บ้านชั้นเดียวทรงกล่อง สะท้อนธรรมชาติ
บ้านชั้นเดียวทรงกล่อง สี่เหลี่ยมหลังเล็กๆ 2 หลัง มีผนังเป็นกระจกใสรอบตัวเพื่อให้กระจกเชื่อมโยงธรรมชาติภายนอกเข้ามาสู่ภายในบ้าน
ด้วยงานรับเหมาสร้างบ้านทำให้ คุณขจี เกศจุมพล ผู้เป็นนายช่างใหญ่ต้องเดินทางไปๆ มาๆ ตามไซต์งานก่อสร้างอยู่เสมอ โดยหนึ่งในทำเลที่เขาเดินทางมาบ่อยครั้งก็คือเขาใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติสมบูรณ์พร้อมด้วยโอโซนบริสุทธิ์ในอันดับต้นๆ ของโลก “เวลาขับรถผ่านกิโลเมตรที่ 9-10 ผมชอบลดกระจกรถลงเพื่อเอามือออกมารับลม และรู้สึกเลยว่าได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายขึ้นมาทันที” คุณขจีเล่าถึงความประทับใจนั้นที่ทำให้เขาเริ่มมองหาทำเลเพื่อสร้าง บ้านชั้นเดียวทรงกล่อง ในโซนเขาใหญ่เพื่อไว้พักผ่อนเองสักหลัง
พื้นที่ราว 1 ไร่นี้อยู่ตรงเส้นทางไปมวกเหล็ก เป็นทำเลที่เหมือนอยู่ในหุบเขาเพราะมีแนวภูเขาช่วยป้องกันแดดและลมแรงได้ เวลาฝนตกอากาศเย็นยังมองเห็นแนวหมอกสวยๆ พาดผ่านเขา เมื่อถูกใจในทิวทัศน์ธรรมชาติรอบตัวแบบนี้แล้ว คุณขจีจึงเริ่มออกแบบบ้านขึ้นมาโดยตั้งใจจะให้บ้านอยู่กลมกลืนไปกับบริบทของท้องฟ้า ก้อนเมฆ และภูเขา เพื่อซึมซับพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติรอบตัวให้ได้มากที่สุด
“ผมออกแบบบ้านให้เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่เอื้อเฟื้อต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ไปบดบังทัศนียภาพ ก็เลยทำเป็นบ้านชั้นเดียวทรงกล่องสี่เหลี่ยมหลังเล็กๆ 2 หลัง มีผนังเป็นกระจกใสรอบตัวเพื่อให้กระจกเชื่อมโยงธรรมชาติภายนอกเข้ามาสู่ภายในบ้านและยังสะท้อนมุมมองธรรมชาติกลับไปกลับมา ตัวบ้านเป็นโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรงสร้างได้เร็วและทำให้เส้นผนังดูบางเบาเหมือนลอยได้ แล้วยกบ้านให้สูงขึ้นจากระดับพื้นดินเล็กน้อยให้เป็นที่ซ่อนงานระบบต่างๆ อีกทั้งลดปัญหาเรื่องความชื้นและปลวกด้วย แต่ทาสีดำเพื่อให้ข้างล่างดูกลืนหายไปจากสายตา แล้วติดช่องลมไว้ช่วยระบายความร้อนทำให้บ้านเย็นสบาย และเพื่อให้บ้านดูโปร่งเบาตามากที่สุด ผมยังซ่อนเสาโครงสร้างหลักเข้าไปอยู่ในตู้บิลท์อินภายในบ้านทั้งหมด เน้นทางเดินโปร่งๆ รอบบ้านโดยไม่มีเสาอาคารมาบดบัง ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็สามารถมองผ่านผนังกระจกออกมาชมธรรมชาติได้แบบไม่มีห้องไหนที่บดบังวิวกันเลย”
เมื่อผนังบ้านทุกด้านเป็นกระจกใสทั้งหมด นอกจากการติดม่านม้วนไฟฟ้าไว้ภายในแล้ว คุณขจียังใช้วิธีการปลูกต้นไม้ล้อมรอบบ้านเพื่อเป็นสร้างร่มเงาและพรางความเป็นส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่ากว่าต้นไม้จะเติบโตแผ่กิ่งก้านใบเขียวได้เต็มที่ก็ต้องใช้เวลาหลายปี แต่เรียกว่าคุ้มค่าการรอคอยที่ได้เห็นแนวรั้วไม้ไผ่สวยๆ กลายเป็นรั้วธรรมชาติที่ดูสบายตาและกั้นขอบเขตระหว่างบ้านสองหลังได้อย่างสวยงาม ด้วยการหันแกนบ้านให้มีทิศทางแตกต่างกันทำให้บ้านหลังใหญ่ซึ่งมีพื้นที่ราว 150 ตารางเมตรนั้นหันหน้าออกไปรับแสงเช้าทางทิศตะวันออก ขณะที่บ้านหลังเล็กซึ่งมีพื้นที่ราว 100 ตารางเมตรหันหน้าไปทางทิศเหนือ
“ผมอยากได้ความรู้สึกที่ตื่นมาเจอกับแสงอาทิตย์ตอนเช้าโผล่มาตรงปลายเตียง ก็เลยหันห้องนอนออกไปทางทิศตะวันออก และมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้า ได้มองเห็นน้ำสะท้อนแสงอาทิตย์กับเงาต้นไม้ ได้สัมผัสถึงความสงบและสดชื่นของธรรมชาติรอบตัว แต่ถ้าวันไหนไม่อยากรับแสงก็แค่กดรีโมตเลื่อนม่านลงมา”
แม้ภายนอกจะดูเป็นบ้านทรงกล่องสไตล์โมเดิร์น แต่ภายในเน้นการใช้วัสดุไม้จริงตกแต่งแทบทั้งหมด โดยไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้เก่าที่คุณขจีสะสมไว้ผสมผสานระหว่างไม้สักกับไม้โอ๊ก ทำให้บรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นมาก รวมไปถึงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวโดยใช้ไม้เป็นวัสดุประกอบอย่างกลมกลืน และหลายๆ ชิ้นทั้งโซฟา เก้าอี้ เตียงนอน หรือม้านั่งก็เน้นให้มีเส้นสายบางเบาหรือซ่อนส่วนขาให้ดูหายไปจากสายตา เพื่อให้คล้ายกับลอยอยู่เหนือพื้นไม้
“ผมชอบไม้เก่าตรงที่มันมีร่องรอยของกาลเวลาอยู่ มันเป็นความสวยงามเฉพาะตัว แต่ละชิ้นก็มีคุณค่าในตัวเองที่ไม่ซ้ำกัน ก็เหมือนกับคนที่มีความงามแตกต่างกันไป การได้มาพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและสัมผัสกับความอบอุ่นของไม้ภายในบ้าน มันก็เหมือนได้เติมพลังชีวิตให้ตัวเอง อีกอย่างผมยังเปิดบ้านนี้แบ่งปันให้คนที่ชอบได้มาเข้าพักในเวลาที่ผมไม่อยู่ด้วย เพื่อให้ตัวบ้านมีการใช้งานและยังสร้างรายได้มาเป็นค่าดูแลต่างๆ ได้ด้วย”
เจ้าของ : คุณสุพรรณี วิจิตพาวรรณ และคุณขจี เกศจุมพล
ออกแบบ : คุณขจี เกศจุมพล Hachi Brand
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์