บ้านจีนโมเดิร์น ของทายาทแบรนด์ขนมเปี๊ยะชื่อดังแห่งเมืองฉะเชิงเทรา “ตั้งเซ่งจั้ว” ซึ่งเน้นการออกแบบเป็นกลุ่มบ้านที่อยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่ ภายใต้แนวคิดที่ต้องการแสดงความรักและความเคารพที่มีต่อ “อาม่า” ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของลูกหลาน
เจ้าของ : ครอบครัวตันคงคารัตน์
สถาปนิก : ต้นศิลป์ สตูดิโอ โดยคุณชาตรี ลดาลลิตสกุล
ตกแต่งภายใน : คุณปิยพร ตันคงคารัตน์
หัวหน้าทีมก่อสร้าง : คุณวิวัฒน์ เกิดลาภ
ผู้รับเหมา : บริษัทลายคราม จำกัด
บ้านจีนโมเดิร์น
“ตั้งเซ่งจั้ว” คือ ตำนานความอร่อยของขนมเปี๊ยะบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่หลายคนรู้จักกันดี อากงและอาม่า เจ้าของสูตรขนมเปี๊ยะแสนอร่อยได้หอบหิ้วความฝันและฝีมือการทำขนมเปี๊ยะที่สั่งสมประสบการณ์จากการเป็นลูกจ้างในร้านขนมเปี๊ยะชื่อดังในเมืองจีน เพื่อมาสร้างเนื้อสร้างตัวตั้งรกรากเปิดร้านขายขนมอยู่มี่ตลาดบางคล้า สร้างชื่อเสียงมายาวนานหลายทศวรรษ วันนี้ตั้งเซ่งจั้วก็ยังคงสืบทอดความอร่อยโดยมีลูกหลานรุ่นใหม่คอยดูแลกิจการ
พื้นที่ส่วนหน้าประกอบด้วยบ้านของอาม่า ศาลากลางสวนทับทิมให้บรรยากาศสวนจีนโบราณ ส่วนพื้นที่ด้านหลังเป็นบ้านลูกหลานหลังอื่นๆ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น สะท้อนวิถีคนรุ่นใหม่
อักษรจีน “ซุ่น” มีความหมายว่า ราบรื่น ความหมายดีๆที่สร้างกำลังใจและเตือนสติว่า “เมื่อมีความมานะและอดทนแล้ว ทุกสิ่งย่อมราบรื่น
ตกแต่งพื้นที่หน้าบ้านของอาม่าให้มีบรรยากาศคล้ายโรงเตี๊ยม โดยการเลือกใช้กระเบื้องมุงหลังคากาบกล้วย เพิ่มรายละเอียดด้วยราวระเบียงแบบจีน เสริมความร่วมสมัยด้วยชุดเก้าอี้ไม้สไตล์โมเดิร์นและผิวผนังคอนกรีตแบบเปลือย
กระเบื้องกาบกล้วย แผ่นกระเบื้องมีลักษณะคล้ายกาบลำต้นของต้นกล้วย กระเบื้องชนิดนี้มักใช้มุงหลังคาอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์จีนหรือญี่ปุ่น ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่หลังคาทรงโค้งอ่อนช้อยนุ่มนวบ กระเบื้องกาบกล้วยดั้งเดิมเป็นกระเบื้องดินเผาธรรมดา ต่อมาดัดแปลงมาเป็นเซรามิกเคลือบผิวเพื่อความแข็งแรงและทนต่อความชื้น
ประตูวงพระจันทร์ นอกจากให้กลิ่นอายความเป็นจีนแล้ว ยังทำหน้าที่เหมือนซุ้มประตูเพื่อเน้นการเปลี่ยนพื้นที่ แบ่งพื้นที่ด้วยแนวรั้วคอนกรีตสูงระดับหัวไหล่ที่ไม่สูงเกินไปนัก ทำให้ยังมองเห็นกันได้ จึงไม่รู้สึกตัดขาดจากกัน
เมื่อครอบครัวเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ตึกแถวที่เคยเป็นบ้านเก่าจึงดูคับแคบลง หากเป็นครอบครัวอื่นการขยับขยายไปอยู่ที่อื่นอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่สำหรับ ครอบครัวตันคงคารัตน์ การอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่ภายใต้ความรักความอบอุ่นจากอาม่านั้นเป็นสิ่งสำคัญกว่า นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านหลังใหม่บนเนื้อที่กว้างขวางขนาด 2 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกับโรงงานทำขนมและบ้านหลังเก่าเพื่อให้ทุกคนได้อยู่พร้อมหน้ากันอย่างอบอุ่น
ไอเดียการออกแบบ
คุณชาตรี ลดาลลิตสกุล สถาปนิกและผู้ก่อตั้งต้นศิลป์ สตูดิโอ ได้นำเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมจีนมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กลายเป็น บ้านจีนโมเดิร์น เพื่อสะท้อนประวัติความเป็นมาของครอบครัว และคงภาพความอบอุ่นของครอบครัวนี้เอาไว้ เน้นความใกล้ชิดของคนในครอบครัวด้วยการออกแบบบ้านแต่ละหลังให้มีทางเดินเชื่อมถึงกันได้แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว โดยเว้นระยะห่างของบ้านแต่ละหลังด้วยคอร์ตหญ้าและสวนสไตล์จีนผสมผสานความเรียบง่ายแบบสวนสไตล์ญี่ปุ่น บริเวณกลุ่มบ้านเหล่านี้มีศูนย์กลางอยู่ที่บ้านของอาม่า ซึ่งเป็นที่รวมจิตใจของลูกหลาน
“เราเรียกกลุ่มบ้านตั้งเซ่งจั้วว่า ‘บ้านเฉินฝู่’ ‘เฉิน’ เป็นคำเรียกในภาษาจีนกลางของแซ่ตั้ง ‘ฝู่’ นั้นมีความหมายว่า กลุ่มบ้าน”
ด้วยความรักและความเคารพที่มีต่ออาม่า ในขั้นตอนการออกแบบกลุ่มบ้าน ซึ่งอยู่ในช่วงที่อาม่ายังมีชีวิตอยู่ การออกแบบได้คำนึงถึงความสะดวกสบายของอาม่าเป็นสำคัญ เช่น ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทำทางลาดสำหรับรถเข็น ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการไปมาหาสู่และเชื่อมโยงความรักความห่วงใยไปถึงลูกหลานทุกคนในบ้าน บ้านจีนโมเดิร์น
กลุ่มบ้านในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนโมเดิร์น มีการทำทางลาดไว้สำหรับใช้งานรถเข็นได้ เพิ่มความรู้สึกเป็นธรรมชาติดด้วยการเลือกใช้หลังคาไม้ซีดาร์ และเสาไม้เนื้อแข็ง ช่วยลดความแข็งกระด้างของคอนกรีตแบบเปลือยและเหล็กลงได้
หลังคาไม้ซีดาร์เป็นวัสดุนำเข้าจากแคนาดาเป็นหลัก มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายไม้กระดาน การปูหลังคาไม้ซีดาร์ต้องปูให้ซ้อนเหลี่ยมกันประมาณ 3 ชั้น ใช้วัสดุกันซึมรองด้านล่างก่อนจะรองรับด้วยโครงสร้างของหลังคาต่อไป เมื่อเทียบกับกระเบื้องสำเร็จรูปทั่วไป หลังคาไม้ซีดาร์ต้องดูแลรักษาและตรวจเช็กเป็นประจำ มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ได้รับความนิยม เพราะสีของเมื้อไม้ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เข้ากันได้ดีกับการตกแต่งสไตล์รีสอร์ตหรือโมเดิร์น
บรรยากาศภายในศาลากลางน้ำสามารถมองออกไปเห็นพื้นที่ภายนอกได้รอบทิศทาง ทำให้แขกที่มาเยี่ยมเยือนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัว ผสมผสานโครงสร้างเสาสีแดงให้กลิ่นอายสถาปัตยกรรมจีน
กำหนดให้ระดับพื้นของศาลากลางน้ำต่ำกว่าพื้นที่ในบ้าน 1 เมตร แต่การทำทางลาดสำหรับรถเข็นอาจกินพื้นที่เกินไป จึงออกแบบลิฟต์ขนาดเล็กไว้ด้วย โดยใช้ไม้เป็นตัวกั้นลิฟต์ ดูกลมกลืนเข้ากับห้องได้ดี
ผนังบ้านส่วนที่เปิดโล่งไปถึงชั้น 2 มีพื้นที่ผนังว่างๆจึงออกแบบตู้เก็บของที่มีโคมไฟในตัว เป็นตัวอักษรคิว (Q) และเอ็น (N) ของเจ้าของบ้าน เป็นไอเดียที่เก๋และเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านได้เป็นอย่างดี
ออกแบบกระจกบริเวณอ่างล้างมือให้มีหน้าบานเปิด-ปิดคล้ายบานหน้าต่างแบบจีน สามารถซ่อนเก็บกระจกได้ เพิ่มลูกเล่นด้วยมือจับโลหะบนหน้าบานสีแดงสด ช่วยเพิ่มเสน่ห์สไตล์จีนโมเดิร์นให้ห้องดูสดใสขึ้น
การเลือกใช้วัสดุ
เน้นวัสดุที่มีสีและผิวสัมผัสตามความงามธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นตะวันออกผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ไม้ กระเบื้องดินเผา และก้อนหิน
อีกมุมหนึ่งของศาลากลางน้ำ เสาลอยคอนกรีตเปลือยที่ล้อมตัวศาลาทำหน้าที่ช่วยรับชายคาที่ยื่นออกมา นอกจากนี้เสาลอยยังช่วยเพิ่มมิติสร้างเส้นแนวตั้งให้ตัวอาาคารดูมั่นคงแข็งแรง แต่ก็ยังแฝงความนุ่มนวลของพื้นที่ใช้สอยภายในไว้ พื้นที่ส่วนนอกบ้านเป็นคอร์ตหญ้าผืนใหญ่ ลดทอนพื้นที่กว้างโล่งด้วยการใช้แนวต้นไม้จำพวกต้นข่อยตัดแต่งทรงพุ่มให้มีความสูง 60 เซนติเมตร ดูเป็นสัดส่วนดูแลไม่ยาก
ติดชุดรางหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ประกอบกับรางไม้เพื่อเก็บระบบสายไฟต่างๆ ทำให้เข้ากับสไตล์ของบ้านที่เน้นองค์ประกอบของไม้ได้ดี ดูสวยลงตัวกว่าชุดแขวนหลอดไฟแบบสำเร็จทั่วไป
โครงสร้างของหลังคาที่เป็นไม้ ขนาด 6 x 6 นิ้ว เป็นไม้เก่าที่เคยใช้เป็นไม้รองวัตถุดิบในการทำขนมเปี๊ยะตั้งแตสมัยเริ่มทำร้าน ช่วยบอกเล่าเรื่องราวให้คนในครอบครัวได้หวนนึกถึง
แม้ในวันนี้ที่อาม่าจะไม่อยู่แล้ว แต่ บ้านจีนโมเดิร์น หลังนี้ก็ยังคงทำหน้าที่ให้ลูกหลานทุกคนได้ระลึกถึงอาม่า ทั้งเพื่อแสดงถึงความรักและความผูกพันของครอบครัวที่ยังคงอยู่ตลอดไป
เรื่อง : สุเทพ บุญน้อม
ภาพ : ดำรง ลี้ไวโรจน์
ผู้ช่วยช่างภาพ : ธนัฏ รัตนสุภา
