ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน ทั้งงานไม้และงานเหล็กให้ใช้งานได้ดีตลอด - บ้านและสวน

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวนทั้งงานไม้และงานเหล็กอย่างไร ให้สวยและใช้งานได้นานๆ

ใคร ก็อยากมีสวนสวยทั้งนั้น นอกจากการรดน้ำ ใส่ปุ๋ยและดูแลต้นไม้ให้เจริญเติบโตดีแล้ว การ ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน และของตกแต่งก็มีส่วนทําให้สวนของเราดูน่าเข้าไปใช้งานมากขึ้น

ตาม บ้านและสวน มาเรียนรู้เคล็ดลับและวิธีการ ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน ให้ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิมกันค่ะ 

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน

เฟอร์นิเจอร์ขึ้นสนิม

หากเฟอร์นิเจอร์ในสวนมีส่วนประกอบที่เป็นเหล็ก คงหนีไม่พ้นปัญหา เรื่องสนิม ซึ่งวิธีกําจัดก็ไม่ยากอย่างที่คิด

1. ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออก

2. ทาน้ำยากันสนิม แล้วปล่อยให้แห้ง

3. ทาสีน้ำมันตามสีที่ต้องการ จะเป็นสีเดิมหรือสีที่เข้มกว่าเดิมก็ได้

Tips หมั่นตรวจสอบสภาพเฟอร์นิเจอร์เสมอ ไม่ควรปล่อยให้เกิดสนิมลุกลามจนผุกร่อนแก้ไขไม่ได้ และหลีกเลี่ยงการวางในพื้นที่ที่โดนแดดและฝน หรือในพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน
ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในสวน

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ในสวน

ไม้เป็นวัสดุอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนํามาประกอบการจัดสวน ไม่ว่าจะเป็น ทางเดิน ศาลา ระแนง หรือเฟอร์นิเจอร์ การดูแลรักษาเนื้อไม้ให้สวยทนนาน มีขั้นตอนดังนี้

1. ควรเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง ซึ่งทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้เต็ง ฯลฯ

2. ทาน้ำยาป้องกันแมลงกินเนื้อไม้

3. ทาสีย้อมไม้ เพื่อช่วยลดการดูดซับและสูญเสียความชื้นของเนื้อไม้ ควรทาอย่างน้อย 2 3 ชั้น แต่ละชั้นควรทิ้งให้แห้งนาน 6 ชั่วโมงขึ้นไป ก่อนทาซ้ำ

4. หลังจากนั้นจึงทาสีน้ำมันหรือสีน้ำพลาสติกสําหรับงานไม้ สีเหล่านี้จะมีความทนทานต่อน้ำและแสงแดด

ชนิดของสีย้อมไม้

สีย้อมชนิดใส ผลิตจากส่วนผสมของผงสีและเรซินคุณภาพดี มีคุณสมบัติ โปร่งแสง ให้ความเงางาม เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ต้องการเน้นสีและลวดลาย ธรรมชาติของไม้

สีย้อมไม้ชนิดเงา มีลักษณะกึ่งโปร่งแสง ให้สีด้านแบบธรรมชาติ เหมาะกับ ไม้ทุกชนิด มีคุณสมบัติป้องกันน้ํา ปกป้องผิวของเนื้อไม้จากรังสีอัลตราไวโอเลต ป้องกันความซีดจางของเนื้อไม้ และมีส่วนผสมของสารป้องกันเชื้อรา

สีย้อมไม้กึ่งเงา มีลักษณะกึ่งโปร่งแสง ให้ความงามแบบกึ่งเงากึ่งด้าน ทนต่อ รังสีอัลตราไวโอเลต และมีส่วนผสมของสารป้องกันเชื้อรา เหมาะกับไม้ทุกชนิด

Tips

1. เฟอร์นิเจอร์ไม้ในสวนมักต้องเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล จึงอาจเกิดการบิดตัว หดตัว หรือโก่งตัวจนทำให้เสียรูปทรง ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการขัดสีที่เสียหายออก จากนั้นไสเนื้อไม้ให้เรียบแล้วจึงทาสีใหม่ทับอีกที
2.
ควรทาสีย้อมไม้สําหรับไม้นอกบ้านทุก 3 ปี เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน และควรเป็นสีย้อมไม้สูตรน้ำมัน เพราะเหมาะกับงานไม้ภายนอก



เรื่อง : “Nuttanunt”

ภาพประกอบ : มาโนช กิตติชีวัน