การล้างห้องน้ำด้วยน้ำส้มสายชู แค่ขวดเดียวก็เอาอยู่ได้สารพัดคราบ
ส่วนผสมในบ้านที่ตอนนี้ต้องมีติดไว้เลยก็คือน้ำส้มสายชูนั่นเอง เพราะด้วยราคาที่ย่อมเยา แถมยังความสามารถรอบด้าน ขึ้นแท่นเครื่องปรุงสารพัดประโยชน์ครอบจักรวาลอีกด้วย เรื่องงานทำความสะอาด น้ำส้มสายชูต่างก็ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าแม่บ้าน ว่าใช้ดี ปลอดภัย เอาอยู่มาแล้วทุกคราบสกปรกรวมถึงคราบสกปรกในห้องน้ำ ที่มีทั้งปัญหาเรื่องกลิ่นและคราบสารพัดรูปแบบ มีแค่น้ำส้มสายชูขวดเดียว ก็สามารถหยิบมาทำความสะอาดได้เกือบหมดทุกมุมเลย วันนี้ บ้านและสวน นำเอา ประโยชน์ของน้ำส้มสายชู กับหน้าที่การทำความสะอาดภายในห้องน้ำ มาฝากกัน
1 . ขจัดคราบหินปูนที่หัวฝักบัว
กว่าจะได้ฤกษ์นำฝักบัวมาขัดล้างทำความสะอาดก็อาจเป็นปี พอมาดูอีกทีก็มักจะมีคราบหินปูนสะสมเต็มไปหมด ซึ่งไม่ได้ขัดออกง่าย ๆ แน่นอน การนำมาแช่ด้วยน้ำส้มสายชูนั้นเป็นวิธีที่ช่วยให้ไม่ต้องออกแรงขัดกันจนกล้ามขึ้นได้ โดยให้ใส่น้ำส้มสายชูแบบไม่ต้องผสมน้ำลงในถุงพลาสติกหรือภาชนะที่มีขนาดกำลังพอดี และนำหัวฝักบัวมาแช่ลงไปหรือมัดคลุมทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถ้าหากคราบหินปูนที่สะสมอยู่เริ่มอ่อนตัวลงเมื่อไรจึงค่อยน้ำเปิดน้ำผ่านและขัดออกให้สะอาด
2 . จัดกระจกให้ใสปิ๊ง
การขัดคราบด่างหรือคราบสบู่ที่เลอะติดบนกระจกจนขาวโพลนไปทั้งบานจะไม่ใช่งานยากอีกต่อไป เพราะแค่น้ำส้มสายชูและน้ำยาล้างจานก็สามารถเปลี่ยนกระจกที่เต็มไปด้วยคราบหมองให้ใสปิ๊งได้ ! เริ่มจากเทน้ำส้มสายชูประมาณ 1 – 2 ถ้วยตวง ใส่ลงในภาชนะ และผสมน้ำยาล้างจานอีกประมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ ตามลงไปให้พอมีฟอง ก็จะได้ส่วนผสมที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับฟองน้ำหรือแผ่นใยขัดอเนกประสงค์เพื่อทำความสะอาดกระจกได้ ไม่ว่าจะเป็นคราบด่างจากน้ำ หรือคราบสบู่และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่กระเด็นมาเลอะติดก็สามารถจัดการได้หมด
3 . เช็ดก๊อกน้ำให้เงาสวย
การใช้น้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาดก๊อกน้ำสเตนเลสให้กลับมาเงาวั๊บเหมือนใหม่นั้นทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะแค่ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าอย่างละเท่า ๆ กันลงในขวดสเปรย์หรือภาชนะ ก็สามารถนำไปฉีดพ่นและเช็ดออก หรือนำฟองน้ำมาชุบเพื่อไปเช็ดคราบได้เลย แต่ถ้าหากมีส่วนผสมเหลือจากการขัดกระจกหรือทำความสะอาดสส่วนอื่น ๆ ภายในห้องน้ำ ก็สามารถนำมาเช็ดก๊อกน้ำที่เต็มไปด้วยคราบด่างให้เงาสวยได้เหมือนกัน
4 . ล้างคราบด่างจากสบู่
ปัญหากวนใจอีกอย่างที่มักเกิดขึ้นบนพื้นหรือผนังในห้องน้ำก็คือคราบจากสบู่ที่มักจะทิ้งรอยด่างสีขาวเอาไว้ แม้จะไม่ใช่คราบสะสมที่หนามากแต่ก็ขัดออกยากพอตัว ซึ่งถ้าหากเจอคราบนี้บ่อย ๆ ก็สามารถผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:4 ใส่ไว้ในขวดสเปรย์เพื่อหยิบมาฉีดพ่นและขัดทำความสะอาดได้อย่างทันใจ ใช้ห้องน้ำเสร็จเมื่อไรก็หยิบมาฉีดและเช็ดออกได้เลย โดยพื้นผิวที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูก็คือหินประเภทต่าง ๆ ถ้าเป็นกระเบื้องหรือพื้นผิวอื่น ๆ ก็ใช้ได้ตามสบายเลยค่ะ ส่วนวิธีที่พอช่วยลดการเกิดคราบได้ก็คือการล้างพื้นและผนังด้วยน้ำเปล่าเป็นประจำทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ เพื่อไม่ให้คราบแห้งติดจนเป็นรอยนั่นเอง
5 . ขัดร่องยาแนวให้ไร้คราบ
เรื่องความชื้นกับห้องน้ำเป็นอะไรที่หนีกันไม่พ้น ปัญหาราดำและคราบสะสมบริเวณร่องยาแนวจึงเกิดขึ้นได้เสมอ แต่การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นสารเคมีนั้นก็อาจกัดคราบรุนแรงเกินไปจนทำร้ายพื้นผิวและเกิดปัญหารั่วซึมตามมาได้ การใช้น้ำส้มสายชูจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีกว่า โดยถ้าผสมน้ำยาล้างจานลงไปอีกหน่อยก็สามารถนำแปรงมาจุ่มและใช้ขัดคราบราดำตามร่องยาแนวบนผนังได้เลย แต่ถ้าเป็นคราบตามร่องกระเบื้องบนพื้นห้องน้ำก็อาจนำน้ำส้มสายชูมาราดทิ้งไว้ก่อนสักประมาณ 5 – 10 นาที แล้วค่อยผสมน้ำยาล้างจานมาขัดออกให้สะอาดอีกครั้ง
6 . ทำความสะอาดโถชักโครก
แม้แต่คราบภายในชักโครกก็สามารถใช้น้ำส้มสายชูมาช่วยทำความสะอาดได้เหมือนกันค่ะ ถ้าวันไหนไม่อยากใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีสารเคมีรุนแรงก็สามารถหยิบน้ำส้มสายชูมาราดลงไปในโถชักโครกให้ทั่วถึงและทิ้งไว้อย่างน้อยสักครึ่งชั่วโมงได้เลย จากนั้นจึงค่อยนำแปรงมาขัดออกตามปกติ แต่ถ้าหากเป็นคราบหนักที่ออกยากก็อาจจำเป็นต้องเทราดทิ้งไว้ข้ามคืน หรือทำซ้ำสัก 1 – 2 รอบ ก็จะช่วยให้คราบหลุดออกง่ายขึ้น
7 . สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์
นอกจากการนำมาขจัดคราบเฉพาะจุดตามมุมต่าง ๆ ในห้องน้ำแล้วก็ยังนำน้ำส้มสายชูมาผสมใส่ขวดสเปรย์ตั้งไว้เป็นน้ำยาทำความสะอาดแบบอเนกประสงค์ได้ด้วยค่ะ โดยสามารถใช้น้ำส้มสายชูตั้งแต่ ½ – 1 ถ้วยตวง ผสมเข้ากับน้ำเปล่า 3 – 4 ถ้วยตวง ตามความเข้มข้นที่ต้องการได้เลย ถ้าไม่อยากให้คราบสะสมตรงจุดไหนมากเกินไปก็สามารถหยิบมาฉีดพ่นและใช้ฟองน้ำเช็ดได้อย่างทันใจ แต่ถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นมาหน่อยเพื่อใช้เป็นสเปรย์ลดกลิ่นไปในตัวก็สามารถผสมเปลือกส้มหรือหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไปด้วยได้
