นกลุ่มไม้ยืนต้นเองก็มีต้นไม้ทนแล้งหลายชนิด เช่น กระถินณรงค์ เหลืองปรีดียาธร พญาสัตบรรณ หางนกยูงฝรั่ง มะขามเทศ หรือต้นไม้ในตระกูลปาล์ม โดยเราสามารถใช้งานฮาร์ดสเคปหรือปูพื้นด้วยกรวดและหินเพื่อลดการดูแลได้ด้วย
รดน้ำต้นไม้อย่างน้อยวันละครั้ง
ต้นไม้ต้องการน้ำเพื่อละลายสารอาหารในดินและช่วยนำอาหารจากรากไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ทำให้เซลล์เต่งตึง ลดอุณหภูมิภายในต้นเมื่ออากาศร้อนจัด ถึงแม้ว่าต้นไม้แต่ละชนิดจะต้องการน้ำไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปนิยมรดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้ามากกว่าตอนเย็น และเพิ่มเป็น 2 ครั้งในช่วงฤดูร้อน หรือรดให้น้อยลงในฤดูฝน ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งต้นเพื่อชำระล้างคราบฝุ่นบนใบและเชื้อโรคออก และนานพอให้น้ำซึมลงดินไปถึงราก เพราะถ้าเปียกแค่ผิวดินก็อาจไปไม่ถึงรากไม้
กำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์
วัชพืชและสัตว์บางชนิดเป็นอันตรายต่อต้นไม้ ซึ่งมักเกิดในบริเวณที่อับชื้น อากาศไม่ถ่ายเท แสงสว่างส่องลงมาน้อย ดังนั้นควรนำต้นไม้ออกมารับแสงแดดและผึ่งลดบ้าง นำวัสดุปลูกเก่ามาเปลี่ยน หากต้นไม้มีอาการรุนแรงควรเด็ดส่วนที่มีอาการทิ้งหรือขูดออกให้หมด อาจฉีดพ่นน้ำสมุนไพรหมักไล่แมลงร่วมด้วย
วัชพืชมักติดมากับดินถมหรือปุ๋ยคอกที่ยังย่อยสลายไม่เต็มที่ เมื่อเห็นควรรีบถอนและกำจัดออก หรือใช้กระสอบคลุม จากนั้นจึงปลูกต้นไม้ทดแทนไป
การให้ปุ๋ยต้นไม้
สำหรับสวนทั่วไปจะให้ปุ๋ยเคมีเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน หรือปุ๋ยละลายช้าชนิด 3 เดือนหรือ 6 เดือนเพื่อลดภาระในการดูแลลง จะมีก็แต่ไม้ประดับบางชนิดที่ต้องให้ปุ๋ยทางใบเสริมให้ออกดอกและมีใบสวยงาม เช่น กุหลาบ กล้วยไม้ เฟิน หรือไม้ใบ หากใช้ปุ๋ยหมักควรดูว่าปุ๋ยไม่ร้อนและเนื้อดูโปร่งร่วน ซึ่งควรใส่ควบคู่กับปุ๋ยเคมีเพื่อช่วยปรับโครงสร้างของดิน
ป้องกันงูเข้าสวน
งูเป็นสัตว์ที่มักใช้ใบไม้และเศษดินมาทำรัง อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยประมาณ 30 องศาเซลเซียส และความชื้นสูง 95 เปอร์เซ็นต์ สามารถออกล่าเหยื่อได้ทั้งตอนกลางวันที่มีแสงแดดไม่ร้อนจัดมากนัก และตอนพลบค่ำ ดังนั้นควรหมั่นตัดแต่งสวนให้แสงแดดสามารถส่องถึงพื้นได้ในช่วงกลางวัน และตัดแต่งหญ้ารวมถึงพุ่มไม้ให้เป็นระเบียบเสมอ ตามบ่อน้ำที่มีปลาอาศัยชุกชุมก็ตัดแต่งต้นไม้ที่อยู่รอบๆ บ่อเพื่อไม่ให้เป็นที่ซ่อนตัวของงู ซึ่งการดูแลสวนอยู่เสมอก็เป็นการตรวจตราดูแลว่ามีงูเข้ามาทำรังหรือมีคราบงูอยู่หรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมการรับมือต่อไป
ดูแลงานฮาร์ดสเคปและเฟอร์นิเจอร์
ควรหมั่นดูแลส่วนงานฮาร์ดสเคปและเฟอร์นิเจอร์ในส่วนต่างๆอยู่เสมอ เช่น การล้างบ่อ ล้างกรวดทางเดิน ทาสีพื้นไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์เสียใหม่ เพื่อให้สวนยังคงความสวยงาม บ่อปลาทั่วไปที่ทำระบบกรองแบบปกติก็อาจล้างเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้หมั่นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดถูเป็นประจำเพื่อป้องกันฝุ่นละออง หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้าใบไม่ควรไว้ในที่แจ้งตลอด เพราะจะเกิดชื้อราง่ายควรเก็บเข้าที่ร่มเมื่อไม่ใช้งาน
รับมือกับสุนัขชอบคุ้ยแปลง
หลายสวนมีปัญหากับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข วิธีจัดการคือสร้างที่อยู่สำหรับสุนัขอย่างเป็นสัดเป็นส่วน เช่น กั้นรั้วหรือคอกที่ขนาดเหมาะสมกับสุนัข หมั่นฝึกฝนให้ขับถ่ายเป็นเวลาและอยู่ในสถานที่ที่เตรียมไว้ หากปล่อยให้วิ่งเล่นควรอยู่ในการดูแล ทำให้สุนัขเคยชินกับพื้นที่และรู้ว่าอะไรที่ทำได้และไม่ได้ เช่น อาการคุ้ยเขี่ยต้นไม้ เจ้าของต้องดุด้วยน้ำเสียงตักเตือนและทำเป็นประจำที่สุนัขเริ่มทำ
เราสามารถทำแปลงกั้นไม่ให้สุนัขกระโดดข้ามไปได้ โดยรั้วหรือระแนงควรแน่นหนาและมีรูปทรงหรือสีสันเข้ากันกับสวนเพื่อความสวยงามด้วย
มองหานักจัดสวน
สำหรับผู้ที่กำลังจะจัดสวนและมองหาบริษัทรับจัดสวน รับออกแบบสวน ออกแบบภูมิทัศน์ ต้องเลือกดีๆว่าเหมาะกับบริษัทที่ให้บริการแบบไหน ซึ่งอาชีพที่เกี่ยวกับการจัดสวน ออกแบบสวน ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบุคคล 4 กลุ่มด้วยกัน คือ
– ภูมิสถาปนิก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเช่นเดียวกับสถาปนิก สามารถเซ็นรับรองแบบก่อสร้างที่ต้องขออนุญาตได้ งานโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่จึงมักใช้ภูมิสถาปนิกเป็นผู้ออกแบบสวนให้
-นักออกแบบสวน เรื่องจัดสวนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การรู้จักต้นไม้ และมีความคิดสร้างสรรค์ มีพรสวรรค์ในด้านออกแบบก็สามารถเป็นนักจัดสวนได้ แต่ความสามารถก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ด้วย รวมถึงต้องมีความชำนาญในการแก้ปัญหาในสวน
-นักพืชสวน เป็นกลุ่มอาชีพที่เราไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไรนัก แต่อาชีพนี้เป็นกลุ่มที่รู้จักต้นไม้มาก เพราะศึกษามาทางด้าน Horticulture ซึ่งเป็นวิชาวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งการปลูกพืชผลและพืชสวนต่างๆ
-ผู้จำหน่ายต้นไม้ นักจัดสวนที่เติบโตมาจากร้านจำหน่ายต้นไม้จะมีทักษะในการเลือกต้นไม้ค่อนข้างสูง เนื่องจากคลุกคลีกับต้นไม้มานาน สามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าที่มาซื้อต้นไม้ได้
ก่อนเลือกเราควรศึกษาผู้ที่มาจัดสวนจากประวัติการทำงานรวมไปถึงผลงานว่ามีความน่าเชื่อถือและมีสไตล์ใกล้เคียงกับที่เราต้องการผ่านสื่อต่างๆ ทั้งนิตยสาร หนังสือ และสื่อออนไลน์ต่างๆ
การประเมินราคาจัดสวน
การประเมินราคาจัดสวนจำแนกราคาเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
– ราคาพรรณไม้ นักจัดสวนจะทำรายการแจกแจงรายละเอียดชนิดของพรรณไม้ ขนาด จำนวน และราคาที่ใช้ในการจัดสวน
– ราคาวัสดุ อุปกรณ์ มีรายละเอียดของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดสวน รวมถึงดินผสม ทราย ปุ๋ย และอุปกรณ์เคมีอื่นๆ
– ค่าแรง แยกเป็นค่าแรงในการปลูกต้นไม้ คิดเป็น 30-50 เปอร์เซ็นต์ของราคาพรรณไม้ และค่าแรงติดตั้งวัสดุคิดเป็น จำนวนคนงาน x จำนวนวัน (บางรายจะคิดค่าแรงในการปลูกต้นไม้รวมกับราคาพรรณไม้ที่เสนอมาตั้งแต่ต้น ส่วนค่าแรงติดตั้งวัสดุอาจคิดรวมกับค่าดำเนินการ)
– ราคางานเหมา ราคางานก่อสร้างบางส่วน นักจัดสวนบางรายอาจคิดราคาแยกเหมารวมเป็นชิ้นงาน เช่น ค่าถมดิน ค่าสร้างพื้นไม้ หรือค่าสร้างบ่อปลา (คิดเป็นราคาเหมารวมหรือราคาต่อตารางเมตร ค่าปูหญ้า (คิดราคาเป็นตารางเมตร) ซึ่งยอดเงินของราคางานเหมาทั้งหมดจะไม่ถูกรวมในการคิดเปอร์เซ็นต์ค่าดำเนินการ การเรียกเก็บค่ารับเหมานั้น คิดเป็น 50: 50 คือจ่ายทันทีที่ตกลงว่าจ้าง 50 เปอร์เซ็นต์ และจ่ายอีก 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อส่งมองงานเรียบง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับผู้รับเหมาด้วยเช่นกัน
– ค่าดำเนินการ รวมถึงส่วนของกำไรประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของราคาจัดสวนทั้งหมด ซึ่งราคานี้อาจไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับราคารวมของสวน ในกรณีที่งานจัดสวนมีราคาสูง เปอร์เซ็นต์อาจลดลง หรือถ้าราคาต่ำก็อาจเพิ่มขึ้น ราคาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงของนักจัดสวน (การคิดเปอร์เซ็นต์ค่าดำเนินการจะไม่นำราคางานเหมามาคิดรวม)
– ค่าแบบ โดยปกติแล้วจะคิดค่าแบบประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ราคาประเมินรวม ซึ่งนักจัดสวนบางรายอาจจะคิดราคาค่าแบบรวมไว้ในค่าดำเนินการ ส่วนกรณีการเบิกจ่ายเงินส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นงวดๆ รวม 3 งวด ในอัตรา 30 : 40: 30 โดยงวดแรกจะเรียกเก็บก่อนเริ่มจัดสวน งวดที่สองจะเรียกเก็บเมื่อทำงานฮาร์ดสเคปเสร็จ หรือคืบหน้าไปประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงวดสุดท้ายจะเรียกเก็บเมื่อมีการส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว หรือแล้วแต่นักจัดสวน
การคิดราคาของนักจัดสวนหรือภูมิสถาปนิก
สำหรับนักจัดสวนหรือภูมิสถาปนิกที่มีหน้าที่ออกแบบ หากมีขั้นตอนการควบคุมงานก่อสร้าง จะคิดราคาค่าบริการวิชาชีพภูมิสถาปนิกด้วย ซึ่งเป็นไปตามกฎของสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย โดยกำหนดไว้ 3 วิธี ดังนี้
- คิดตามเวลาการทำงาน (รายชั่วโมงหรือรายวัน)
- คิดเป็นสัดส่วนของค่าก่อสร้างที่ต้องดูแล
- ราคาที่ตกลงก่อนว่าจ้างว่าจะคิดค่าบริการเท่าไร และมีรายละเอียดอะไรบ้าง ทั้งนี้อยู่ในข้อตกลงระหว่างภูมิสถาปนิกกับผู้ว่าจ้างว่ามีบริการคิดค่าควบคุมงานไว้ในค่าดำเนินการแล้วหรือยัง
ส่วนข้อตกลงอื่นๆ หลังจากจัดสวนเสร็จแล้ว นักจัดสวนบางรายอาจมีบริการดูแลสวนให้ 1-3 เดือน และอาจรับประกันต้นไม้ให้ด้วย หากต้นไม้ตายสามารถเปลี่ยนหรือปรึกษาได้ ซึ่งจะรวมค่าดูแล ค่าประกันความเสี่ยง และค่าอื่นๆไว้ในค่าดำเนินการ นักจัดสวนบางรายอาจลดค่าดำเนินการให้ แต่จะไม่รวมค่าดูแลและค่าประกันต้นไม้