หารายได้จากไม้ใบ แบบนักสะสมและจําหน่ายไม้ใบรุ่นใหม่ Art Leaf Garden
คุณตั้ว – ยุทธวีร์ รอดแสงสินธุ์ และคุณโบว์-อิศราภา ซื่อตรง สองนักสะสมไม้ใบและไม้ด่างที่ปัจจุบันหันมาเป็นผู้จําหน่ายด้วยในฐานะเจ้าของเพจ Art Leaf Garden ซึ่งนักสะสมต้นไม้หน้าใหม่ให้ความไว้วางใจและมักมาขอคําแนะนําอยู่เสมอ ถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ก้าวจากนักสะสมต้นไม้และเปลี่ยนให้กลายเป็นช่องทางหารายได้ในที่สุด
เปลี่ยนความรักเป็นอาชีพ
“เราปลูกเพราะชอบ พอโตก็ขยายพันธุ์ พอขยายพันธุ์แล้วเหลือ เรามีซ้าํ จึงนํา ไปขาย”
นั่นคือกฎในการทําธุรกิจจําหน่ายไม้ใบของทั้งคู่ ต้นไม้ทุกต้นที่มีในบ้านจะมีแค่อย่างละต้นด้วยบริเวณบ้านมีที่จํากัด แต่ทั้งคู่อยากมีต้นไม้หลายชนิดเพราะแต่ละชนิดก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป นั่นจึงนําไปสู่การเข้าวงการไม้ด่าง ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกระแสหลักของวงการต้นไม้ไปแล้ว
“หากเราเลี้ยงดูต้นไม้เป็น ดูแลเป็น มันคือเงินที่งอกขึ้นมา ตอนนี้เราสามารถแจกและขายได้ เพราะต้นไม้ได้คืนทุนและกํา ไรให้เรามาหมดแล้วค่ะ”
ต้นไม้ที่จําหน่ายจากสวนแห่งนี้จะใช้วิธีขยายพันธุ์โดยการปักชํายอด ซึ่งกิ่งยอดที่ตัดจะล่อรากไว้ก่อน โดยไม่เสี่ยงตัดยอดหรือกิ่งพันธุ์หากยังไม่มีรากออก เพื่อให้แน่ใจว่าต้นไม้ที่ขยายพันธุ์จะมีรากออกและแข็งแรงพร้อมเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่
“เราไม่รีบ ดังนั้นเราจะรอให้รากแข็งแรงก่อนจึงตัด บางต้นตัดยากเพราะข้อชิดกัน เราก็ต้องสังเกตรากให้ดี พอตัดไปก็ทาปูนแดงเพื่อรักษาแผล ต้นไม้จะแทงยอดใหม่ จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับต้นนั้นๆ ต้นที่ปลูกใหม่ส่วนมากจะใช้เครื่องปลูกอย่างสแฟกนัมมอสส์ ซึ่งเหมาะกับการขยายพันธุ์มาก แต่ถ้าช่วงนี้ขาดตลาดก็ใช้กาบมะพร้าวสับได้ บางต้นเราขายไปก็ต้องแบกรับความเสี่ยง เพราะคนซื้ออาจได้ยอดไปซึ่งสามารถโตต่อได้เลย ขณะที่เราต้องมารอลุ้นว่าตอเก่าจะแทงยอดใหม่เมื่อไร แล้วยอดใหม่จะด่างไหม เพราะมีโอกาสสูงที่จะกลับมาเขียวเหมือนต้นไม้ทั่วไปที่ไม่ด่าง สํา หรับต้นที่เราซื้อมาแพงเราจะไม่ขายก็ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นทุนจะจม” คุณโบว์เล่า
กระแสไม้ใบในปัจจุบัน
“เราถือว่าเป็นนักสะสมต้นไม้หน้าใหม่ ปีที่แล้วสมมติว่ามีคนเริ่มสะสมต้นไม้ทั้งหมดประมาณหนึ่งแสนคน ทั้งหมดนี้ก็จะเริ่มขยันซื้อไม้ใบตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น ในขณะที่ต้นไม้หลักแสนมีมานานแล้ว แต่น้อยคนที่จะกล้าซื้อ ณ วันนี้คนที่สะสมต้นไม้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว คนที่สะสมต้นไม้ของปีที่แล้วเมื่อเริ่มขายต้นไม้และพอมีทุนก็เริ่มขยับตัวเองมาจับต้นไม้หลักแสนบาทกันมากขึ้น ดังนั้นต้นไม้ในราคาหลักแสนที่แต่เดิมก็หายากอยู่แล้ว วันนี้ยิ่งยากขึ้นอีก เพราะคนหนึ่งแสนคนเมื่อปีที่แล้วก็มีความต้องการ มีการแย่งชิงต้นไม้หายากเหล่านั้นด้วยราคาและคอนเน็กชั่น ไม่นับรวมนักสะสมต้นไม้หน้าใหม่ของปีนี้ที่ก็จะยิ่งมีทุนมากขึ้นมาอีกส่วนตัวเรายังเป็นคนแบบเก่าที่ชอบซื้อต้นไม้จากร้านเดิม ไม่คอยชอบซื้อต้นไม้จากทางอินเทอร์เน็ต จึงช่วยลดโอกาสที่ถูกหลอกหรือปั่นราคาจนเกินจริงได้มาก”
อนาคตที่มองตัวเองไม่เหมือนเดิม
“ในอนาคตเราวางแผนว่านี่แหละความสุขของเรา เราอยากกลับไปทําสวนที่ต่างจังหวัดทั้งส่งออกต่างประเทศและขายในประเทศ แน่นอนส่วนหนึ่งเราก็ทํา เพราะอยากเก็บสะสมต้นไม้เหล่านี้ไปเรื่อยๆ จนแก่เฒ่า ไม่อยากแก่ไปแล้วต้องอยู่บ้านเฉยๆ อีกแล้ว
“ต้องบอกว่าต้นไม้เปลี่ยนชีวิตเรา เราตื่นเช้าขึ้นได้อย่างไม่ขี้เกียจ ลุกจากที่นอนโดยที่รู้เลยว่าจะไปทําอะไร ไม่ต้องไปทํา งานร่วมกับใครหรือต้องรอใคร เราสามารถทํา งานกับต้นไม้ได้เลย แทบจะทันทีที่ตื่นมา พอแดดออกก็เข้าบ้าน พ่อแม่ของโบว์เป็นเกษตรกร เมื่อก่อนเราไม่เคยเข้าใจเขาเลยว่าจะรีบตื่นขึ้นมาทํางานแต่เช้าทําไม แต่พอเรามาทํา เองจึงเข้าใจว่ามันไม่ได้เหนื่อยอย่างที่คิด เราทําแค่ตอนเช้าและตอนเย็น ตอนสายเราก็พักเหนื่อย ต้นไม้กลายเป็นทั้งความสุข
และชีวิตของเราไปแล้ว”
ปัจจุบันคุณตั้วและคุณโบว์ได้ใช้ประสบการณ์จากงานด้านโปรดักชั่นเฮ้าส์มาทําคลิปและถ่ายภาพเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับไม้ใบไปด้วย เช่นเดียวกับการขายต้นไม้ แม้จะเป็นต้นไม้หลักร้อย แต่ทั้งคู่ก็แพ็คส่งให้ลูกค้าอย่างดีเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ต้นไม้ในสภาพเหมือนกับอยู่ในสวนของพวกเขาเอง ไม่ว่าในวงการต้นไม้หรือว่าอาชีพอื่นๆ ความน่าเชื่อถือสําคัญเสมอ คนที่ทําดี ตั้งใจขาย ก็จะได้ลูกค้าประจําเรื่อยๆ อันเป็นรากฐานสําคัญในการประกอบอาชีพนี้ต่อไป
ติดตามคุณตั้วและคุณโบว์ รวมถึงข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับไม้สะสมได้ที่
facebook : Art Leaf Garden
instagram : art_leaf_garden
youtube : Art Leaf Garden
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข