สวนรีโนเวตแสนร่มรื่นที่งามตามกาลเวลา - บ้านและสวน

สวนรีโนเวตแสนร่มรื่นที่งามตามกาลเวลา

มีคนเคยกล่าวว่า นักออกแบบที่ยิ่งใหญ่และอัจฉริยะที่สุดคือธรรมชาติ ซึ่งออกแบบสรรพสิ่งที่มีทั้งความเหมือนและความต่างให้เกิดความงามได้อย่างน่าสนใจ เมื่อนำทั้งสิ่งที่เหมือนและต่างนั้นมาอยู่ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติก็สามารถผสมกลมกลืนเป็นเอกภาพที่สมบูรณ์ได้เฉกเช่นสวนรีโนเวตแห่งนี้

เจ้าของ : นาวาอากาศเอก ธนภัทร- คุณภูษณิศา งามปลั่ง
ออกแบบ : บริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จํากัด โดยคุณสราวุธ ทูละมาลย์ โทรศัพท์09-1707-8349

คุณหมูและคุณชมพู สองสามีภรรยาผู้ชื่นชอบพรรณไม้ต่างสไตล์กับมุมสวนหลังบ้านที่เปิดออกไปชมวิวดวงอาทิตย์ตกที่ริมทะเลสาบได้
สวนนี้ไม่ต้องมีคนสวนมาดูแลบ่อยก็จริง แต่ต้องได้รับการตัดแต่งทุก 2-3 เดือน เพื่อให้กิ่งต้นไม้ใหญ่โปร่งเพียงพอให้แสงแดดส่องลงมายังพรรณไม้เบื้องล่างได้ ทำให้ไม้ดอกและไม้ใบสามารถออกดอกและมีสีสันสวยงามเสมอ
สวนออกแบบอย่างน่าสนใจด้วยสไตล์ที่ดูร่วมสมัย มีพรรณไม้ธรรมชาติที่ให้สีสันหลากหลาย แทรกไปกับของตกแต่งสวนอย่างงานประติมากรรมและกระถางต้นไม้ที่ให้กลิ่นอายคลาสสิกได้อย่างลงตัว
งานประติมากรรมนางฟ้าที่เป็นจุดเด่นในสวนคือหนึ่งในสิ่งที่คุณสราวุธเลือกมาใช้จัดสวน ด้วยความเป็นเพื่อนที่สนิทสนม จึงเข้าใจความชอบของเจ้าของบ้าน ซึ่งเมื่อนำรูปปั้นมาจัดวางร่วมกับต้นไม้ใบสีเขียวเข้มก็ทำให้มุมดังกล่าวดูอ่อนหวานขึ้น

ณ บ้านหรูริมทะเลสาบย่านชานเมืองของคุณหมู-นาวาอากาศเอก ธนภัทรและคุณชมพู- ภูษณิศา งามปลั่ง ดูเป็นธรรมชาติและร่มรื่นตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน โดยผสมผสานระหว่างรูปแบบการจัดวางกับงานฮาร์ดสเคปที่ให้กลิ่นอายของความร่วมสมัยแบบสวนยุโรป ขณะเดียวกันก็เลือกใช้พรรณไม้พื้นถิ่นของประเทศไทยและป่าเขตร้อนมาจัดวางไว้ด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ จากฝีมือการออกแบบของ คุณสราวุธ ทูละมาลย์ นักจัดสวนแห่งบริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จากัด ที่ใช้เวลาออกแบบและดูแลสวนแห่งนี้เป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปีมาแล้ว

“ตอนที่ซื้อบ้านหลังนี้เราได้มุมที่ดีที่สุดของโครงการ  เป็นมุมที่ติดกับทะเลสาบ  สามารถมองออกไปเห็นดวงอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบได้เลยจากในบ้าน  เป็นมุมที่สวยงามดีอยู่แล้ว  แต่กลับไม่มีต้นไม้อยู่เลยสักต้นเดียว  มีเพียงสนามหญ้าโล่งและแดดร้อนมาก  คุณสราวุธเป็นเพื่อนกับภรรยาของผมและเคยจัดสวนที่บ้านหลังเก่าของเรามาแล้ว  เราเห็นว่าเขาฝีมือดีก็เลยให้มาช่วยจัดสวนที่บ้านใหม่หลังนี้อีกครั้ง  โดยบอกโจทย์ว่าต้องการให้สร้างร่มเงาแก่ตัวบ้าน  ควรมีต้นไม้ใหญ่อย่างน้อย 4-5 ต้นเพื่อช่วยบังแดดไม่ให้เข้าบ้าน” คุณหมูเล่า

หลังจัดสวนครั้งแรกเสร็จผ่านมาหลายปีจนต้นไม้ใหญ่เริ่มเติบโตและให้ร่มเงาที่เหมาะสมตามที่ต้องการได้แล้ว คุณหมูและคุณชมพูเริ่มอยากเปลี่ยนแปลงสวนอีกครั้ง โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ริมรั้วที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้มีพรรณไม้ที่ตรงตามความชอบของทั้งคู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณชมพูนั้นชอบไม้ดอก แต่คุณหมูยังชื่นชอบต้นไม้ใหญ่อยู่ นอกจาก
นี้ยังย้ายตำ แหน่งศาลาจากด้านหลังมาอยู่บริเวณหน้าบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ กลายเป็นมุมนั่งพักผ่อนรับลมของคุณแม่ และสร้างเรือนรับรองขึ้นใหม่แทนที่ตำแหน่งศาลาเดิม แต่ยังยึดแกนตำแหน่งนํ้าพุที่มีอยู่เดิมเอาไว้ และเก็บต้นไม้ใหญ่คงเดิมให้มากที่สุด มีเพียงบางต้นที่จำเป็นต้องขุดล้อมเพื่อย้ายตำแหน่ง

ระดับพื้นปูแผ่นไม้ธรรมชาติที่เชื่อมระหว่างเรือนรับรองกับศาลายกระดับสูงขึ้น เพื่อให้รู้สึกเชื่อมต่อกันและสามารถเดินเชื่อมถึงกันสะดวก นอกจากนี้ยังกลายเป็นมุมที่สามารถยืนชมทะเลสาบได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ศาลาที่มีอยู่เดิมตั้งแต่จัดสวนในครั้งแรกย้ายตำ แหน่งมาอยู่บริเวณหน้าบ้านใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ใช้เป็นมุมนั่งเล่นที่สามารถรับลมธรรมชาติที่พัดผ่านมาจากทางทะเลสาบหลังบ้าน
ไม่ลืมที่จะติดตั้งเสาไฟทรงสูงแทรกเอาไว้ตามบริเวณทางเดินเพื่อให้แสงสว่างในยามคํ่าคืน อีกทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ได้อีกอารมณ์หนึ่งต่างไปจากช่วงกลางวัน
ในสวนใช้ต้นไม้หลายระดับ ทั้งไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ขนาดกลาง ไม้พุ่ม และไม้คลุมดินมาปลูกร่วมกันเพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนสวนป่าธรรมชาติในเขตร้อนชื้นที่สมบูรณ์ อีกทั้งยังช่วยพรางสายตาจากภายนอกและให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว
ไม้ใบที่กำ ลังเป็นที่นิยมเช่น  บอนสี แก้วสารพัดนึก  นำ มาจัดเป็นไม้ระดับล่างที่ให้สีสันตัดกับสีเขียวของเฟินและพรรณไม้ทั่วไป

“ตอนแรกในใจผมอยากปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและก็มีความเป็นสิริมงคลด้วย แต่ผมยังชื่นชอบต้นไม้ใหญ่มากเพราะเป็นชาวสวนเก่า อย่างจิกนํ้าปีหนึ่งจะผลัดใบครั้งหนึ่งต้นใหญ่และให้ความร่มรื่นเข้ากับบ้านมาก เราปลูกมาตั้งแต่ต้นยังเล็กตอนนี้ช่วยบังแดดไม่ให้ส่องเข้ามาในบ้าน ส่วนต้นอื่นๆ ก็เสริมให้บ้านดูร่มรื่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ต้นไม้เล็กๆ ได้เติบโตอิงอาศัยใต้ร่มเงา เกิดเป็นระบบนิเวศที่สมดุล” คุณหมูพูด

“บ้านหลังนี้ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควรครับ เพราะเรารู้จักนิสัยของเจ้าของบ้านทั้งสองท่านที่มีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นก็จะต้องมีตรงกลางที่คล้ายกัน คุณผู้หญิงชอบไม้ดอก คุณผู้ชายชอบไม้ยืนต้นดูครึ้ม ผมจึงปรับมาใช้ไม้ดอกในร่ม แต่ต้นไม้ในกลุ่มนี้ก็มีไม่มากและต้องดูแลให้ระบบนิเวศสมบูรณ์จึงจะออกดอก แม้จะยาก
แต่ก็สามารถทำได้ สวนนี้แม้แต่กล้วยไม้รองเท้านารีที่ออกดอกยากก็สามารถบานได้ตลอดเรื่อยๆ”คุณสราวุธเล่า

เคล็ดลับของการทำระบบนิเวศให้สมบูรณ์นอกเหนือจากร่มเงาของต้นไม้ใหญ่แล้ว ยังใช้หินฟองนํ้าและวัสดุที่ช่วยเก็บความชื้นได้ดีมาวางแทรกในสวนและในดินเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นสะสม ซึ่งยังสามารถสังเกตได้ด้วยว่าความชื้นในสวนน้อยไปหรือไม่ โดยดูจากลักษณะของมอสส์บนหินฟองนํ้า เมื่อระบบนิเวศในสวนสมบูรณ์ก็ทำให้การดูแลสวนน้อยลงเหลือแค่ 2 – 3 เดือนต่อครั้ง โดยเข้ามาตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ให้เกิดช่องที่แสงส่องลงมาจนมีสภาพเหมาะสมกับการเกิดมอสส์ ช่วยให้บรรยากาศของสวนมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

บริเวณผนังรั้วที่ติดกับบ้านหลังอื่น ด้านหลังออกแบบเป็นสวนแนวตั้งที่ให้ความรู้สึกเลียนแบบภูเขาหินด้วยหินฟองนํ้าและตอไม้แทรกไปกับพรรณไม้อย่างเฟิน เฟินสาย  ฟิโลเดนดรอน  เทียนฝรั่ง  และบีโกเนีย
ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน  ช่วยให้อุณหภูมิในบ้านเย็นขึ้นได้มากซึ่งมีไม้เลื้อยอย่างฟิโลเดนดรอนและมอนสเตอร่าเกาะบริเวณเปลือกลำต้นแบบอิงอาศัยเหมือนบรรยากาศ
ในป่าธรรมชาติ
สำหรับมุมที่ดูครึ้มจนเกินไปและต้องการความสดชื่นก็เติมสีสันด้วยไม้ดอกอย่างแพงพวยฝรั่งหรือพีทูเนียเพื่อให้ความสดใสและดูสะดุดตา

กระถางเอิร์นหลากหลายรูปแบบวางแทรกอยู่ตามมุมต่างๆในสวนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเกิดคราบที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างสวยงาม
พื้นทางเดินและงานฮาร์ดสเคปใช้แผ่นหินธรรมชาติคละสีมาทำ เพื่อให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับบรรยากาศของพรรณไม้ในสวน โดยทำระบบสปริงเกลอร์ให้อยู่ห่างจากทางเดินเพื่อกันลื่น
บอนสี สกุลคาลาเดียม (Caladium) วงศ์ Araceae เป็นพืชที่มีหัวสะสมอาหารใต้ดินทุกส่วนอวบน้าํ ใบมีหลายขนาดและหลายรูปทรงทั้งรูปหัวใจ รูปหอก รูปกลมหรือรี และรูปแถบมีสีสันลวดลายต่างกันตามชนิดพันธุ์ ทั้งสีแดงชมพู เหลือง เขียว และขาว ต้องการความชื้นสูง มีแสงแดดรําไร ไม่ร้อนจัด และมักพักตัวในช่วงฤดูหนาวโดยทิ้งใบเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดิน
ศรีตรัง ชื่อวิทยาศาสตร์ Jacaranda obtusifolia Bonpl. วงศ์Bignoniaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ต้องการนํ้าและความชื้นปานกลาง โตช้า เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีอินทรียวัตถุสูง หากปลูกในภาคเหนือและภาคใต้จะให้ดอกดก ในพื้นที่ปลูกที่แห้งแล้งมักทิ้งใบหมดต้นและออกดอกสีม่วงเข้ม ออกดอกเดือนธันวาคมถึงมีนาคม
โสกเหลือง ชื่อวิทยาศาสตร์ Saraca thaipingensis Cantley ex Prain วงศ์Caesalpiniaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไม่ผลัดใบ ชอบนํ้าและความชื้นสูง โตช้า เจริญเติบโตได้ดีใน
ที่ชุ่มชื้น แสงแดดจัดหรือรำ ไร พบในท้องถิ่นเดิมที่นํ้าตกธารโต จังหวัดยะลา ออกดอกสีเหลืองสดใส ใบประกอบแบบขนนก
หอมเจ็ดชั้น ชื่อวิทยาศาสตร์ Tarenna wallichii (Hook.f.) Ridl. วงศ์Rubiaceae ต้นไม้พุ่มชอบแดดเต็มวัน ดินร่วน ดอกบานพร้อมกันทั้งช่อนาน 2 – 3 วันแล้วโรย ส่งกลิ่นหอมแรงตลอดวันออกดอกช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ หากปลูกในพื้นที่ที่มีความชื้นตลอดปีจะทยอยออกดอกในช่วงอื่นๆ ได้ ควรหมั่นตัดแต่งกิ่ง และอากาศเย็นจะออกดอกดก
รักแรกพบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Xanthostemon chrysanthus (F. Muell.) Benth. วงศ์Myrtaceae ไม้พุ่มขนาดใหญ่ ออกเป็นกระจุกกลมที่ปลายกิ่ง ดอกมีสีเหลืองและแดงเห็นเกสร
เพศผู้เด่นชัด ชอบดินร่วนระบายนํ้าดีและแสงแดดครึ่งวัน สามารถปลูกลงกระถางหรือปลูกลงแปลงกลางแจ้งได

เรื่อง : ปัญชัช

ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, พรชิตา พลแก้ว