รู้จัก “อาร์ติโช้ก” ผักหน้าตาแปลกที่ใครๆก็อยากลองกิน
ช่วงนี้ถ้าใครเล่น TikTok จะเห็นฟีดเกี่ยวกับการลองชิม อาร์ติโช้ก (Artichoke) ในรูปแบบต่างๆ จนกลายเป็นไวรัลที่ทำให้ใครๆก็อยากหาเจ้าผักหน้าตาคล้ายดอกบัวนี้มาลองกินกันดูบ้าง
จริงๆแล้วมีการค้นพบ อาร์ติโช้ก มานานกว่า 3,000 ปีแล้ว เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคของชาวอียิปต์ ชาวกรีก และชาวโรมันโบราณพืชชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cynara scolymus อยู่ในวงศ์ Asteraceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับทานตะวัน เป็นพืชเมืองหนาวที่มีต้นกำเนิดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ใบเขียว และพันธุ์ใบม่วง ลักษณะลำต้นโปร่ง สูงประมาณ 0.50 – 1 เมตร ดอกมีลักษณะเป็นกลีบแข็งซ้อนกันแน่นหลายชั้น ทั้งสองสายพันธุ์มีดอกที่มีหน้าตาเหมือนกัน ให้รสชาติเดียวกัน มีอายุการเก็บเกี่ยวยาวนานถึง 5-10 ปีเลยทีเดียว เมื่อเก็บเกี่ยวจนหมดแล้วจะตัดต้นช่วงบนทั้งหมดทิ้ง เหลือไว้เป็นตอสูง 8-10 นิ้ว เพื่อให้ตายอดแตกเป็นต้นใหม่ต่อไป
ส่วนของอาร์ติโช้กที่นิยมนำมากินก็คือ ดอก โดยการตัดกลีบเลี้ยงด้านนอกออก แล้วกินบริเวณกลีบดอกด้านใน กินได้ทั้งแบบสดโดยใส่ในสลัด หรืออาจนำไปนึ่ง ลวก ชุบแป้งทอด ดองเปรี้ยวก็ยังได้ หรือจะหั่นตากแห้ง แล้วชงดื่มเป็นชาก็ได้
อาร์ติโช้กยังเป็นพืชที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางสารอาหารซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารอินูลิน ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารที่ไม่ให้แคลอรีช่วยยับยั้งการย่อยแป้งเป็นน้ำตาล ลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จึงเหมาะสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ตับถูกทำลาย และเสริมสร้างเซลล์ตับหลังจากขับของเสียออกจากร่างกายด้วย
สำหรับรสชาติของอาร์ติโช้กนั้นจะออกแนวจืดๆมันๆ บางคนว่าเหมือนกินถั่ว เม็ดขนุน ไปจนถึงหัวปลี อันนี้ก็แล้วแต่ลิ้นของแต่ละคน แต่ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายของเจ้าอาร์ติโช้ก ก็น่าลองหามาชิมบ้างเหมือนกันนะครับ
เรื่อง : อธิวัฒน์
ภาพ : Freepik
10 ผักนอกปลูกง่าย ปลูกในกระถาง ให้ผลผลิตดีเหมือนปลูกลงแปลง
เคล (Kale) ผักเมืองนอกปลูกได้ในไทย ปลูกได้ตลอดปีแม้มีพื้นที่จำกัด